เลือกสร้างบ้านอย่างไรให้ถูกใจ โดย ฝ่ายการตลาด บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด

ข่าวทั่วไป Tuesday June 15, 2004 15:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--โอเอซิส มีเดีย
ความต้องการสร้างบ้านเองของกลุ่มผู้บริโภค หรือผู้ที่ไม่ต้องการซื้อโครงการบ้านจัดสรร ในเขตกรุงเทพปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียงปี 2547 คาดว่าตลาดมีมูลค่ารวมประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยประเมินว่าตลาดบ้านสร้างเองส่วนใหญ่หรือประมาณ 65 % ผู้บริโภคยังคงใช้บริการจากกลุ่มแรกคือ ช่างรับเหมาอิสระหรือผู้รับจ้างรายเล็กๆทั่วไป โดยขบวนการผลิตหรือขั้นตอนการก่อสร้าง ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ผ่านการควบคุมคุณภาพให้ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม ทั้งนี้เพราะตลาดกลุ่มนี้ผู้บริโภคเน้นราคาเป็นหลัก ซึ่งผู้บริโภคขาดความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้าและตัวผู้ประกอบการ ทำให้บ้านที่ได้รับขาดคุณภาพ อายุการใช้งานไม่ยาวนาน และไม่คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุน ตลาดบ้านสร้างเองกลุ่มนี้มีราคาโดยเฉลี่ยต่อหน่วยอยู่ที่ประมาณ 1 - 2 ล้านบาท
กลุ่มที่ 2 ได้แก่ ผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีศักยภาพและมีความพร้อม สามารถรับงานก่อสร้างบ้านและอาคารโดยทั่วไป ซึ่งจะรับงานมาจากบริษัทออกแบบหรือกลุ่มสถาปนิก โดยแชร์ตลาดบ้านอยู่ประมาณ 5 - 10 % ซึ่งกลุ่มนี้จะเน้นสร้างบ้านและอาคารทั่วไปในราคาระดับบนหรือบ้านราคาแพง แม้ส่วนแบ่งตลาดต่อหน่วยจะไม่มากนัก แต่มีมูลค่าตลาดรวมค่อนข้างสูงและโตแบบเงียบ ๆ ผู้บริโภคที่ใช้บริการจากผู้ประกอบการกลุ่มนี้ จะต้องแบ่งการว่าจ้างเป็น 2 ส่วนคือ 1.ว่าจ้างออกแบบ 2.ว่าจ้างรับเหมาก่อสร้าง โดยระหว่างก่อสร้างจะมีบริษัทผู้ออกแบบเป็นที่ปรึกษาหรือเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้างของผู้รับเหมาแทนเจ้าของบ้าน ซึ่งราคาค่าจ้างโดยรวมจะสูงกว่าการเลือกจ้างผู้ประกอบการกลุ่มอื่นๆ
กลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน ที่มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ประมาณ 25 - 30 % ปัจจุบันผู้ประกอบการในกลุ่มนี้พยายามอย่างยิ่งที่จะขยายและแชร์ตลาดมาจากกลุ่มแรก โดยสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคได้เข้าใจและรู้จักมากยิ่งขึ้น ด้วยกลยุทธ์การแข่งขันที่หลากหลายของผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ ทั้งในด้านการตลาด การพัฒนาสินค้าและบริการ การสร้างความเชื่อมั่น รวมทั้งการพัฒนาองค์กรและภาพรวมของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยใช้กิจกรรมด้านโฆษณาและประชาสัมพันธ์สื่อสารกับผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา แตกต่างจากกลุ่มแรกและกลุ่มที่ 2
7 องค์ประกอบหลักสร้างบ้านให้ถูกใจ (7 มี)
ในส่วนของผู้บริโภคเอง การสร้างบ้านหนึ่งหลังถือเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการตัดสินใจเลือกผู้ที่จะมาสร้างบ้านจึงต้องพิจารณากันค่อนข้างมาก เพื่อให้ได้บ้านที่ถูกใจมากที่สุด ส่วนขั้นตอนในการพิจารณานั้นก็ต้องมีความรอบคอบ และพิจารณาหลาย ๆ ส่วนประกอบกัน จากการเก็บรวบรวมข้อมูลของฝ่ายการตลาด บริษัทปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด พบว่ามีองค์ประกอบสำคัญๆ ที่ผู้บริโภคควรพิจารณาในการเลือกผู้ประกอบการหรือบริษัทรับสร้างบ้านเพื่อให้ได้บ้านที่ถูกใจมีดังนี้
1.มีที่ตั้งขององค์กร การเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน สถานที่ตั้งของบริษัทหรือสำนักงานถือเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาในอันดับต้น ๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า บริษัทรับสร้างบ้านนั้นมีที่ตั้งอยู่จริง หากเกิดปัญหาในการให้บริการหรือปัญหางานก่อสร้างไม่ได้คุณภาพขึ้นมา จะได้สามารถเข้าไปพูดคุยหรือติดต่อกับเจ้าหน้าที่หรือผู้บริหารได้อย่างสะดวก
2.มีผลงาน บริษัทรับสร้างบ้านที่น่าเชื่อถือต้องมีผลงานที่สามารถตรวจสอบ และเปิดเผยให้เข้าไปเยี่ยมชมผลงานได้ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจ และได้เห็นของจริงมากกว่าการดูโมเดล หรือรูปภาพเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้กลุ่มลูกค้าใหม่ยังสามารถสอบถาม หรือปรึกษากับลูกค้าเดิมที่สร้างบ้านไปแล้วเพื่อขอคำแนะนำได้ว่าที่ผ่านมาการก่อสร้างของบริษัทมีปัญหาด้านใดหรือให้บริการดีอย่างไร เพื่อเป็นการตรวจสอบความมั่นใจอีกครั้งหนึ่งด้วย
3.มีสถาปนิกประจำองค์กร บริษัทรับสร้างบ้านที่ได้มาตรฐานควรมีสถาปนิกประจำในองค์กรนั้น ๆ เพื่อสามารถบริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และถูกต้อง สามารถปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขแบบตามที่ลูกค้าต้องการได้ ซึ่งในปัจจุบัน บริษัทรับสร้างบ้านหลายๆบริษัทจะมีสถาปนิกเป็นฝ่ายขาย เรียกกันว่า สถาปนิกขาย สถาปนิกที่ปรึกษา ซึ่งจะทำหน้าที่ดูแลลูกค้าตั้งแต่การออกแบบ ดูแลลูกค้าและประสานงานระหว่างก่อสร้าง หรือควบคุมการก่อสร้าง รวมถึงคอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ การเลือกวัสดุก่อสร้าง การเลือกใช้โทนสี การตกแต่งภายใน และคำแนะนำในด้านต่าง ๆ กับลูกค้ากระทั่งส่งมอบบ้าน 4.มีวิศวกรประจำองค์กร เมื่อมีผู้ออกแบบแล้ว การสร้างบ้านที่ต้องการความมั่นคงแข็งแรง และโครงสร้างมีอายุการใช้งานที่ยาวนานคุ้มค่ากับเงินลงทุน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีวิศวกรเป็นผู้ออกแบบคำนวณโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก และควบคุมขั้นตอนงานก่อสร้างด้วย เพื่อให้การก่อสร้างได้มาตรฐานตามที่กำหนด ทั้งนี้ตามกฎหายนั้นวิศวกรถือเป็นวิชาชีพควบคุม ซึ่งผู้ที่จะประกอบอาชีพจะต้องได้รับใบอนุญาตให้ประกอบอาชีพ โดยมีสภาวิศวกร จะเป็นกำกับดูแลและเป็นผู้ออกบัตรให้ ซึ่งหากเกิดปัญหาขึ้นมาก็จะมีกฎหมายมารองรับอย่างชัดเจน สามารถหาผู้รับผิดชอบได้ ขณะที่บ้านที่ก่อสร้างโดยไม่มีวิศวกรออกแบบคำนวณโครงสร้าง หากเกิดปัญหาขึ้นก็จะไม่มีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน ปัญหาก็จะมาอยู่กับเจ้าของบ้านเพียงฝ่ายเดียว
5.มีบริการหลังการขาย ปัจจุบันการให้บริการหลังการขายเป็นเรื่องที่สำคัญ เรื่องของบ้านก็เช่นกัน เพราะหลังจากการสร้างเสร็จไปแล้ว บริษัทรับสร้างบ้านที่ดีจะต้องมีบริการดูแลบำรุงรักษาหรือซ่อมบำรุง หากตรวจสอบพบข้อบกพร่องเล็กๆน้อยๆของงานก่อสร้างที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง ซึ่งจะต้องมีทีมงานเข้าไปแก้ปัญหาให้
6.มีการรับประกันคุณภาพ บ้านที่สร้างอย่างมีคุณภาพบริษัทรับสร้างบ้านจะต้องมีการรับประกัน ทั้งในส่วนของการับประกันงานก่อสร้าง และงานโครงสร้างของบ้าน เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจ บ้านที่ออกแบบโดยสถาปนิก วิศวกร และควบคุมงานอย่างถูกขั้นตอนโดยวิศวกร มักจะมีการรับประกันคุณภาพอยู่แล้ว เช่น รับประกันงานก่อสร้าง 3 ปี รับประกันโครงสร้าง 10 ปี เป็นต้น ขณะที่บ้านที่สร้างโดยผู้รับเหมาทั่วไปจะไม่มีการรับประกันใด ๆ หากเกิดปัญหาก็ไม่สามารถเรียกร้องจากผู้รับเหมาหรือช่างที่ควบคุมงานได้
7.มีบริการเสริมพิเศษ การก่อสร้างบ้านนอกจากตัวบ้านแล้ว ยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย อาทิ การขออนุญาตก่อสร้าง การขอใช้น้ำประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ เลขที่บ้าน จากหน่วยงานภาครัฐ การติดต่อขอใช้สินเชื่อจากสถาบันการเงิน การให้คำปรึกษาและจัดหาบริษัทตกแต่งภายใน การจัดหาบริษัทรับตกแต่งสวน การจัดหาบริษัททำสระว่ายน้ำ ฯลฯ ซึ่งบริษัทรับสร้างบ้านที่มีความพร้อมจะมีบริการดังกล่าวให้กับลูกค้าด้วย เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และยังถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้ โดยลูกค้าไม่ต้องไปจัดหาเอง
จะเห็นได้ว่าการสร้างบ้านหนึ่งหลังจำเป็นต้องมีองค์ประกอบในการพิจารณาผู้ที่จะมาสร้างบ้านอยู่หลายส่วน เพื่อให้ได้บ้านที่มีมาตรฐาน ได้รับบริการที่สะดวกแบบครบวงจร และสามารถอยู่อาศัยได้อย่างสบายใจ โดยที่ไม่ต้องกังวลกับปัญหาต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น ขณะที่ราคาซึ่งถือเป็นตัวแปรที่สำคัญส่วนหนึ่งที่ต้องพิจารณา แต่ไม่ใช่ทั้งหมดควรพิจารณาส่วนอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วยเพื่อให้ได้บ้านที่อยู่แล้วถูกใจจริง ๆ
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ คุณภัทธิรา บุรี หรือ คุณฤดี ธรรมเทียร
บริษัท โอเอซิส มีเดีย จำกัด โทร 0-2937-4658, 0-2937-4735 # 16-17 หรือ 0-2937-4000 ต่อ 2068 โทรสาร # 18
Email : patthira@oasismedia.co.th, ruedee@oasismedia.co.th--จบ--
-นท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ