กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--โครงการเยาวชนอีซีอี แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
ในยุคปัจจุบันการเป็นคนเก่งไม่ใช่เรื่องยาก มีช่องทางส่งเสริมมากมาย แต่ในยุคนี้กลับมีปัญหาเรื่องการทำให้เป็นคนดี หากคำว่าคนดี คือคนที่มีคุณประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ย่อมหมายความว่า คนดีจะเป็นคนที่พึ่งตนเองได้ เป็นประโยชน์ต่อตนเอง และคนอื่น และในทางตรงข้าม จะต้องไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่นนั่นเอง
ทำอย่างไรจะทำให้คนเป็นคนดีเป็นปัญหาใหญ่ จากสิ่งที่เป็นอยู่การศึกษาไม่ใช่คำตอบ ครอบครัวก็ไม่มีคำตอบ สิ่งที่เป็นที่ยอมรับกันประการหนึ่งคือ ไม้แก่ดัดยาก ไม้อ่อนดัดง่าย การทำให้ผู้ใหญ่เป็นคนดีจึงเป็นเรื่องยากกว่าการสร้างที่เด็ก จึงมีความเชื่อว่าหากจะทำให้คนเป็นคนดีจะต้องเริ่มที่เด็ก แต่จะทำอย่างไร? การส่งเด็กไปฝึกอบรมสมาธิตามสถานปฏิบัติธรรมต่างๆ ดังที่เข้าใจกันว่าจะทำให้เด็กเป็นคนดีจะเป็นจริงหรือ? ในเมื่อการอบรมสมาธิโดยพระ โดยนักบวช เป้าหมายที่แท้จริงคือการหลุดพ้นตามแนวทางของศาสนา เป็นการอบรมทำความดีในแบบฉบับของนักบวชซึ่งต่างจากแบบฉบับของทางโลกที่เป็นปุถุชนหาเลี้ยงชีพจึงไม่แน่ใจว่าจะไปกันได้หรือไม่
จากประสบการณ์การทำงานค่ายมานานกว่า 15 ปี พบว่าสิ่งหนึ่งที่จะเปลี่ยนแปลงเด็กได้คือ ประสบการณ์ชีวิตจริงที่เด็กๆ ได้พบในวัยเด็ก และจากประสบการณ์ชีวิตผู้เขียนพบว่า ธรรมะที่พูดกัน ที่ยอมรับกันว่าเป็นของสูง ของดี ใครมีธรรมะอาจเรียกได้ว่าเป็นคนดี แท้จริงแล้วธรรมะก็คือธรรมชาติ สิ่งที่องค์ศาสดาตรัสรู้ก็คือ การค้นพบกฎธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ที่จะนำไปสู่ทางพ้นทุกข์อันเป็นที่สุดในทางธรรม ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย เช่น ไอน์สไตน์ ก็ยิ่งใหญ่ด้วยการค้นพบกฎธรรมชาติที่เป็นประโยชน์ต่อวงการวิทยาศาสตร์ที่จะพัฒนาไปสู่ความเจริญของทางโลก ดังนั้นจะพูดได้หรือไม่ว่าพื้นฐานของการเป็นคนดี คือคนนั้นจะต้องมีธรรมชาติอยู่ในใจ เป็นคนรักธรรมชาติ เห็นความสำคัญของธรรมชาติ เข้าใจธรรมชาติ หากเป็นเช่นนั้นจะนำไปสู่การเข้าใจกฎของธรรมชาติทั้งหลาย ทั้งทางธรรม เช่น กฎแห่งกรรม และทางโลก ได้แก่ ความเป็นจริงทางธรรมชาติทั้งหลาย จึงสามารถเลือกทางเดินชีวิตที่จะไม่สร้างทุกข์ให้แก่ตนเอง และไม่สร้างทุกข์ให้แก่ผู้อื่น ด้วยพื้นฐานการรักธรรมชาติแล้วเกิดความคิดที่จะพัฒนาตนเองหรือก้าวไปสู่ความสำเร็จตามวิถีชีวิตทางโลก ผลที่ตามมา คนผู้นั้นจะเลือกทำประโยชน์ให้แก่ตนเองและผู้อื่น เพื่อที่จะให้กฎแห่งกรรมทำงานแสดงออกมาแต่ผลที่ดี ดังนั้นสรุปได้หรือไม่ว่า คนดีจะต้องมีพื้นฐานของการรักธรรมชาติ เข้าใจธรรมชาติ และต้องมีความพยายาม วิริยะ อุตสาหะ ทั้งสามารถอดทน และหักห้ามต่อกิเลสของตนได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ต้องผ่านการฝึกฝน ทดสอบ และมีประสบการณ์ชีวิตจริงในวัยเด็ก หากการสร้างพื้นฐานให้เยาวชนรักและเข้าใจธรรมชาติเป็นพื้นฐานของการเป็นคนดีเช่นนี้จริง การสร้างประสบการณ์ชีวิตจริงให้เกิดกับเด็กย่อมจะเป็นการสร้างคุณสมบัติพื้นฐานของการเป็นคนดี ซึ่งมันจะแสดงผลออกมาในตอนโต อย่างน้อยคนเหล่านี้น่าจะเลือกประกอบอาชีพที่ไม่ทำลายธรรมชาติเพียงแค่นี้ก็นับว่าเป็นคุณประโยชน์ต่อสังคมและโลกมากแล้ว
ผู้เขียนเชื่อว่าประสบการณ์ชีวิตในวัยเด็ก คือพื้นฐานของชีวิตในวัยโต การเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือการได้มีประสบการณ์จริง และการจะเป็นคนดีนั้นพื้นฐานจะต้องมีความรักและเข้าใจธรรมชาติอยู่ด้วย จึงจะพัฒนาไปสู่พฤติกรรมที่เรียกว่าเป็นคนดีได้ ดังนั้น หากเชื่อเช่นนี้ ใครต้องการให้บุตรหลานเป็นคนดี จึงต้องทำให้เขารักและเข้าใจธรรมชาติ โดยผ่านประสบการณ์จริงในธรรมชาติ ได้แก่ ป่าเขาลำเนาไพร การใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมเหล่านี้จะต้องมีการปรับตัวและเรียนรู้อย่างมาก จะทำให้เข้าใจธรรมชาติอย่างแท้จริง การอดทนต่อความยากลำบากจะก่อเกิดความพยายาม ความวิริยะ อุตสาหะขึ้นในจิตใจ และจะเป็นคุณสมบัติของคนนั้นต่อไปในวัยโตเป็นผู้ใหญ่
การรักธรรมชาติ เข้าใจธรรมชาติยังนำมาซึ่งการเห็นความสำคัญของธรรมชาติ หวงแหนธรรมชาติเนื่องจากรู้คุณของธรรมชาติ การรู้คุณของผู้มีคุณย่อมเป็นคุณสมบัติของคนดี และเป็นคุณธรรมเบื้องต้นที่ผู้ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิตพึงมี
การทำให้เด็กรักและเข้าใจธรรมชาติ จะทำให้เขาพ้นจากการติดเกมส์ ติดโลก สามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง เช่น อิสระจากพันธนาการจากสิ่งอำนวยความสะดวกได้ การดำรงชีวิตจึงไม่จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรมากจนเกินไป แต่จะกลายเป็นคนที่เป็นคุณประโยชน์ต่อธรรมชาติและผู้อื่นอย่างมาก
ในปัจจุบันมวยไทยเป็นศิลปการต่อสู้ที่โด่งดังเป็นที่ยอมรับทั่วโลก แต่ยังขาดการส่งเสริมจริงจังในกลุ่มเยาวชน ศิลปะมวยไทยนอกจากใช้ในการแข่งขันกีฬามวยไทยแล้ว ยังเป็นการออกกำลังกายที่สนุกสนาน ได้ประโยชน์ในการป้องกันตัว สร้างความเข้มแข็งให้แก่ตนเอง ฝึกและเรียนรู้ได้ทั้งชายและหญิง การฝึกฝนเรียนรู้ในวัยเด็กจะได้ประโยชน์มาก เพราะมวยไทยจะต้องฝึกฝนจนเป็นธรรมชาติ จึงจะติดตัวไปตลอดชีวิต
ครูเฒ่าหรืออาจารย์สุพร วงศาโรจน์ เป็นครูมวยคนแรกของอภิเดช ศิษย์หิรัญ หรือฉายาจอมเตะแห่งบางนกแขวกเป็นนักมวยไทยที่โด่งดังในอดีต ในแคมป์นี้เราได้ศิษย์คนสุดท้ายของครูเฒ่ามาสอนมวยไทย ให้แก่น้องๆ ได้เรียนรู้ศิลปะมวยไทยของเดิมๆ เพื่อการออกกำลังกายอย่างสนุกสนานสร้างความเข้มแข็งให้แก่ร่างกายและได้วิชาป้องกันตนเองอีกด้วย
วัตถุประสงค์
1. ปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนรักและเข้าใจธรรมชาติ
2. ปลูกฝังความพยายาม วิริยะ อุตสาหะ และความอดทนให้เกิดขึ้นในเด็กและเยาวชน
3. ส่งเสริมประสบการณ์ชีวิตจริงให้เด็กมีประสบการณ์ที่จะเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆ ด้วยตนเอง
4. เพิ่มทักษะชีวิตในด้านต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการดำรงชีวิตในโลกแห่งความจริง
5. เรียนรู้ศิลปะมวยไทยของเดิมๆ
รุ่นที่ 1 ออกเดินทาง วันที่ 1 สิงหาคม 2555 เวลา 21.00 น. กลับ วันที่ 5 สิงหาคม 2555 เวลา 05.00 น. (วันที่ 2 — 5 สิงหาคม 2555 เป็นวันหยุดราชการ)
สถานที่ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์
คุณสมบัติผู้สมัคร
1. อายุ 9 - 17 ปี สุขภาพแข็งแรง
2. สามารถปฏิบัติตามที่โครงการกำหนด
3. บิดามารดาให้ความยินยอมและมีความเข้าใจโครงการ
4. ยินดีชำระค่าใช้จ่ายและค่าขนส่งได้ตามกำหนด
ช่วงเวลาที่รับสมัคร วันนี้ — 2 กรกฎาคม 2555 หรือเมื่อเต็มจำนวน
สนใจติดต่อได้ที่ โครงการเยาวชนอีซีอี. แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม โทร. 02 — 690 0375 -7 http://www.ecethailand.com
โครงการเยาวชนอีซีอี. แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
ติดต่อ:
โครงการเยาวชนอีซีอี. แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
เลขที่ 43 ซ.วิภาวดีรังติด16/25 ถ.วิภาวดีรังสิต
เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
โทรศัพท์ 02-690-0375-7
http://www.ecethailand.com