กรุงเทพฯ--3 มิ.ย.--hi-like.com
“ทำไมคุณจึงจำเป็นต้องดูแลสุขภาพเหงือกเป็นพิเศษ ???” นี้คงเป็นคำถามที่หลายๆ คนอยากจะรู้ เพราะแค่การแปรงฟัน ดูแลฟันก็มีรายละเอียดที่มากมายเกินจะเข้าใจแล้ว แต่วันนี้คุณจะได้รู้ว่าการดูแลสุขภาพเหงือกก็เป็นสิ่งจำเป็นแค่ไหน โดยเฉพาะ 5 สัญญาณที่จะก่อให้เกิดโรคเหงือกได้นั้นคืออะไร !!!
ทันตแพทย์ สมพงษ์ จารุวิจิตรรัตนา เล่าให้เราฟังอย่างง่ายๆ ว่า แบคทีเรียมีการก่อตัวอย่างต่อเนื่องในช่องปาก โดยเฉพาะในบริเวณร่องเหงือก และในบริเวณระหว่างเหงือกและฟัน ถ้าการก่อตัวของแบคทีเรียไม่ได้รับการดูแลก็อาจจะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพเหงือกได้มากมาย ทั้ง เหงือกอักเสบ หรือเหงือกบวมแดง ซึ่งหากไม่รักษาปัญหาโรคเหงือกอักเสประยะต้น ก็จะลุกลามและจะเป็นอันตรายต่อเหงือกที่แนวรอบตัวฟันได้ ส่งผลให้เหงือกไม่โอบหุ้มฟัน เกิดเป็นช่องว่างระหว่างเหงือกและฟัน เปิดโอกาสให้แบคทีเรียเข้าทำลายเนื้อเยื้อปริทันต์ และกระดูกฟันใต้เหงือกได้ลึกมากขึ้น อาการระยะนี้เรียกว่า “โรคปริทันต์”
เราสามารถสังเกตเอง 5 สัญญาณที่ก่อการเกิดปัญหาสุขภาพเหงือกได้ง่ายๆ คือ มีเลือดออกตามไรฟันขณะแปรงฟัน มีกลิ่นปาก เหงือกอักเสบ เหงือกมีลักษณะบวมแดง หรือเหงือกร่น สังเกตง่ายๆ คือเหงือกเปิดและร่นต่ำลง อาจเกิดอาการเสียวฟันร่วมด้วยและอาจมีหนองออกตามร่องเหงือก ซึ่งอาการเหล่านี้อาจดูเหมือนไม่รุ่นแรง แต่หากขาดการดูแลรักษาที่เหมาะสม จะลุกลามไปถึงภาวการณ์สูญเสียฟันได้ แถมความเสี่ยงที่สูงขึ้นต่อการเป็นโรคเหงือกจะเกิดกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือผู้มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หรือผู้ที่ได้รับการรักษาอาการอื่นๆ ทางร่างกายเป็นประจำ ซึ่งเมื่อใดที่คุณเริ่มรู้สึกว่ากำลังประสบกับภาวะอาการเหงืออักเสบควรรีบพบทันตแพทย์ทันที
ส่วนวิธีการดูแลสุขภาพเหงือกง่ายๆ ที่เราสามารถทำได้ทุกวันคือ แปรงฟันครั้งละ 2 นาที อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ใช้ร่วมกับยาสีฟันที่มีคุณสมบัติช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย เลือกแปรงสีฟันที่ขนนุ่ม และใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีคุณสมบัติช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ทันตแพทย์ สมพงษ์ จารุวิจิตรรัตนา กล่าวปิดท้าย
แล้วคุณจะรู้ว่าการปกป้องเหงือกและฟันนั้นคือเรื่องสำคัญยิ่งแค่ไหน