กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--แสนสิริ
แสนสิริยักษ์ใหญ่ตลาดคอนโดมิเนียมไทย ประกาศความพร้อมขยายการลงทุนพัฒนาคอนโดมิเนียมแบรนด์ “the BASE (เดอะ เบส)” สู่จังหวัดศูนย์กลางภาคโดยสานต่อตลาดในพื้นที่ภูเก็ต พร้อมก้าวใหม่ในขอนแก่น หลังพบกำลังซื้อกลุ่มคนทำงานที่ต้องการที่อยู่อาศัยระดับกลางเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมืองมีเพิ่มขึ้นกว่าอดีตเฉลี่ย 10 % ต่อปี มั่นใจจุดขายไลฟ์สไตล์คอนโดที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่มในแต่ละโลเคชั่นเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ พร้อมเปิดขายแล้วที่ภูเก็ตวันที่ 23 — 24 มิ.ย. นี้ ในราคาเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท ในขณะที่ขอนแก่นจะเปิดขายอย่างเป็นทางการภายหลังได้รับการเห็นชอบรายงาน EIA เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ชาวขอนแก่นในการซื้อโครงการยิ่งขึ้น
นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการ คอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยล่าสุดว่า ปัจจุบันคอนโดมิเนียมแบรนด์ เดอะ เบส นับเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นในฐานะโครงการ ที่มีแนวคิดที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยจริง ทั้งยังโดดเด่นในด้านทำเลในเมือง การออกแบบที่สอดคล้องกับโลเคชั่นและไลฟ์สไตล์ผู้พักอาศัย ตลอดจนส่วนกลางที่ช่วยเติมเต็มเรื่องคุณภาพชีวิตอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันโครงการคอนโดมิเนียม เดอะ เบส พัฒนามาแล้ว รวม 3 โครงการ ประกอบด้วย “เดอะ เบส สุขุมวิท 77”, “เดอะ เบส แจ้งวัฒนะ” และ “เดอะ เบส พระราม 9” มูลค่ารวม 6,470 ล้านบาท จำนวนรวมทั้งสิ้น 3,381 ยูนิต มียอดขาย ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 90 % โดยล่าสุดได้ขยายการพัฒนาโครงการไปสู่ จ.ภูเก็ต ภายใต้ชื่อโครงการ “เดอะ เบส ดาวน์ทาวน์ — ภูเก็ต” มูลค่า 750 ล้านบาท จำนวน 311 ยูนิต และที่ จ.ขอนแก่น ภายใต้ชื่อโครงการ “เดอะ เบส ศรีจันทร์ — ขอนแก่น” มูลค่า 1,000 ล้านบาท จำนวน 521 ยูนิต เพื่อเสนอขายในปี 2555 ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของแสนสิริ ที่ขยายการลงทุนสู่หัวเมืองภาคอีสานเป็นครั้งแรก
“เรามองเห็นความเป็นไปได้ในการขยายตลาดและฐานลูกค้าสู่จังหวัดศูนย์กลางภาคอื่นๆ นอกเหนือจากกรุงเทพฯ โดยมองหาทำเลศักยภาพที่มีความเป็นสังคมเมืองสูง มีระบบเศรษฐกิจที่มั่นคง และมีแนวโน้มขยายการพัฒนาเมืองอย่างต่อเนื่อง มีแหล่งงานขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า สถาบันการศึกษา แหล่งการแพทย์และพยาบาลที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งมีความต้องการที่อยู่อาศัย เพราะเราเล็งเห็นแล้วว่ากลุ่มคนทำงานที่ต้องการคอนโดในเมืองระดับกลางเติบโตมีจำนวนมากขึ้นเฉลี่ย 10% ต่อปี ซึ่งทั้งในจังหวัดขอนแก่นและภูเก็ตมีความชัดเจนของภาพรวมดังกล่าว ทั้งนี้ ภูเก็ตนับเป็นจังหวัดที่มีความเติบโตทางเศรษฐกิจสูง มีความพร้อมด้านระบบ สาธารณูปโภค อาทิ ถนน สนามบิน ท่าเรือ ฯลฯ ตลอดจนเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก รวมทั้งธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมก็มีการขยายตัวสูงขึ้นอย่างโดดเด่น ส่งผลให้อัตราการจ้างงานในภาคธุรกิจดังกล่าว สูงขึ้น จึงเป็นสาเหตุที่มีคนจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติย้ายถิ่นฐานมาทำงานที่ภูเก็ต โดยจะ กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆรอบเกาะ ในขณะที่ขอนแก่นก็นับเป็นจังหวัดศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งในด้านเศรษฐกิจ การแพทย์ และการศึกษา อีกทั้งลักษณะทางกายภาพของจังหวัดที่มีการวางผังเมืองอย่างเป็นระบบที่ดี ซึ่งเอื้อประโยชน์อย่างมากกับการอยู่อาศัยแบบคอนโดมิเนียม เพราะหากอยู่ในตัวเมืองแล้วจะสามารถเข้าถึงสถานที่สำคัญทุกแห่ง ได้อย่างสะดวกสบายและใช้เวลารวดเร็ว อีกทั้งอัตราค่าเช่าที่อยู่อาศัยในขอนแก่นมีราคาค่อนข้างสูงมาก ดังนั้น การปรับเปลี่ยน แนวคิดจากการเช่าสู่การซื้อเพื่อครอบครองสิทธิ์จึงเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคใส่ใจสูงหากมีโครงการที่มีคุณภาพพร้อมนำเสนอเพื่อเป็น ทางเลือกใหม่” นายอุทัย กล่าว
ทั้งนี้ หากวิเคราะห์ถึงภาพรวมการแข่งขัน และอัตราความต้องการคอนโดมิเนียมในภูเก็ตและขอนแก่น นายอุทัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “คอนโดมิเนียมเพื่อการพักอาศัยยังนับเป็นเรื่องใหม่ใน จ.ขอนแก่น ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยส่วนมากจะกระจายอยู่รอบนอกตามพื้นที่ที่มีทำเลใกล้กับมหาวิทยาลัยหรือใกล้บึงแก่นนคร ซึ่งในขณะที่โครงการย่านใจกลางเมืองเศรษฐกิจยังมีไม่มากนัก ทำให้การแข่งขันยังไม่รุนแรง ขณะที่กำลังซื้อยังมีความต้องการอยู่อีกมาก จึงนับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการพัฒนาการลงทุนในขอนแก่น สอดคล้องกับในภูเก็ตที่แสนสิริเข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการ และประสบความสำเร็จไปก่อนหน้า ทั้งคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “ดีคอนโด”, บ้านแฝดแบรนด์ “ฮาบิเทีย” รวมถึงทาวน์เฮาส์ภายใต้แบรนด์ “ฮาบิทาวน์” เป็นต้น ทำให้มีความคุ้นเคยและมองเห็นภาพรวมความต้องการที่อยู่อาศัยที่ยังมีอยู่เช่นกัน”
โครงการ “เดอะ เบส ดาวน์ทาวน์-ภูเก็ต” เป็นคอนโดมิเนียม 7 ชั้น ประกอบด้วย 2 อาคาร บนพื้นที่เกือบ 4 ไร่ บนทำเลใจกลางเมืองใกล้ถนนวิชิตสงคราม ห่างจากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต เพียง 500 เมตร โดยมีห้อง 2 รูปแบบให้เลือกสรร คือ แบบ 1 ห้องนอนขนาด 34 ตร.ม. และ 2 ห้องนอนขนาด 60 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยประมาณ 69,000 บาทต่อ ตร.ม. ทั้งนี้ การออกแบบโครงการได้รับแรงบันดาลใจจากพื้นที่โครงการที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบกลางเมือง จึงได้รังสรรค์การออกแบบตึกและ landscape ที่สามารถสร้างประสบการณ์ในการรับรู้ที่แตกต่างระหว่างการมองเห็นภายนอกและการสัมผัสภายในได้อย่างชัดเจน โดยมีการวางผังให้อาคารทั้งสองหลังปิดล้อมพื้นที่ เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวในโครงการ (Court) เป็นพื้นที่ภูมิทัศน์ภายในที่ต่อเนื่องกัน เปิดโอกาสให้พื้นที่สีเขียวกระจายตัวและเกาะเกี่ยวกับตัวอาคาร เพื่อขยายความรู้สึกของพื้นที่สีเขียวให้อิ่มอุดมอยู่ภายใน ตัดกับรูปลักษณ์ภายนอกของตัวอาคารที่ห่อหุ้มอยู่ ส่วนรูปด้านอาคารภายนอกได้แรงบันดาลใจจากสัดส่วนและเส้นสายของช่องเปิดอาคารแบบ ชิโน-โปรตุกีส (Sino-Portuguese) ที่ปรับลดทอนให้ร่วมสมัย ทั้งหมดประกอบขึ้นเป็นกลุ่มอาคารที่มีบรรยากาศอบอุ่นและเป็นส่วนตัวของความเป็นที่พักอาศัย ถึงแม้จะเป็นกลุ่มอาคารขนาดใหญ่ ส่วนการตกแต่งภายในได้นำเส้นสายโค้งมน ตามแนวคิดทาง landscape ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเส้นสายของเส้นใบไม้และการลื่นไหลของน้ำมาปรับใช้กับภายในอาคาร เพื่อสร้างบรรยากาศและความต่อเนื่องจากอาคารสู่ส่วนสระว่ายน้ำที่มีความยาวกว่า 50 เมตรด้านล่าง นอกจากนั้นยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางที่ครบครันทั้งล็อบบี้แบบ double volume ดีไซน์โดดเด่น ทางเดินเข้าออกอาคารที่เป็นส่วนตัว รวมทั้งห้องออกกำลังกายและห้องสมุด
ส่วนโครงการ “เดอะ เบส ศรีจันทร์-ขอนแก่น” เป็นอาคารสูง 20 ชั้น ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ริม ถ. ศรีจันทร์ บนที่ดินกว่า 3 ไร่ มีจำนวนยูนิตรวม 521 ยูนิต โดยประกอบด้วยห้องพักอาศัย 2 รูปแบบ คือ ขนาด 1 ห้องนอน เนื้อที่ประมาณ 30 ตร.ม. และ ขนาด 2 ห้องนอนเริ่มที่ 47 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท นอกจากทำเลที่ตั้งจะอยู่ใจกลางเมือง เพียง 2 นาทีถึงศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น ตลอดจนใกล้โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลและแหล่งงานต่างๆ แล้ว ยังมีการออกแบบโครงการให้ตอบรับความต้องการของคนรุ่นใหม่อีกด้วย อาทิ ล็อบบี้แบบ double volume ที่มอบความโปร่งและหรูหราที่มากกว่า, ห้องสมุดบนชั้นลอยของล็อบบี้, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้องซักรีด, ระบบความปลอดภัยสูงมาตรฐานแสนสิริ พร้อมลิฟท์ที่ล็อกชั้น
ทั้งนี้ โครงการ “เดอะ เบส ดาวน์ทาวน์-ภูเก็ต” จะเริ่มเปิดขายอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 23- 24 มิถุนายนนี้ ณ Sales Gallery ที่ตั้งอยู่บนถนนวิชิตสงคราม โดยมีราคาเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท ซึ่งจะมีโปรโมชั่นพิเศษมอบแก่ผู้ที่จองและทำสัญญาในวันงาน ด้าน “เดอะ เบส ศรีจันทร์ — ขอนแก่น” ได้เลื่อนการเปิดขายอย่างเป็นทางการจากเดือนมิถุนายนออกไปเล็กน้อย เนื่องจากต้องการสร้างความเชื่อมั่นจากโครงการแรกในขอนแก่นที่ทางแสนสิริต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่กลุ่มลูกค้าชาวขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง โดยจะเปิดการขายอย่างเป็นทางการภายหลังได้รับการยืนยัน EIA ซึ่งเป็นการได้รับความเห็นชอบรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อนการก่อสร้างให้กับทางลูกค้า ซึ่งช่วงเวลาการเปิดขายจะกำหนดใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจทั้งสองโครงการสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sansiri.com หรือติดต่อ call center โทร. 1685
“ผู้ซื้อโครงการของแสนสิริในภูเก็ตและขอนแก่นจะได้รับเอกสิทธ์ในการเข้ามาเป็นครอบครัวแสนสิริ (Sansiri Family) ที่ลูกบ้านจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมายภายใต้มาตรฐานเดียวกับที่กรุงเทพฯ เพราะแสนสิริให้ความสำคัญกับการส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทั้งในแง่คุณภาพและบริการไม่ว่าโครงการจะตั้งอยู่ในทำเลใด ทั้งนี้ แสนสิริคาดว่าการรุกสู่ตลาดใหม่ในจังหวัด ศูนย์กลางเศรษฐกิจทั้ง 2 จังหวัดจะสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนต่อเนื่องในเรื่องแผนการพัฒนาโครงการใหม่ให้เร็วขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสความต้องการในพื้นที่นั้นๆ อีกด้วย” นายอุทัย กล่าวสรุป