กรุงเทพฯ--7 มิ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,625 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,636 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.46 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,100 บาท กับ 24,200 บาท และกลับมาปิดที่ 24,200 บาท กับ 24,300 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 4,074 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 12,006 คู่สัญญา และ Silver Futures 53 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 4 % แบบ 10 บาท ลดลง 4 % Silver Futures ลดลง 0.01 % GFM12 ปิดที่ 24,490 บาท และ GFQ12 ปิดที่ 24,620 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 24,500 บาท และ GF10Q12 ปิดที่ 24,630 บาท SVM12 ปิดที่ 932 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 17 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,634.2 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 29.49 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,274.79 ตัน (ซื้อเพิ่ม 0.9 ตัน) น้ำมันNYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 73 เซนต์ ปิดที่ระดับ 85.02 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 286.84 จุด ปิดที่ระดับ 12,414.79จุด
Ratio Gold / Silver 55 เท่ากับ ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
TheBullionDesk
ตลาดลอนดอน
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในการซื้อขายที่ตลาดลอนดอนเมื่อคืนนี้ หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีได้ปฏิเสธที่จะส่งต่อมาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม แต่ได้สร้างแรงกดดันให้กับรัฐบาลแต่ละประเทศเพื่อดำเนินการมากขึ้นในการต่อสู้เกี่ยวกับวิกฤตภาคธนาคารที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น อีซีบีคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิมที่ระดับ 1% ในขณะที่นายดรากีได้ตำหนิรัฐบาลในภูมิภาคในเรื่องการขาดการดำเนินการในเรื่องวิกฤตหนี้สาธารณะ โดยนายดรากีได้กล่าวเพิ่มเติมในแถลงการณ์ที่เตรียมไว้ว่า การให้ความสำคัญกับการขยายทางการเงินยังคงอยู่ในความควบคุม ซึ่งการคาดการณ์ถึงระดับอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนยังคงใกล้อยู่กับระดับ 2% ในระยะกลาง ในขณะเดียวกัน การเติบโตของเศรษฐกิจในยูโรโซนยังคงอ่อนแออยู่ ส่งผลให้มีภาวะ downside risks เพิ่มขึ้นในมุมมองของเศรษฐกิจ ราคาทองคำมีการแกว่งตัวอย่างมากเมื่อนายดรากีเริ่มแถลงการณ์ แต่ก็มีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากความหวังในเรื่องที่ว่า รัฐบาลยูโรโซนอาจรู้สึกอับอายจนเปลี่ยนไปสู่การดำเนินมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นในการประชุมอียูซัมมิทในวันที่ 28 — 29 มิถุนายนนี้ แหล่งข้อมูลกล่าวต่อ FastMarkets ว่า ปริมาณความต้องการทองคำแท่งในอินเดียยังคงอ่อนแอ เนื่องจากระดับราคาที่สูงและอยู่ในช่วงฤดูซบเซา แม้ว่าค่าพรีเมี่ยมจะอยู่ที่ระดับ 1.50 — 2 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ก็ตามReuters
ตลาดนิวยอร์ก
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในการซื้อขายตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ จากการกระตุ้นการเข้าถึงเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาโดยการที่เฟดดึงความเป็น Safe-Haven ของทองคำออกมา ทำให้ทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน จากการคาดการณ์มากขึ้นในเรื่องนโยบายผ่อนคลายการเงินจากกลุ่มธนาคารต่างๆ ราคาทองคำปรับตัวลดลงมากกว่า 20 เหรียญ หรือ 1% จากระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนหลังจากเฟดได้กล่าวในการรายงาน Beige Book ล่าสุดที่สรุปในเรื่องกิจกรรมของประเทศ โดยระบุว่าการเติบโตของเศรษฐกิจดีขึ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาและในส่วนของภาคการจ้างงานก็แสดงให้เห็นถึงสัญญาณการเพิ่มขึ้นพอประมาณ โดยการรายงาน Beige Book ดังกล่าวได้ชี้ให้เห็นว่า สภาพเศรษฐกิจดูดีขึ้นกว่าที่คาดไว้ โดยประธานเฟด สาขาดัลลัสเป็นผู้เตรียมการรายงาน Beige Book ในครั้งนี้ ซึ่งมีการรวบรวมข้อมูลมาจนถึงวันที่ 25 พฤษภาคม และจะนำมาใช้ในการประชุมเฟดในวันที่ 19 — 20 มิถุนายนนี้ Silver สามารถเอาชนะทองคำและปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3% ตามที่ตลาดหุ้นสหรัฐและสินค้าโภคภัณฑ์ภาคอุตสาหกรรมมีการฟื้นตัวจากการที่ รู้สึกว่ามีมุมมองเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจากความหวังในเรื่องเงินช่วยเหลือจาก ยุโรปต่อธนาคารของสเปนที่มีปัญหา ราคา spot gold ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% ที่ระดับ 1,618 เหรียญ ณ เวลา 2.19 น. หลังจากที่พุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,640 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม โดยจากกราฟ ราคาทองคำลงมาแตะระดับแนวต้านที่เส้นค่าเฉลี่ย 50 วันใกล้ระดับ 1,618 เหรียญ ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่า ลักษณะของ bullish double-bottom pattern ก็ยังแข็งแกร่งจากแรงเข้าซื้อ จากการรายงานตัวเลข non-farm payrolls ที่ผิดคาดเมื่อวันศุกร์ได้สร้างแรงกดดันต่อเฟดให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเดนนิส ล็อกฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ได้กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เฟดอาจจำเป็นที่จะใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินหากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เกิดความไม่แน่นอนหรือวิกฤตยุโรปกระตุ้นความตื่นตระหนกต่อตลาดการเงินมากขึ้น
ตลาดสิงคโปร์
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์เช้านี้ โดยนักลงทุนกำลังจับตามองการแถลงโดยเปิดเผยหรือการทำ testimony จากนายเบน เบอร์นันเก ประธานเฟดก่อนการประชุมรัฐสภา ตามที่มีความคาดหวังในเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในระดับสูง ราคา spot gold ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 0.5% ที่ระดับ 1,625 เหรียญ ณ เวลา 7.26 น. แม้ว่าจะขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,640 เหรียญเมื่อคืนนี้ ในช่วงก่อนการปราศรัยของนายเบน เบอร์นันเก เจ้าหน้าที่เฟดบางรายกล่าวว่า พวกเขาได้เตรียมที่จะดำเนินการนโยบายเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ ซึ่งการทำ testimony ของนายเบอร์นันเกในวันนี้จะให้สัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นว่าแผนนโยบายของเฟดจะยังคงอยู่ห่างไกลจากการออกนโยบายใหม่ๆ หรือไม่ แหล่งข้อมูลยุโรปได้ระบุว่า กลุ่มเจ้าหน้าที่เยอรมนีและสหภาพยุโรปได้กระตุ้นการเพิ่มหนทางในการช่วยเหลือภาคการธนาคารของสเปน แม้ว่าประเทศสเปนยังไม่ได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือ และยังคงต่อต้านการอยู่ภายใต้การควบคุมระหว่างประเทศCNBC
นางเจเน็ต เยลเล็น รองประธานเฟด ได้เผยให้เห็นถึงกรณีของเฟดที่จะดำเนินมาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม เพื่อปกป้องเศรษฐกิจตามที่มีความสับสนวุ่นวายทางการเงินในยุโรป โดยมุมมองของนางเยลเล็นเป็นอิทธิพลที่ดีต่อนายเบน เบอร์นันเก จากความเห็นของเธอที่ระบุว่า เฟดอาจขยับเข้าใกล้การดำเนินมาตรการเพิ่มเติมในเดือนนี้เพื่อตอบโต้กับภาค ที่อยู่อาศัยที่มีปัญหา รวมไปถึงตลาดการจ้างงานที่อ่อนแอ และวิกฤตหนี้ยูโรโซนที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันการปราศรัยของนายเบน เบอร์นันเกในวันนี้จะแสดงถึงความเห็นพ้องต้องกันกับนางเยลเล็น
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 2.2 M ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ -1.1 Mตัวเลขจริงลดลงอยู่ที่ระดับ -0.1M
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 383,000 ราย ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 381,000 ราย
- Fed Chairman Bernanke Testifies
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้นโดยที่มีแรงเทขายอย่างหนาแน่นบริเวณ 1,630 เหรียญ ราคาทองคำเมื่อวานปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,640 เหรียญ ก่อนที่จะถูกแรงเทขายทำกำไรเข้ามาตลอดระยะทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดสำคัญคือการที่ประธานเฟดในมลรัฐย่อยออกมาแถลงว่ามีความพึงพอใจต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ ทำให้เกิดแรงเทขายของราคาทองคำและหลุดระดับ 1,630 เหรียญ อย่างรวดเร็ว และลงมาทดสอบแนวรับด้านล่างที่ระดับ 1,612 เหรียญ ก่อนที่จะเด้งกลับขึ้นมาที่บริเวณ 1,624 เหรียญในเช้าวันนี้ เชิงเทคนิคราคาทองคำยังมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,645 — 1,650 เหรียญ ซึ่งยังถือว่าเป็นแนวต้านที่สำคัญที่สุด ถ้าเกิดมีการปฏิเสธมาตรการ QE3 ราคาทองคำก็มีโอกาสที่จะลงมาลึกๆ ได้เช่นกัน เริ่มมีกระแสความคาดหมายว่า เฟดอาจจะใช้มาตรการ Operation Twist แทน QE3 ก็เป็นไปได้ จึงทำให้เกิดแรงเทขายลงมาอย่างมากเมื่อวานนี้ ในเชิงเทคนิคราคาทองคำในระยะสั้นเริ่มเป็นสัญญาณบวกในระยะรายชั่วโมง แต่กราฟรายวันยังคิดว่ายังไม่พ้นแนวโน้มขาลง จึงแนะนำให้นักลงทุนยังที่จะต้องบริหารพอร์ทให้เหมาะสมและพร้อมที่จะปรับตัวตามตลาด โดยมี Stop Loss บริเวณ 1,610 เหรียญ ถ้าหลุดระดับ 1,610 เหรียญลงมาคิดว่าอาจจะปิดทำกำไรออกไปก่อน โดยให้ทำกำไรบริเวณ 1,614 เหรียญ
Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,200 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,420 บาท
Gold Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,350 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,570 บาท
Silver Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 930 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะสั้น รายวัน (Daily Trade)
เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัว ในกรอบ 1,610 — 1,630 เหรียญ แนะนำถ้าหลุดระดับ 1,610 เหรียญ ควรขายหนี ไม่ควรเข้าช้อนซื้อ ณ ขณะนี้ อย่าลืมว่าการเปลี่ยนแปลงของราคาค่อนข้างรวดเร็วเนื่องจากเป็นการเล่นตามข่าว
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade)
ขายทำกำไรออกไปให้หมด ลดพอร์ทลงเหลือ 0% รอความชัดเจนของแถลงการของนายเบน เบอร์นันเกคืนนี้ก่อน
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ขายทำกำไรออกไปก่อนเช่นกัน ลดพอร์ทลงเหลือ 0 %
สรุปได้ว่า ยังคาดว่าจะมีการแกว่งตัวในการให้ถ้อยแถลงของเบอร์นันเกวันนี้อย่างมาก ยังแนะนำให้ลดพอร์ทลง รอดูความชัดเจนของทิศทางคืนนี้
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง