เผย 8 มุมมองจาก 8 สุดยอดแบรนด์ชั้นนำ ในแคมเปญ “Cortez 40/40” สะท้อน 4 ทศวรรษแห่งตำนานรองเท้าวิ่งไนกี้รุ่นแรก “ไนกี้ คอร์เทซ”

ข่าวทั่วไป Thursday May 31, 2012 11:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--Verve เผย 8 มุมมองจาก 8 สุดยอดแบรนด์ชั้นนำ ในแคมเปญ “Cortez 40/40”สะท้อน 4 ทศวรรษแห่งตำนานรองเท้าวิ่งไนกี้รุ่นแรก “ไนกี้ คอร์เทซ”ครั้งแรกแห่งการเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ผ่านศิลปะการดัดแปลงรองเท้าไนกี้ คอร์เทซ” ถ้าพูดถึงรองเท้าสปอร์ตแวร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมายาวนานจากรุ่นสู่รุ่นจนกลายเป็นที่กล่าวขาน คงไม่สามารถปฏิเสธ “ไนกี้ คอร์เทซ” ไอคอนสุดคลาสสิคซึ่งสามารถครองใจผู้คนดั่งต้องมนต์สะกดมายาวนานถึง 4 ทศวรรษได้ โดยเมื่อย้อนกลับไปใน ปีคศ. 1972 ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์รองเท้ารุ่นไอคอนระดับโลกของไนกี้ โดย “บิล บาวเวอร์แมน” โค้ชทีมกรีฑาสหรัฐอเมริการะดับตำนาน ซึ่งตลอดชีวิตของเขาได้ทุ่มเทให้กับการประดิษฐ์คิดค้น และดัดแปลงรองเท้าวิ่งที่จะช่วยให้นักวิ่งสามารถวิ่งได้ดีขึ้น จนในที่สุดก็ได้ให้กำเนิด “ไนกี้ คอร์เทซ” รองเท้าวิ่งรุ่นแรกของไนกี้ที่มีโลโก้ สวู้ช (Swoosh) ติดอยู่ที่ข้างรองเท้า ซึ่งได้ปฏิวัติรูปแบบของรองเท้าวิ่งด้วยการใช้พื้นชั้นกลางที่ยาวตลอดเท้าและมอบความสบายได้อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน แต่ยังดูเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง จนถึงทุกวันนี้เป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว ไนกี้ คอร์เทซ ยังคงเป็นที่ชื่นชอบ มีผู้ที่หลงใหลในรองเท้ารุ่นนี้อยู่เป็นจำนวนมากเพราะความเบาสบายเมื่อสวมใส่ ประกอบกับความสวยแบบเรียบง่ายและความทนทานที่ผสานกันได้อย่างลงตัว ไนกี้ คอร์เทซ ได้รับการขนานนามว่าเป็นรองเท้าที่สะท้อนถึงความ “เสมอภาค” ได้มากที่สุดเท่าที่ไนกี้ สปอร์ตแวร์ เคยมีมาและได้กลายเป็นต้นแบบของรองเท้ารูปแบบใหม่ๆ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่นี้ ไนกี้ จึงได้จัดแคมเปญ “Cortez 40/40” โดยเชิญศิลปินและผู้มีชื่อเสียงจากหลากหลายสาขาจำนวน 40 คน จาก 5 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานศิลปะบนรองเท้าที่ถ่ายทอดเรื่องราว 40 แนวคิด เพื่อสะท้อนประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของ ไอเท็มยอดฮิตตลอดกาล โดยสำหรับประเทศไทยได้รับเกียรติจาก 8 ศิลปินชั้นนำหลากหลายสาขาทั้ง ค่ายเพลงสมอลล์รูม นิตยสาร CHEEZE — CHEEZE LOOKER แบรนด์เสื้อผ้าบุรุษ PAINKILLER แบรนด์เครื่องประดับ MISSILE แบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องประดับสุดแนว HIM & HER CMYK ผู้จัดปาร์ตี้ที่ผสมผสานทั้งเรื่องแฟชั่นและดนตรี POMME CHAN นักวัดภาพประกอบชื่อดัง และช่างภาพผู้กำกับภาพยนตร์สั้น เจ้าของรายการ Around Me ทาง youtube อย่างชาติฉกาจ ไวกวี โดยศิลปินรุ่นเก๋าอย่าง รุ่งโรจน์ อุปถัมภ์โพธิวัฒน์ ผู้ร่วมก่อตั้งค่ายเพลงอินดี้ชั้นนำอย่าง “สมอลล์รูม” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของเขาที่ได้วาดลวดลายอวดฝีมือศิลปะการดัดแปลงรองเท้า โดยเขาได้สะดุดตากับความเรียบง่ายที่ลงตัวของไนกี้ คอร์เทซ ซึ่งสะท้อนสัจธรรมของอัตลักษณ์ความเป็นตัวตนอันแท้จริงของศิลปินค่ายสมอลล์รูมได้เป็นอย่างดี จึงได้ออกมาเป็นคอนเซ็ปต์ในการออกแบบไนกี้ คอร์เทซ โดยเน้นความ “See Through” ที่มีที่มาจากตัวตนของค่ายเพลงที่นำเสนอความโปร่งใส จริงใจ ไม่ซ่อนเร้น ในแง่ของการออกแบบ สมอลล์รูมจึงนำเสนอความโปร่งใส ด้วยการดัดแปลงโลโก้ Swoosh ของไนกี้ คอร์เทซ ด้วยวัสดุโปร่งใส สามารถมองเห็นทะลุถึงด้านในรองเท้า และลิ้นรองเท้าด้านหลังสกรีนโลโก้ของสมอลล์รูมลงไป โดยให้พื้นรองเท้าและเชือกรองเท้าเป็นเส้นสีขาว ส่วน ชาติฉกาจ ไวกวี ช่างภาพผู้กำกับภาพยนตร์สั้น เจ้าของรายการ Around Me ทาง Youtube โดยชาติฉกาจมีมุมมองเกี่ยวกับ ไนกี้ คอร์เทซ ว่าไม่ใช่แฟชั่นแต่มองว่าคือ “ชีวิต” เหมือนกับคนที่มีอายุ 40 ปี ที่เราไม่ต้องไปแต่งเติมอะไร ปล่อยให้กาลเวลาเป็นตัวเล่าเรื่อง บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งได้เสนอผลงานผ่านภาพยนตร์สั้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Life” ความเชื่อมโยงระหว่างการวิ่งและธรรมชาติ การวิ่งเป็นวิธีที่ทำให้เราเข้าใกล้ธรรมชาติ เมื่อรู้จักกับธรรมชาติ ธรรมชาติจะนำพาเราไปรู้จักกับอิสระ ซึ่งการวิ่งทำให้ตัวตนของเราได้มองเห็นสิ่งรอบตัวมากขึ้น เท้าของเราได้สัมผัสดิน เเละรู้ว่าเเสงอาทิตย์จับต้องได้มากกว่าสิ่งที่มองเห็น ซึ่งการวิ่งเราอาจต้องมีคู่หู ได้แก่ รองเท้าที่เข้าใจสักคู่ ชาติฉกาจเลือกพระอาทิตย์เป็นคู่หูในการทำงาน จึงใช้เเรงบันดาลใจสร้างไนกี้ คอร์เทซในรูปเเบบของตัวเอง โดยใช้วัสดุเเละอุปกรณ์เพียงสองอย่างคือ “เวลา” เเละ “ธรรมชาติ” เพราะเป็นผู้ที่ชื่นชอบและสะสมรองเท้ามาเป็นเวลานาน จึงมีความผูกพันธ์กับรองเท้าไนกี้ คอร์เทซ เป็นพิเศษ ประกอบกับอาชีพดีเจที่ต้องอยู่คู่กับรองเท้าสนีกเกอร์คู่ใจ ดีเจบอล กันตพัฒน์ สิริเกียรติยศ ผู้จัดปาร์ตี้ที่ผสมผสานทั้งเรื่องแฟชั่นและดนตรีในนาม “Ballistic CMYK” และเป็นหนึ่งในกูรูด้านรองเท้าอันดับต้นๆ ของประเทศ จึงนำส่วนผสมจำเพาะของชีวิตตนเองต่างๆ เข้ามาแมทช์กันทั้งเครื่องไม้เครื่องมือของอาชีพดีเจ แฟชั่น และดนตรีอิเล็กโทร ให้เกิดความกลมกล่อมที่สุด โดยนำเสนอผ่านคอนเซ็ปต์ของสี CMYK มาบวกกับความเป็น Fashionable Party โดยเลือกใช้หนังของนกกระจอกเทศฟอกสีชมพูมาตัดให้ได้ขนาดเดียวกับ Swoosh และนำด้ายสีเหลืองเย็บตัดสีกับหนังสีชมพู และยังนำแรงบันดาลใจจากอาชีพดีเจมาใช้ โดยการนำวัสดุหลายอย่างผสมผสาน เช่น การนำสายไฟของหูฟังเอามาเป็นเชือกรองเท้า และใช้แจ็คหูฟังมาเป็นปลายเชือก นอกจากนี้ยังได้ออกแบบ Lacelock รุ่นพิเศษที่มีโลโก้ของ CMYK และแผ่นเสียงเพื่อมาประกอบลงบนตัวรองเท้าอีกด้วย “เมื่อผู้ชายในแบบ Painkiller ต้องถูกฝึกซ้อมโดย โค้ชบิล บาวเวอร์แมน จะเป็นอย่างไร?” เป็นสมมติฐานแรกเริ่มสู่การดีไซน์รองเท้าไนกี้ คอร์เทซในครั้งนี้ของ สิริอร เฑียรฆประสิทธิ์ ดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์เสื้อผ้าบุรุษ Painkiller โดยเธอได้นำเสนอผ่านแรงบันดาลใจภายใต้คอนเซ็ปต์ของชัยชนะ ด้วยการศึกษาประวัติความเป็นมาของรองเท้า รวมถึงคำพูดของโค้ชบิล บาวเวอร์แมน ผู้ก่อตั้งร่วมของไนกี้ ที่ว่า “You don’t run at the mouth, you run on the track” จึงดีไซน์ออกมาเป็นชุดสูท ยูนิฟอร์มสีแดงซึ่งหมายถึงชัยชนะและจิตใจที่ฮึกเหิม โดยประกอบไปด้วยเสื้อสูทที่กระเป๋าทำมาจากผ้าตาข่าย กางเกงขาสั้น และเสื้อกล้ามพิมพ์ลาย Just Do It พร้อมรองเท้าไนกี้ คอร์เทซ ที่มีข้อความให้กำลังใจบนตัวรองเท้า แต่ทั้งนี้ผู้ชายในแบบ Painkiller ไม่ใช่ผู้ชายที่ต้องการอวดชัยชนะขนาดที่จะต้องนำเหรียญมาห้อยคอ จึงได้ดีไซน์กระเป๋าใส่เหรียญรางวัลเอาไว้ตรงอกด้านซ้าย บ่งบอกถึงความอ่อนน้อมในแบบฉบับของ Painkiller เช่นเดียวกันกับ นักออกแบบเครื่องประดับแบรนด์ MISSILE อย่าง ปกรณ์ วงษ์กิตติไกรวัล ที่ได้เล็งเห็นถึงความสอดคล้องกันระหว่างไนกี้ คอร์เทซ ที่ถูกออกแบบโดยใช้วัสดุที่มีความเบา เพื่อช่วยให้นักกีฬาสามารถเคลื่อนไหวไปข้างหน้าเพื่อคว้าชัยชนะได้อย่างคล่องตัว เช่นเดียวกับแบรนด์ MISSILE ที่มองไปข้างหน้าเช่นกัน จึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์ในการออกแบบภายใต้นิยามของ “ความเร็ว” คือการสวมใส่ที่เบาสบายและความรวดเร็วในการเคลื่อนไหว โดยสร้างสรรค์ผลงานด้วยร่องรอยประทับของการวิ่งเพื่อตอกย้ำถึงความเร็วในการเคลื่อนไหวเมื่อได้สวมใส่ ซึ่งสื่อความหมายถึงไนกี้ คอร์เทซเป็นผู้นำของรองเท้าสำหรับนักวิ่งโดยเฉพาะ และได้ฝากร่องรอยประทับให้ผู้อื่นวิ่งตามรอยเท้านั้นนั่นเอง ในขณะที่ ปู - จิรัฎฐ์ พรพนิตพันธุ์ ผู้ก่อตั้งและบรรณาธิการบริหารนิตยสาร CHEEZE — CHEEZE LOOKER ผู้คร่ำหวอดในวงการสตรีทแฟชั่นของเมืองไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นหนึ่งในผู้หลงใหลในความเบาสบายของไนกี้ คอร์เทซ ซึ่งปูได้เผยว่า ตนเองมีความสุขทุกครั้งที่ได้สวมใส่ไนกี้ คอร์เทซ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม และมองว่ายังมีอีกหลายๆ คนที่ยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสรอยยิ้มเหล่านั้น จึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์ “การแบ่งปันทางแฟชั่น” โดยการนำรองเท้าไนกี้ คอร์เทซที่ผ่านการดัดแปลงไปให้ผู้ด้อยโอกาสจำนวน 40 คน ได้ทดลองสวมใส่เป็นครั้งแรกและถ่ายภาพในสไตล์ On Street ซึ่งเป็นรูปแบบการถ่ายภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของนิตยสาร ?CHEEZE และ LOOKER แล้วนำมาพิมพ์ลงบนภาพถ่ายโปสเตอร์ขนาดใหญ่ ด้วยความเชื่อที่ว่าความสุขเป็นความเสมอภาคที่มนุษย์ทุกคนควรได้รับ และการแบ่งปันสิ่งดีๆ ที่เรามี จะทำให้เรามีความสุขมากกว่าการใช้สิ่งดีๆ ที่เรามีหลายเท่านัก ส่วน ดิลกลาภ จันทโชติบุตร และพลอย หอวัง ผู้ก่อตั้งร้านเสื้อผ้าและเครื่องประดับสุดแนว HIM & HER ซึ่งนำเสนอผ่าน คอนเซ็ปต์การเดินทางอันยาวนานกว่า 40 ปีของรองเท้าไนกี้ คอร์เทซ โดยรวมเข้ากับสไตล์เสื้อผ้าและการแต่งตัวของทางร้าน ซึ่งเป็นเสื้อผ้าในสไตล์คลาสสิควินเทจในเสนอ 2 แง่มุม คือความแข็งแกร่งของผู้ชายโดยเลือกใช้วัสดุอย่างผ้าอินดิโกที่มีความหนาเพื่อสื่อถึงความแข็งแกร่งในโทนสีเข้ม พร้อมแต่งแต้มลอยเลอะเพื่อสื่อถึงความสมบุกสมบันและกลิ่นอายของความแข็งแรง อีกหนึ่งแง่มุมคือ ความอ่อนโยนของผ้าลายดอกไม้บางเบาในโทนสีสด เพื่อสื่อถึงความสวยงาม อ่อนโยนและความสดใสของผู้หญิง ซึ่งใช้เทคนิคการตัดแปะหรือ ?Patchworks และนำเสนอในรูปแบบการจัดวางกับคอนเซ็ปต์ของต้นไม้ ที่เปรียบเสมือนความเข้มแข็งของฝ่ายชายที่คอยเกื้อหนุนฝ่ายหญิง เสมือนเช่นคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ HIM & HER นั่นเอง หลายคนอาจเคยรู้จักและเป็นแฟนคลับตัวยงของ ปอม - ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง นักวาดภาพประกอบชื่อดังที่ไปประสบความสำเร็จที่กรุงลอนดอนในนาม “Pomme Chan” โดยผลงานส่วนใหญ่ของเธอจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากชีวิตประจำวันซึ่งเกี่ยวกับธรรมชาติ แฟชั่น สิ่งก่อสร้าง และผู้หญิง ซึ่งเธอได้ทำความรู้จักกับไนกี้ คอร์เทซ ครั้งแรกจากเพื่อนๆ และภาพยนตร์เรื่อง FORREST GUMP อย่างที่ทราบกันดีว่า ไนกี้ คอร์เทซ เป็นรองเท้ารุ่นแรกของไนกี้ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของรองเท้ารุ่นอื่นๆ ต่อมา จึงอยากใช้ไอเดียเกี่ยวกับการกำเนิดของต้นไม้ เมื่อนึกถึงตอนใส่รองเท้าคู่นี้วิ่ง ก็ทำให้นึกถึงลมและคลื่นเบาๆ ขณะวาดบนรองเท้า ก็อยากให้ออกมาดูแล้วรู้สึกว่ารองเท้าเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย จึงนำแนวคิดทั้งหมดมาสัมพันธ์กัน สำหรับสีที่ใช้เป็นสีขาวดำ เพราะบางครั้งการใส่สีเป็นการเน้นหรือสื่อความรู้สึกบางอย่างให้ผู้ชม ซึ่งงานนี้อยากให้คนที่เห็นผลงานสามารถใส่จินตนาการลงไปได้อย่างเต็มที่ เพื่อสร้างเรื่องราวของความสนุกและไม่ธรรมดาให้กับรองเท้าไนกี้ คอร์เทซ คู่นี้ ร่วมเฉลิมฉลองการครบรอบ 40 ปีของไอคอนสุดคลาสสิคระดับตำนานที่ได้รับความนิยมทั่วโลกอย่าง “ไนกี้ คอร์เทซ” ผ่านผลงานศิลปะการตกแต่งดัดแปลงรองเท้าของศิลปินทั้งแปดได้ที่ร้านไนกี้ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ตลอดเดือนพฤษภาคม 2555 และพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อรองเท้าไนกี้ คอร์เทซ ร้านไนกี้ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ในเดือน พฤษภาคม — มิถุนายน 2555 สามารถรับกระเป๋ารองเท้าลิมิเต็ดเอดิชั่นสุดพิเศษที่ออกแบบโดยศิลปินทั้งแปด ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ NIKESPORTSWEAR.IN.TH สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ: อมรเทพ อักษร (ตื้น) โทร. 02-204-8509 อุษณีย์ จรูญพิพัฒน์กุล (โน้ต) 02-204-8201

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ