กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--บีโอไอ
เวียดนามชูจุดแข็งที่จะช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ทั้งเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ตลอดจนการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถอำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของนักลงทุน
นายเหงียน อัน ตวน รองอธิบดีหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของประเทศเวียดนาม กล่าวภายหลังการสัมมนาเรื่อง การส่งเสริมการลงทุนในประเทศเวียดนาม ซึ่งจัดขึ้นในงาน OTOP-SME-BOI: MADE IN THAILAND ที่อิมแพค เมืองทองธานี ว่า เวียดนามเป็นประเทศที่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมที่ดี ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนจากต่างประเทศที่จะเข้ามาลงทุนในเวียดนามได้เป็นอย่างดี
โดยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เวียดนามมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงมาก เฉลี่ยปีละประมาณ 7 - 7.5% และในปีหน้า 2548 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวถึง 8.5% นอกจากนี้เวียดนามยังมีเสถียรภาพทางการเมืองที่มั่นคง โดยการเมืองของเวียดนามไม่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง ซึ่งส่งผลให้นโยบายทางเศรษฐกิจของเวียดนามมีความต่อเนื่อง
ในส่วนของสังคมนั้น ประชากรของเวียดนามถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการลงทุน โดย 50% ของประชากรทั้งหมดกว่า 80 ล้านคน มีอายุต่ำกว่า 25 ปี จึงมีจำนวนแรงงานจำนวนมากรองรับการลงทุน และถึงแม้ว่าแรงงานจะมีราคาถูก แต่นักลงทุนที่อยู่ในเวียดนามต่างยอมรับในความขยันขันแข็งของแรงงานเวียดนาม
นายเหงียน อัน ตวน กล่าวต่อไปว่า นอกเหนือจากเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมแล้ว รัฐบาลเวียดนามยังมีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ โดยตั้งแต่เวียดนามมีกฎหมายการลงทุน ก็ได้มีการแก้ไขปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการและอำนวยความสะดวกในการลงทุนจากต่างประเทศ
นอกจากนี้เวียดนามยังมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มากมาย อาทิ น้ำมัน ถ่านหิน ทองคำ หินมีค่า ป่าไม้ เป็นต้น
สำหรับอุตสาหกรรมที่รัฐบาลเวียดนามกำหนดให้เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายประกอบด้วย ระบบโครงสร้างขั้นพื้นฐาน เช่น ท่าเทียบเรือ กิจการโทรคมนาคม โรงไฟฟ้า และทางหลวง นอกจากนี้ยังมีอุคตสาหกรรมอาหารและผลิตผลทางการเกษตร อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีในการผลิต เช่น อุปกรณ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักรกล รวมทั่งกิจการด้านเทคโลยีสารสนเทศด้วย--จบ--
-นท-