ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจบัตรเครดิต พ.ศ. ....

ข่าวทั่วไป Wednesday June 6, 2012 10:54 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เสนอร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจบัตรเครดิต พ.ศ. .... ต่อคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555 และคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติฯ โดยมีสาระสำคัญดังนี้ 1. เพื่อให้กฎหมายกำกับดูแลการประกอบธุรกิจบัตรเครดิตเป็นมาตรฐานเดียวกัน เนื่องจาก ในปัจจุบันกฎหมายที่ใช้ในการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจบัตรเครดิตยังไม่เป็นมาตรฐานเดียวกันกล่าวคือ ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่เป็นสถาบันการเงินจะถูกกำกับดูแลโดยพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 ส่วนผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่มิใช่สถาบันการเงินหรือที่เรียกว่า “Non-Bank” จะถูกกำกับดูแลโดยประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องกิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ 5 แห่งประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 2. การกำหนดมาตรการให้การคุ้มครองผู้บริโภค เช่น การกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตมีหน้าที่แจ้ง เปิดเผย หรือให้ข้อมูลแก่ผู้ถือบัตร การห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจเรียกเก็บเงินจากผู้ถือบัตรก่อนถึงวันครบชำระตามสัญญา ให้ผู้ประกอบธุรกิจมีหน้าที่ป้องกันมิให้ผู้อื่นนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือบัตรไปใช้โดยฉ้อฉล และการให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการให้มีศูนย์บริการลูกค้า การรับพิจารณาเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้บัตรเครดิต หรือกรณีอื่นใดเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองแก่ผู้ถือบัตร เป็นต้น 3. กำหนดให้การรับส่งข้อมูลธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภายในประเทศผ่านศูนย์กลางหรือจุดเชื่อมต่อรับส่งข้อมูลรายการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่จัดตั้งภายในประเทศ (Local Switching) ซึ่งจะเป็นการลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการและผู้บริโภคในการประกอบกิจการและการใช้บริการบัตรเครดิต นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงประโยชน์ของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวที่เสนอ โดยจะเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาและสร้างมาตรฐานในการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่เหมาะสมและเป็นธรรม มีการกำหนดสิทธิและหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจบัตรเครดิตนอกจากนี้ ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวยังกำหนดมาตรการในการคุ้มครองผู้บริโภคที่เหมาะสม อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมต่อไป สำนักกฎหมาย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร 0 2273 9020 ต่อ 3264

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ