“เอเพ็กซ์ กรุ๊ป” ทุ่ม 20 ล้านบาท เปิดตัว “BASIC HOUSE” แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังจากประเทศเกาหลี

ข่าวทั่วไป Tuesday June 5, 2012 11:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--โฟร์ฮันเดรท “เอเพ็กซ์ กรุ๊ป” เกาะกระแสเกาหลี Fever ไม่หยุด ทุ่ม 20 ล้านบาท เปิดตัว “BASIC HOUSE” แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังจากประเทศเกาหลี เจาะตลาดทุกเพศทุกวัย ด้วยการออกแบบเรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา สามารถ Mix & Match ได้ง่าย เนื้อผ้ามีคุณภาพดี การตัดเย็บประณีต พร้อมปูพรมเปิดช็อปในห้างดังและ Stand Alone Store แล้วกว่า 16 แห่ง ปีนี้เตรียมเปิดเพิ่มที่เมกาบางนา และขยายเพิ่มทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัดอีก 10 แห่ง หวังปิดยอดขายปีนี้ 100 ล้านบาท ขึ้นแท่นเป็นเจ้าตลาดเสื้อผ้าแฟชั่นเทรนด์เกาหลีก่อนใคร นายอรรถสิทธิ์ มงคลรัตนชาติ กรรมการผู้จัดการ แผนกบริหาร บริษัท เอเพ็กซ์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า เอเพ็กซ์ กรุ๊ป จำกัด ก่อตั้งมานานกว่า 30 ปี มีบริษัทในเครือหลายแห่ง ประกอบธุรกิจผู้ผลิตและจำหน่ายของเด็กเล่นพลาสติกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ของเด็กเล่นที่มีลิขสิทธิ์ ทั้งผลิตสินค้าพลาสติกอุตสาหกรรม เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ถังสีและหลอดซิลิโคลน รวมถึงเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยว ลูกกวาดและ Candy Toys อีกทั้งยังเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย เนื้อ เนย และอาหาร และเพื่อเป็นการขยายตลาดให้ครอบคลุมสินค้าอุปโภคและบริโภค บริษัทจึงนำเข้าเสื้อผ้าสไตล์เกาหลี แบรนด์ “เบสิค เฮ้าส์” หรือ “BASIC HOUSE” เสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์ดังจากประเทศเกาหลี เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดเทรนด์เกาหลีที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ จากกระแส K-POP ที่มาแรงไม่หยุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้ Life Style ของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะเทรนด์การแต่งกาย ประกอบกับ Apex Group ของเราเป็นผู้นำเข้าของเล่นรายใหญ่ของประเทศ ที่มีการจัดการและบริหารสินค้าอย่างเป็นระบบ ซึ่งจัดจำหน่ายอยู่ในห้างสรรพสินค้าอยู่แล้ว และในปีที่ผ่านมา ยังไม่มีบริษัทไหนนำเข้าเสื้อผ้าเกาหลีที่จดทะเบียนบริษัทอย่างถูกต้องตามกฎหมายเข้ามาในประเทศไทย เราจึงสนใจที่จะนำเสื้อผ้าเกาหลีเข้ามาเป็นบริษัทแรก ซึ่ง BASIC HOUSE เองก็เป็นแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังของเกาหลีที่มีจำนวนสาขามากมาย ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็จะต้องเห็นร้านค้า และป้ายโฆษณาที่โดดเด่นสะดุดตาของ BASIC HOUSE โดยมีดาราชั้นแนวหน้าของเกาหลีอย่าง วอน บิน เป็น Presenter และเมื่อพิจารณาถึงรูปแบบและคุณภาพทั้งในแง่วัตถุดิบและกรรมวิธีในการผลิตของสินค้า เราเห็นว่าสินค้ามีคุณภาพดีและราคาเหมาะสมกับตลาดของประเทศไทยเป็นอย่างมาก เราจึงได้เสนอตัวเป็นผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว นายอรรถสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า จุดเด่นของสินค้า BASIC HOUSE เป็นเสื้อผ้าที่ตอบสนองความต้องการของผู้สวมใส่ทุกเพศ ทุกวัย โดยกลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงาน ด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา สามารถนำไป Mix & Match ได้ง่าย สามารถสวมใส่ได้หลายโอกาส เนื้อผ้ามีคุณภาพดี การตัดเย็บประณีต และที่สำคัญคนเกาหลี และคนไทยเป็นชาวเอเชียเหมือนกัน ขนาดและรูปร่างจึงมีความใกล้เคียงไม่แตกต่างกัน ทำให้รูปทรงของเสื้อผ้ามีความเหมาะสมกับสรีระของคนไทย แม้ BASIC HOUSE จะเป็นแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศ แต่เนื่องจากเราต้องการให้ลูกค้าได้ใช้ของคุณภาพดี ดังนั้นเสื้อผ้าของเราจึงมีราคาที่สมเหตุสมผล เหมาะสมกับคุณภาพไม่ต่างจากแบรนด์นำเข้าอื่นๆ และสินค้าบางประเภทยังถูกกว่าแบรนด์ที่ผลิตในประเทศไทยบางแบรนด์อีกด้วย ปัจจุบันมูลค่าตลาดเสื้อผ้าสำเร็จรูปมีมูลค่าประมาณ 100,000 ล้านบาท และด้วยกระแสเกาหลี Fever ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปโดยเฉพาะแบรนด์เกาหลีมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นบริษัทจึงใช้กลยุทธ์ทางการตลาดในการแนะนำสินค้าผ่านดารา นักร้อง และ Celebrities ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็น Idol ของกลุ่มเป้าหมายหลัก โดยการเป็นผู้สนับสนุนเสื้อผ้าให้กับสื่อต่างๆ เช่น ภาพยนตร์เรื่อง “ชอบกด Like ใช่กด Love” ที่มีคุณมอสเป็นผู้แสดงนำ อีกทั้งยังสนับสนุนละครเรื่องแววมยุรา และโฆษณาในวารสารต่างๆ และกิจกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่เราจัดขึ้นเพื่อโปรโมท แบรนด์ BASIC HOUSE และหลังจากนี้เราจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัด Season Launch Collection อย่างสม่ำเสมอ ทุกๆ 3 เดือนอีกด้วย นายอรรถสิทธิ์ กล่าวอีกต่อว่า การทำตลาดในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้ใช้งบกว่า 20 ล้านบาท โดยปัจจุบันเรามีจุดจำหน่ายสินค้าทั้งในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและเดอะมอลล์ รวมถึงร้าน Stand Alone Store ทั้งสิ้น 16 แห่ง และในเร็วๆ นี้ เรากำลังจะเปิดสาขาที่ เมกาบางนา และในอนาคตก็จะขยายสาขาเพิ่มทั้งในกรุงเทพและจังหวัดใหญ่ๆ อีกประมาณ 10 สาขา เช่น Central World , Siam Paragon , Siam Center และคาดว่าในปีนี้บริษัทจะสามารถทำยอดขายได้กว่า 100 ล้านบาท “ภาพรวมตลาดเสื้อผ้าแฟชั่นในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายหลักส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพ และเขตตัวเมืองในต่างจังหวัด ซึ่งเป็นผู้ที่เข้าถึงการสื่อสารในหลายรูปแบบ จึงเป็นกลุ่มบุคคลที่ติดตามกระแสและความนิยมทางแฟชั่น มีความเชื่อมั่นและกล้าสวมใส่เสื้อผ้าที่แตกต่างจากคนอื่น การแต่งตัวจะเป็นไปตามรสนิยมของตน ทำให้เกิดความหลากหลาย ซึ่งในกลุ่มวัยรุ่นจะสวมใส่ตามเทรนด์ ดาราหรือเพื่อนฝูงที่ตนชอบ เสื้อผ้าแฟชั่นของไทยจะมีการเติบโตอย่างมาก เพราะคนไทยพิถีพิถันในการแต่งตัว สถาบันการศึกษาหลายแห่งก็มีการสอนการออกแบบเสื้อผ้า ซึ่งคนไทยเป็นผู้มีพรสวรรค์ในด้านศิลปะ ทำให้ประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเป็นศูนย์กลางของแฟชั่นในแถบอาเซียนได้ อัตราการเติบโตของตลาดเสื้อผ้าแฟชั่นจะเติบโตได้มากอาจเป็นเท่าตัวได้ใน 2-3 ปีข้างหน้า” นายอรรถสิทธิ์ กล่าวสรุปในตอนท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ