กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--สำนักพิมพ์ ยิปซีกรุ๊ป
สำนักพิมพ์ ยิปซีกรุ๊ป ชูจุดแข็งด้านคอนเทนต์ ส่งหนังสือวางแผงครอบคลุมกลุ่มนักอ่าน มั่นใจปี 55 อุตสาหกรรมหนังสือจะกลับมาเติบโตไม่น้อยกว่า 5% หลังเจอพิษน้ำท่วม ปี 54 พร้อมจับมือพันธมิตรพัฒนาดิจิตอลคอนเทนต์ขานรับกระแส eBook
นายคธาวุฒิ เกนุ้ย ผู้บริหาร สำนักพิมพ์ ยิปซี กรุ๊ป เปิดเผยว่า “นโยบายของสำนักพิมพ์ ยิปซี กรุ๊ป ต้องการชูจุดแข็งของสำนักพิมพ์ที่ผลิตหนังสือคุณภาพและมีคอนเทนต์ที่หลากหลายครอบคลุมกลุ่มนักอ่าน โดยวางแผง 15 เล่มต่อเดือน จาก 6 สำนักพิมพ์ในเครือยิปซีกรุ๊ป ซึ่งประกอบด้วย สำนักพิมพ์ยิปซี เน้นหนังสือแนวประวัติศาสตร์ , สำนักพิมพ์ ณดา เน้นหนังสือ แนวฮาวทู สำนักพิมพ์บ้านธรรมะ เป็นธรรมะประยุกต์ใช้ได้จริงเข้าใจง่าย , สำนักพิมพ์ลายแฝด ตีพิมพ์หนังสือที่ได้รับรางวัลด้านวรรณกรรมจากเวทีต่างๆ และเพื่อส่งประกวดเข้าชิงรางวัล , สำนักพิมพ์ คุณป้าใจดี ผลิตหนังสือเด็ก และ สำนักพิมพ์นานา เจาะกลุ่มตลาดร้านสะดวกซื้อ”
นายคธาวุฒิ กล่าวต่อไปว่า “ในปี 2555 เทรนด์หนังสือแนวฮาวทู และธรรมะประยุกต์ ยังมาแรง เนื่องจากกลุ่มผู้อ่านสามารถนำสิ่งที่ได้จากหนังสือมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ แตกต่าง จากปีที่ผ่านมาที่เทรนด์กลุ่มหนังสือเด็กมียอดจำหน่ายสูง ซึ่งตนมองว่ามาจากสาเหตุปัญหาค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นและหนังสือไม่ใช่สินค้าที่เป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิต หลายครอบครัวจึงอาจ ตัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ออกไป ซึ่งก็ทำให้สำนักพิมพ์หลายแห่งต้องปรับตัวด้วยการเน้นผลิตหนังสือคุณภาพและเลือกคอนเทนต์ที่จะนำเสนอมากยิ่งขึ้น ส่วนแนวโน้มอุตสาหกรรมหนังสือปี 2555 จะกลับมาเติบโตไม่น้อยกว่า 5% เพราะภาครัฐกระตุ้นและมีกำลังซื้อจากช่วงน้ำท่วมเมื่อปีที่ผ่านมา ในแง่การเติบโตของสำนักพิมพ์นั้น คาดว่าสำนักพิมพ์ขนาดใหญ่จะเติบโตเฉลี่ย 5% สำหรับสำนักพิมพ์ขนาดกลางมีความคล่องตัวเติบโตเร็ว 17.5% แต่สำนักพิมพ์เล็กที่ออกหนังสือ 10 เล่มต่อปี จะเติบโตลดลงช่วง 2 — 3 ปีที่ผ่านมา
สำหรับ สำนักพิมพ์ ยิปซี กรุ๊ป นั้น วางสัดส่วนการขาย แบบ Stand Alone 40% , ในตลาดพิเศษเพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคโดยตรง อาทิ โรงเรียน , มหาวิทยาลัย , บริษัทต่างๆ , สถานที่ราชการ งานแฟร์ต่างๆ 30% เพื่อให้หนังสือเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในราคาพิเศษ และในกลุ่มร้านสะดวกซื้อ 30% ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักพิมพ์เน้นวางหนังสือกลุ่มความเชื่อ ธรรมะในราคาไม่แพงตัดสินใจซื้อได้ง่าย”
นายคธาวุฒิ กล่าวว่า “พฤติกรรมของนักอ่านที่เปลี่ยนไปทำให้กระแส eBook มาแรงนั้น เป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับคนทำหนังสือ เราต้องมองหาโอกาสจากการเปลี่ยนแปลง อย่างคนไทย ในต่างแดนทำอย่างไรจะให้เข้าถึงหนังสือไทยผ่าน eBook หรือใช้ eBook ขยายตลาดใหม่ซึ่งแผนการตลาดต้องทำควบคู่กับหนังสือเล่ม เพราะวันนี้โลกดิจิตอลและเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วหากตลาดและผู้บริโภคมีความพร้อมแต่สำนักพิมพ์ไม้เตรียมตัวรับมือก็จะพลาดโอกาสการเติบโตในธุรกิจ ซึ่งขณะนี้สำนักพิมพ์ ยิปซีกรุ๊ป กำลังเตรียมแผนพัฒนาบิสสิเนสโมเดล เพื่อรองรับตลาด eBook ไว้พร้อมแล้ว ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรพัฒนาคอนเทนต์ในรูปแบบ digital book ซึ่งใช้งานได้ดีกับไอแพดและเป็นอุปกรณ์อินเตอร์แอคทีฟทำให้มีความสนุกสนานในการอ่านมากขึ้น
แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่เราต้องช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ซึ่งต้องอาศัยกำลังสำคัญจากภาครัฐสนับสนุนนโยบาย และภาคเอกชนที่ต้องรวมตัวกันอย่างเข้มแข็ง”