กรุงเทพฯ--1 มิ.ย.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมในการออกแบบที่สามารถปรับขยายคอนโทรลเลอร์ได้ในอนาคต (scale-out) มอบสมรรถนะเหนือชั้นกว่าระบบคอนโทรลเลอร์แบบคู่
จากการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีเซิร์ฟเวอร์ ส่งผลให้มีความต้องการอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีสมรรถนะและความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลเพิ่มมากขึ้น ซึ่งความต้องการดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีการทำเวอร์ช่วลไลเซชั่นบนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ จึงทำให้องค์กรต่างๆ ต้องการอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีสมรรถนะและประสิทธิภาพแบบปรับขยายได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาคอขวดต่างๆ
ทั้งนี้ ระบบไดรฟ์แบบ SSDs (solid state drives) ได้รับการออกแบบให้มีขีดความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของดัชนีฐานข้อมูล รองรับปริมาณงานที่ต้องเน้นการอ่านข้อมูลมากๆ และการทำงานของชุดข้อมูลแบบเก่า ทั้งยังช่วยลดปัญหา “boot storms” ที่เกิดจากการบูทอุปกรณ์แบบเสมือนระดับเดสก์ท้อปพร้อมๆ กันหลายเครื่อง (virtual desktop infrastructure : VDI) อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการนำระบบ SSD ไปใช้ในระบบดิสก์คอนโทรลเลอร์แบบคู่รุ่นเดิม ส่งผลให้ศักยภาพและประสิทธิภาพของฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ลดลงเนื่องจากปริมาณการรับส่งข้อมูล (I/O throughput) ที่ถูกจำกัด
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล HP LeftHand P4900 Solid State Drive (SSD) Storage ใหม่ ทรงพลังด้วยสมรรถนะเหนือชั้นจากการทำงานของฮาร์ดดิสก์แบบ SSD จึงไม่ก่อให้เกิดปัญหาคอขวดที่ส่วนคอนโทรลเลอร์ (controller bottlenecks) ทั้งยังสามารถปรับขยายสมรรถนะและประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่สะดุด ตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเลือกใช้อุปกรณ์ที่ติดตั้งฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ทั้งหมด หรือเลือกใช้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล HP LeftHand P4900 เพื่อให้เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลระดับ SSD ที่เหนือกว่า โดยอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล HP LeftHand P4900 SSD น้องใหม่ในพอร์ทโฟลิโออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล HP LeftHand มีคุณสมบัติโดดเด่นดังนี้
- พัฒนาประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลหรือค่า IOPS (I/O per Second) ให้ดีขึ้น โดยเร็วขึ้นถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับโซลูชั่นที่ทำงานร่วมกับไดรฟ์แบบ SAS (Serial Attached SCSI)
- ปรับเปลี่ยนได้ตรงตามความต้องการใช้แอพพลิเคชั่นที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอได้อย่างรวดเร็ว โดยมีสมรรถนะในการปรับขยายอย่างราบรื่น และมีค่า IOPS เพิ่มขึ้นทุกครั้งที่มีการเพิ่มโหนดในระบบ จึงมีประสิทธิภาพเหนือชั้นกว่าระบบคอนโทรลเลอร์แบบคู่อย่างเดิม (1)
- สนับสนุนโซลูชั่น HP SMARTSSD Wear Gauge? เพื่อบริหารจัดการอายุการทำงานของไดรฟ์ โดยคำนวณอายุการทำงานของฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ที่ใช้ไป อายุการใช้งานคงเหลือ และแจ้งเตือนเมื่อครบอายุการทำงาน
- สร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีความยืดหยุ่นสูง รองรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีระดับชั้นความสำคัญต่างๆ ด้วยการใช้ระบบที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความจุอย่างเต็มสมรรถนะ ตลอดจนการใช้ระบบเครือข่ายการจัดเก็บข้อมูล (storage area network - SAN) แบบปกติและแบบ
เวอร์ช่วลที่เหมาะสมกับธุรกิจขนาดต่างๆ
- เพิ่มฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ลงในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลตระกูล HP LeftHand ที่มีอยู่เดิมได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องมีการวางแผน หรือการบริหารจัดการแบบพิเศษแต่อย่างใด
- เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีระดับชั้นในการทำงานประสิทธิภาพสูง รองรับอุปกรณ์แบบเวอร์ช่วลที่มีการทำงานในปริมาณมาก และอุปกรณ์ I/O ระดับสูงที่ใช้ในสภาพแวดล้อมการทำงานของเครื่องลูกข่ายแบบ
เวอร์ช่วลไลเซชั่น
- เพิ่มประสิทธิผลในการทำงาน โดยสนับสนุนการเข้าถึงข้อมูลอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งถ่ายโอนข้อมูลจากอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล HP LeftHand P4000 ที่มีอยู่ปัจจุบันไปยังอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล HP LeftHand P4900 ใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานระดับสูง โดยสามารถออนไลน์การถ่ายโอนข้อมูลได้โดยการใช้ซอฟต์แวร์ HP Peer Motion
- ปกป้องข้อมูลสำคัญ ด้วยการทำสำเนา RAID พร้อมๆ กันผ่านระบบเครือข่าย Network RAID รวมทั้งการใช้แอพพลิเคชั่นสแนบช็อตแบบผนวกรวม การทำสำเนาแบบแยกจากระยะไกล และโซลูชั่นกู้คืนระบบจากหลายๆ จุด โดยสามารถกำหนดวิธีการทำสำเนาแบบ failover/failback ในกรณีที่มีเหตุภัยพิบัติได้โดยอัตโนมัติ
- ปกป้องข้อมูลสำคัญในระดับคอนโทรลเลอร์ และป้องกันการสูญหายของข้อมูลในกรณีที่ระบบล่ม โดยการทำสำเนาข้อมูลข้ามดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งรองรับการทำสำเนาข้อมูลทั้งแบบ synchronous replication และ asynchronous replication
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์ สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.hp.com/go/p4000
การจัดจำหน่าย
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล HP Lefthand P4900 Solid State Drive (SSD) Storage มีวางจำหน่ายแล้ว
(1) A 2-node P4900 solution is capable of delivering 70,000 IOPS at 3 ms response time during an 8KB, 100% random read test with HP P4000 DSM for Windows MPIO as compared to a 24-node P4500 solution with SAS drives which delivers 70,000 IOPS at a 30 ms response time.