ททท. เตรียมจัดบิ๊ก World Event "เทศกาลท่องเที่ยวสีสันตะวันออก" ปั้นเมืองพัทยาศูนย์กลางกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวติดตลาดโลก

ข่าวกีฬา Tuesday June 15, 2004 13:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--ททท.
ททท. เสริมภาพลักษณ์เมืองพัทยา ปั้นกีฬาเป็นพระเอก ยกระดับวัฒนธรรมการท่องเที่ยวแบบมีส่วนร่วม สัมผัสกิจกรรมกีฬาชายหาด
และกีฬาท้าทาย ขยายกลุ่มเป้าหมายเอาใจนักท่องเที่ยวที่ชอบความสนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจ หลังพบแนวโน้มนักท่องเที่ยวให้ความสนใจ
กิจกรรมกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว คาดเป็นจุดเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวของภาคตะวันออก ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด นอกเหนือไปจาก
จุดขายด้านการท่องเที่ยว เชิงเกษตร และเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจที่ติดตลาดอยู่ในขณะนี้ ชูงาน Pattaya International Beach
Challenge ระหว่างวันที่ 16-18 ก.ค. 2547 เป็นไฮไลท์พร้อมดึงนักกีฬาจากชาติในเอเชียกว่า 10 ประเทศร่วมแข่งขันกีฬา Beach
Volleyball, Beach Soccer, Fun Run และ X Games หวังสร้างสีสันให้เมืองพัทยาและภาคตะวันออก กระตุ้นการเดินทางท่อง
เที่ยวในภาคตะวันออกกระหึ่ม! ตลอดเดือน ก.ค.นี้ และในระยะยาวต่อไป
นายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ รองผู้ว่าการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ภาคตะวัน
ออกของไทยถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีความสำคัญของประเทศไทย นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นที่
รู้จักของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก มีจุดเด่นของสินค้าทางการท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งธรรมชาติ หาดทราย ชายทะเล และสวนผลไม้ตาม
ฤดูกาล โดยในปีที่ผ่านมา ภาคตะวันออกมีรายได้จากนักท่องเที่ยวถึง 5.3 หมื่นล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ 3.1
ล้านคน และชาวไทยจำนวน 5.9 ล้านคน
จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวภาคตะวันออก ปี 2546
จังหวัด จำนวนนักท่องเที่ยว รายได้หมุนเวียน
ชาวไทย ชาวต่างประเทศ (ล้านบาท)
ชลบุรี 2.6 ล้านคน 2.8 ล้านคน 41,000
ระยอง 2.2 ล้านคน 2.5 แสนคน 7,800
จันทบุรี 4.6 แสนคน 1.9 หมื่นคน 998
ตราด 4.8 แสนคน 9.4 หมื่นคน 2,500
"ททท. มองว่าภาคตะวันออกเป็นภาคที่มีโอกาสเติบโตอีกมาก จะเห็นได้ว่าในแง่ธุรกิจการท่องเที่ยว ขณะนี้มีการลงทุนในรูป
แบบต่างๆ มากขึ้น เช่น อันเดอร์วอเตอร์เวิล์ด หรือกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวอื่นๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ไม่ว่าจะเป็น
สวนสนุก และอควาเรียม ในอนาคตเชื่อว่าจะมีอีกหลายโครงการในลักษณะนี้ และเนื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิจะเปิดใช้ในปี 2548 ซึ่ง
จะทำให้การเดินทางไป ชลบุรี ระยอง และจังหวัดในแถบนี้ มีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น นั่นเป็นเหตุผลอีกประการหนึ่งที่ทำให้การท่อง
เที่ยว การลงทุนต่างๆ ในแถบนี้มีอัตราการเติบโตสูง" นายสันติชัย กล่าว
และด้วยศักยภาพของภาคตะวันออก ขณะนี้ ททท. จึงต้องเร่งดำเนินการด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวในแถบนี้อย่างเข้มข้น
ล่าสุดเตรียมจัดงาน "เทศกาลท่องเที่ยวสีสันตะวันออก" (Unseen Season of The East) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเวิร์ลดอีเว้นท์ใหญ่ของ ททท.
ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยจะจัดกิจกรรมไฮไลท์ ระหว่างวันที่ 16-18 ก.ค. นี้ ตั้งแต่ 16.00-22.00 น. บริเวณชายหาดพัทยากลาง
นักท่องเที่ยวสามารถมีส่วนร่วมกับกิจกรรมกีฬา ชายหาด และกีฬาตื่นเต้นท้าทายหลากหลาย เช่น วอลเลย์บอลชายหาด ฟุตบอลชายหาด
วิ่งชายหาด มินิมาราธอน(Fun Run) และเอ็กซ์เกมส์ (Bicycle Stunt, Sket Boarding,In-Line Sketing)
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ททท. ได้ใช้กลยุทธ์หลายด้านในการกระตุ้นส่งเสริมการตลาดทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ โดยจัดให้มี
เวิล์ดอีเว้นท์ใหญ่ๆ ขึ้นต่อเนื่องในหลายรูปแบบด้วยกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของรัฐบาลในอันที่จะผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
ให้ได้ 12 ล้านคน และนักท่องเที่ยวในประเทศ 67 ล้านคนในปี 2547 เพื่อเพิ่มรายได้จากเงินตราต่างประเทศ และให้เกิดการใช้จ่ายภาย
ในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจของชาติ โดยรวม
สำหรับงาน "เทศกาลท่องเที่ยวสีสันตะวันออก" ที่จะนำเสนอศักยภาพของสินค้าการท่องเที่ยวในภาคตะวันออก คือ ชลบุรี ระยอง
จันทบุรี และตราด นอกจาก ททท. จะมุ่งหวังในเรื่องของการเพิ่มรายได้ เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวแล้ว ททท.ยังมุ่งที่จะสร้างภาพลักษณ์ให้กับ
แหล่งท่องเที่ยวภาคตะวันออกของไทยมีจุดขายด้านกีฬาเข้ามาด้วย และถือโอกาสทำให้คนไทยรับรู้และตื่นตัวที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพใน
การจัดงาน Asian Indoor Game ครั้งแรกของโลกซึ่งกำหนดจะจัดขึ้นในเดือน พ.ย. ปี 2548 โดยจะมีการแข่งขันกีฬาในร่ม 9 ประ
เภทด้วยกัน และพัทยาจะเป็นสถานที่หนึ่งที่ใช้ในการจัดงานนอกจากกรุงเทพฯ และสุพรรณบุรี หลังจากปี 2548 จะมีสนามต่างๆ รองรับ ทำ
ให้กีฬามีความน่าสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองพัทยา
ด้านนายนิติ คงกรุต ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคกลาง เขต 3 เปิดเผยว่า พัทยาเป็นเมืองที่มีความสำคัญ
ยิ่งทางด้านการท่องเที่ยวในภาคตะวันออกของไทย นักท่องเที่ยวที่เดินทางมา พัทยาส่วนใหญ่ต้องการพักผ่อนหย่อนใจ ชื่นชมกับบรรยากาศหาด
ทราย ชายทะเล ในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางมาท่องเที่ยวในพัทยา 1.4 ล้านคน ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียน 7.7 พันล้าน
บาท และมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยว 2.7 ล้านคน มีรายได้หมุนเวียน 3.2 หมื่นล้านบาท ในขณะเดียวกันกลุ่มนัก
ท่องเที่ยวที่กำลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน คือ นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกิจกรรมกีฬาชายหาด และกิจกรรมกีฬาที่ตื่นเต้นท้าทาย ซึ่งเป็นกลุ่ม
นักท่องเที่ยวที่ถือได้ว่ามีคุณภาพมีกำลังซื้อสูง และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ททท. ก็ได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมทางด้านกีฬามาอย่างต่อเนื่อง
นายนิติ กล่าวถึงแผนงานของการส่งเสริมการตลาดของเมืองพัทยาในปี 2547 ด้วยว่า จากการสำรวจสถิติและการประชุมร่วม
เพื่อระดมความคิดเห็นจากหลายหน่วยงาน พบว่าตลาดนักท่องเที่ยวในกลุ่มภูมิภาคยุโรปตะวันออก โดยเฉพาะ 3 ประเทศหลัก ประกอบด้วย
ออสเตรเลีย ฮังการี และสาธารณรัฐเช็ค ถือว่าเป็นกลุ่มตลาดที่น่าสนใจ แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะมีจำนวนน้อยเพียง 10 ล้านคน
แต่จากสถิติการเดินทางเข้ามา พักผ่อนที่เมืองพัทยาในช่วงปีที่ผ่านมา ถือว่ามีอัตราการเติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่น่าสนใจ คือเพิ่มขึ้นกว่า 40%
รวมถึงยังเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีอัตราการใช้จ่ายสูง
นอกจากนี้ยุโรปตะวันออกยังเป็นภูมิภาคที่ไม่มีการส่งเสริมการตลาดจากแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ มากนัก และเมืองพัทยายังเป็นแหล่ง
ท่องเที่ยวที่มีปัจจัยสนับสนุนความสนใจของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างน้ำทะเล และชายหาด อีกทั้งภูมิภาคดัง
กล่าวยังมีสายการบินสู่ประเทศไทยโดยตรง ซึ่งทำให้เกิดความเหมาะสมและความรวดเร็วในการเดินทาง คาดว่าในปี 2548 เมื่อสนามบิน
สุวรรณภูมิเปิดใช้ จำนวนเที่ยวบินที่มากขึ้น จะส่งผลให้เมืองพัทยากลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภูมิภาค ทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยว
เมืองพัทยาโตขึ้นด้วย
ภาคตะวันออกของไทยในห้วงเวลานี้จึงเป็นเป้าหมายที่เหมาะสมแก่การผลักดันให้เกิดกระแสการ ท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ยิ่งเมื่อ
ผสานเข้ากับกิจกรรมกีฬาท้าทาย หลากหลายรูปแบบที่นำมาสร้างสีสัน ซึ่งเป็นเสมือน value added ที่ช่วยเสริมให้แหล่งท่องเที่ยวทางธรรม
ชาติเร้าใจนักท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง และมั่นใจว่าจะเป็นจุดขายใหม่ที่ถูกใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ…
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ :
สุขกมล งาม, อัญชลี เชื้อน้อย , รัชฎา บุลนิม โทรศัพท์ 0 2274 4961-2, 0 2691 6302-4--จบ--
-นท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ