กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--PRdd
สภาวะตลาดวันที่ 6 มิถุนายน 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,615.26 — 1,636.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM12 อยู่ที่ 24,460 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 24,360 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVM12 อยู่ที่ 934 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 34 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 900 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.01 น.ของวันที่ 6/06/12)ออกมา คือ ออกมา คือ
แนวโน้มวันที่ 7 มิถุนายน 2555
นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ จะแถลงต่อคณะกรรมาธิการในสภาคองเกรสในวันพฤหัสบดีนี้ในเรื่องสถานะทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และ ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะจัดประชุมกำหนดนโยบายครั้งถัดไปในวันที่ 19-20 มิถุนายน โดยโพลล์รอยเตอร์ที่สำรวจความเห็นดีลเลอร์ 15 รายคาดว่า มีโอกาส 35 % ที่เฟดจะต่ออายุให้กับมาตรการ Operation Twist ในการประชุมครั้งนี้ และโพลล์ยังคาดการณ์อีกด้วยว่า โอกาสที่เฟดจะดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 หรือ QE3 พุ่งขึ้นสู่ 50 % จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 33 % ในโพลล์เดือนพฤษภาคม ความหวังว่านายเบน เบอร์นันเก้อาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ยังคงเป็นแรงหนุนให้ตลาดทองคำมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เฟด เผชิญแรงกดดันมากขึ้น หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 69,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้น สู่ระดับ 8.2% อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นของราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากทางยูโรโซน เมื่อมูดี้ส์ได้ปรับลดอันดับเครดิตของธนาคารเยอรมนี 6 แห่งลง 1 ขั้น จากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของผลกระทบที่ยืดเยื้อจากวิกฤตหนี้ยูโรโซน รวมทั้งศักยภาพที่จำกัดในการดูดซับภาวะขาดทุนของธนาคาร ซึ่งทางวายแอลจียังคงแนะนำให้ติดตามสถานการณ์ทางสหรัฐและยูโรโซนอย่างใกล้ชิด
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นและ ยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,640 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,652 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำเมื่อมีการปรับตัวขึ้นแรงก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมาเช่นกัน โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,612 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,605 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,612 (23,980บาท) 1,605 (23,870บาท) 1,598 (23,770บาท)
แนวต้าน 1,640 (24,390บาท) 1,652 (24,570บาท) 1,660 (24,690บาท)
GOLD FUTURES (GFM12)
แนวรับ 1,612 (24,140บาท) 1,605 (24,030บาท) 1,598 (23,930บาท)
แนวต้าน 1,640 (24,550บาท) 1,652 (24,730บาท) 1,660 (24,850บาท)
SILVER FUTURES (SVM12)
แนวรับ 28.40 (906บาท) 27.95 (892บาท) 27.39 (874บาท)
แนวต้าน 29.44 (939บาท) 30.00 (956บาท) 30.35 (967บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร. 02-287-1155 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร. 02-677-5520 หรือ www.ylgbullion.com