กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--ฐิติกร
- เชื่อมั่นตลาดรถจักรยานยนต์ปีนี้สร้างสถิติใหม่ 2.2 ล้านคัน
- หลังค่าแรง 300 บาทนิ่ง การรับพนักงานจะเป็นไปตามเป้าหมายหลังพลาดเป้าเมื่อปีที่แล้ว
บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ซึ่งเป็นผู้นำด้านการให้บริการสินเชื่อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประกาศรับพนักงานเพิ่มอีก 350 คน เพื่อรองรับการขยายตัวของบริษัทที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์
นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ TK เปิดเผยว่าการรับพนักงานครั้งนี้ส่วนหนึ่งถือเป็นการเสริมทีมงานเพื่อสร้างความพึงพอใจในบริการแก่ลูกค้า และอีกส่วนหนึ่งเป็นการรองรับแผนการขยายงานในอนาคต ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ TK ได้เปิดสาขาเพิ่มอีก 2 สาขาที่จังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดเพชรบูรณ์ และภายในปีนี้ ยังจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 3 — 4 สาขา นอกจากนี้ TK ยังมีแผนขยายกิจการไปยังต่างประเทศในอนาคตโดยเฉพาะประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย จึงทำให้ต้องเร่งเสริมทีมงานให้เข้มแข็งเพื่อรองรับการขยายงานและการเติบโตในอนาคต
“ที่จริงแล้ว TK พยายามจะเปิดรับสมัครพนักงานรุ่นใหม่ตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยเราประกาศเมื่อปีที่แล้วว่าเปิดรับเพิ่มอีก 400 อัตรา แต่น่าเสียดายที่เราไม่สามารถรับสมัครได้ตามเป้าหมาย เรารับพนักงานใหม่เพิ่มได้เพียง 50 คนเท่านั้น โดยในปีนี้ตำแหน่งงานที่ยังเป็นที่ต้องการ ได้แก่ เจ้าหน้าที่สินเชื่อ และ เจ้าหน้าที่บริหารหนี้ สามารถรับได้ตำแหน่งงานละไม่ต่ำกว่า 100 อัตรา ส่วนตำแหน่งงานสนับสนุน เช่น บัญชี การเงิน และปฏิบัติการ ก็ยังสามารถรับได้อีกรวมกันกว่า 100 อัตราเช่นกัน และบริษัทจะพิจารณาเป็นพิเศษหากพนักงานสามารถปฏิบัติงานในต่างจังหวัดหรือต่างประเทศได้ในอนาคต” นางสาวปฐมากล่าวและเสริมว่าปัจจุบัน TK มีพนักงานอยู่ทั้งสิ้น 1,900 คนกระจายใน 80 สาขาใน 46 จังหวัด
นางสาวปฐมากล่าวว่าปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในภาวะขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานในภาคบริการ จึงทำให้การรับพนักงานใหม่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมา นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ทำให้ตลาดแรงงานอยู่ระหว่างการปรับตัว ส่งผลต่อแผนการรับสมัครพนักงานใหม่ อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากนโยบายดังกล่าวเข้าสู่ภาคปฏิบัติตามกระบวนการที่รัฐบาลประกาศไปแล้วนั้น จะทำให้ตลาดแรงงานเข้าสู่ภาวะปกติ จึงมีความเชื่อมั่นว่าบริษัทฯ จะสามารถรับสมัครพนักงานเพิ่มได้ตามลำดับ
“ส่วนหนึ่งที่แรงงานหายากนั้นสืบเนื่องมาจากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์เมื่อหลายปีที่ผ่านมา แรงงานได้ย้ายเข้าสู่ภาคการเกษตร ซึ่งเป็นช่วงจังหวะที่ราคาสินค้าเกษตรหลายตัวพุ่งขึ้นตามราคาน้ำมัน ทำให้แรงงานจำนวนมากไม่กลับเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ จึงทำให้เราต้องใช้ความพยายามในการรับสมัครพนักงานมากกว่าในอดีต” นางสาวปฐมากล่าว
ทางด้านนายประพล พรประภา รองกรรมการผู้จัดการ TK กล่าวเพิ่มเติมว่าแนวโน้มผลประกอบการของ TK ในปีนี้ น่าจะเป็นอีกปีหนึ่งที่จะสร้างสถิติการสร้างกำไรสุทธิสูงสุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยปีที่แล้ว มีกำไรสุทธิ 625 ล้านบาท และไตรมาสแรกของปีนี้ มีกำไรแล้ว 136 ล้านบาท
นายประพลกล่าวว่าตนเชื่อมั่นว่าตลาดรถจักรยานยนต์ในปีนี้จะสร้างสถิติยอดขายใหม่ที่ 2.2 ล้านคัน เพิ่มจากปีที่แล้วที่มียอดขายประมาณ 2 ล้านคัน
“แม้ว่าไตรมาสแรกของปีนี้ ตัวเลขยังดูไม่ดีนัก แต่ผมเชื่อว่าตลาดจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วนับจากนี้เพราะขณะนี้ โรงงานประกอบรถจักรยานยนต์เพิ่งจะเดินเครื่องได้เต็มที่ จึงเชื่อว่าการส่งมอบรถจักรยานยนต์จากนี้ไป จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งปีนี้เราได้ตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อจะเติบโตประมาณ 10% แต่หากผลดำเนินงานในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นอย่างที่คาดการณ์ไว้ อาจจะมีการปรับเป้าการเติบโตใหม่ก็ได้” นายประพลกล่าว