ขสมก.เชิญ บชน., กทม., ขส., สนข. ประชุมหารือ 23 มิ.ย.นี้

ข่าวทั่วไป Monday June 21, 2004 08:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--ขสมก.
ขสมก.เชิญ บชน., กทม., ขส., สนข. ประชุมหารือ 23 มิ.ย.นี้ ขอใช้บัสเลน 15 สาย พร้อมแยกป้ายรถเมล์เพิ่มความเร็วในการเดินทาง หวังดึงประชาชนใช้รถโดยสารสาธารณะเพิ่มขึ้นช่วยชาติประหยัดพลังงาน
นายวิโรจน์ นีละโยธิน หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าจากการที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายนิกร จำนง) มีนโยบายให้ ขสมก.เพิ่ม มาตรการในการจัดบริการรถเมล์ให้มีความสะดวก รวดเร็วต่อการเดินทางยิ่งขึ้นเพื่อชักจูงให้ประชาชนหันมาใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเพิ่มขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลในการลดการใช้เชื้อเพลิงในขณะที่ราคาน้ำมันมีการปรับตัวสูงขึ้นโดยตลอด โดยในวันที่ 23 มิถุนายนนี้ ขสมก.นำโดย นายปกศักดิ์ เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการ จะให้มีการประชุมหารือร่วมกันที่อาคารสำนักงานใหญ่ ขสมก.ถนนเทียมร่วมมิตร ระหว่าง ขสมก., สนข., กทม., บชน. และกรมการขนส่งทางบก ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบร่วมกันในการให้บริการและควบคุมการเดินรถโดยสารประจำทาง รวมถึงการจราจรในเขต กทม.และปริมณฑล โดย ขสมก.จะเสนอต่อที่ประชุมให้พิจารณาช่วยให้การเดินรถเมล์ของ ขสมก.ที่ขนส่งผู้โดยสารได้คราวละ 70-80 คนต่อคัน มีความสะดวกสามารถเพิ่มความเร็วต่อการเดินทางได้มากกว่าสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน อาทิเช่น
1. จะเสนอขอใช้ "บัสเลน" ในชั่วโมงเร่งด่วนเช้า, เย็น เพื่อให้รถเมล์วิ่งบริการรับ-ส่งผู้โดยสารได้เป็นการเฉพาะและสามารถแซงกันได้ในถนนสายหลัก 15 สาย ได้แก่
- ถนนพหลโยธินช่วงตั้งแต่สะพานใหม่-อนุสาวรีย์ชัยฯ ระยะทาง 16-30 ก.ม. มีรถเมล์วิ่งบริการผ่าน 69 สาย
- ถนนพญาไทช่วงตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยฯ - สามย่าน ระยะทาง 3.5 ก.ม. มีรถเมล์วิ่งบริการผ่าน 49 สาย
- ถนนรามอินทราช่วงตั้งแต่ห้างแฟชั่นไอซ์แลนด์-อนุสาวรีย์หลักสี่ ระยะทาง 10.3 ก.ม.มีรถเมล์บริการผ่าน 17 สาย
- ถนนรัตนาธิเบศร์ช่วงตั้งแต่แยกพระนั่งเกล้า-แยกแคราย ระยะทาง 4 ก.ม. มีรถเมล์บริการผ่าน 7 สาย
- ถนนงามวงศ์วานช่วงตั้งแต่แยกแคราย-แยกเกษตร ระยะทาง 6 ก.ม. มีรถเมล์บริการผ่าน 14 สาย
- ถนนรามคำแหงช่วงตั้งแต่พระโขนง-วงแหวนตะวันออก ระยะทาง 13.1 ก.ม. มีรถเมล์บริการผ่าน 33 สาย
- ถนนลาดพร้าวช่วงตั้งแต่บางกะปิ-ปากทางลาดพร้าว ระยะทาง 10.6 ก.ม. มีรถเมล์บริการผ่าน 30 สาย
- ถนนเพชรบุรีช่วงตั้งแต่คลองตัน-แยกอุรุพงษ์ ระยะทาง 8.6 ก.ม. มีรถเมล์บริการผ่าน 35 สาย
- ถนนพระราม 4 ช่วงตั้งแต่พระโขนง-หัวลำโพง ระยะทาง 8.7 ก.ม. มีรถเมล์บริการผ่าน 50 สาย
- ถนนสุขุมวิทช่วงตั้งแต่สำโรง-เพลินจิต ระยะทาง 14.7 ก.ม. มีรถเมล์บริการผ่าน 35 สาย
- ถนนสุขสวัสดิ์ ช่วงตั้งแต่แยกพระประแดง-บางปะแก้ว ระยะทาง 5.7 ก.ม. มีรถเมล์บริการผ่าน 22 สาย
- ถนนตากสิน ช่วงตั้งแต่บางปะแก้ว-วงเวียนใหญ่ ระยะทาง 3.6 ก.ม. มีรถเมล์บริการผ่าน 26 สาย
- ถนนอินทรพิทักษ์ ช่วงตั้งแต่ท่าพระ-วงเวียนใหญ่ ระยะทาง 0.7 ก.ม. มีรถเมล์บริการผ่าน 17 สาย
- ถนนเพชรเกษม ช่วงตั้งแต่พุทธมณฑลสาย 2-บางยี่เรือ ระยะทาง 13.6 ก.ม. มีรถเมล์บริการผ่าน 37 สาย
- ถนนจรัญสนิทวงศ์ ช่วงตั้งแต่ท่าพระ - สะพานพระราม 7 ระยะทาง 10.4 ก.ม. มีรถเมล์บริการผ่าน 31 สาย
2. จะเสนอให้มีการแยกป้ายรถเมล์เพื่อลดความคับคั่งของรถเมล์ที่ต้องจอดเรียงคิวนาน จากมี 1 ป้ายเพิ่มเป็น 2 ป้ายแยกห่างกันเฉพาะป้ายที่มีผู้โดยสารหนาแน่นและขออนุญาตแซงกันได้ในบัสเลนเพื่อความรวดเร็วต่อการเดินทาง มีการแยกให้รถเมล์สายเลขคู่-คี่ จอดรับ-ส่งคนละป้าย ซึ่งขณะนี้ ขสมก.ได้ตั้งคณะกรรมการศึกษาข้อมูลไว้ล่วงหน้าแล้วว่าควรเป็นถนนสายใดบ้าง และจะนำเสนอต่อที่ประชุมพิจารณาไปพร้อมกัน
3. จะเสนอให้มีการใช้ช่องทางเดินรถเมล์ชิดเกาะกลางถนนเพิ่มขึ้นในถนนที่สามารถทำได้จากที่มีการใช้อยู่เฉพาะในถนนลาดพร้าวขณะนี้ ซึ่งอาจเป็นโครงการในอนาคต
หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ ขสมก.เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตามมาตรการเพิ่มความเร็วในการเดินทางของรถเมล์เพื่อ จูงใจให้คนหันมาใช้รถเมล์เพื่อช่วยประหยัดพลังงานดังกล่าว ขสมก.ไม่สามารถทำได้เองเพียงลำพังจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้ง กทม, ตำรวจจราจร, กรมการขนส่งทางบก, และ สนข. ที่จะต้องดำเนินการร่วมกัน ส่วนผลการพิจารณาของที่ประชุมจะเป็นอย่างไร ขสมก.ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม สำหรับมาตรการอื่น ๆ ที่ ขสมก. มีการดำเนินการอยู่เอง ในการช่วยชาติประหยัดพลังงานในขณะนี้ คือ มีการกำหนดมาตรฐานควบคุมการใช้น้ำมันรถเมล์แต่ละประเภทไว้ชัดเจนคือ รถเมล์ธรรมดาแต่ละคันจะต้องมีอัตราการใช้น้ำมัน 2.50 - 2.60 ก.ม.ต่อลิตร รถปรับอากาศธรรมดา 10.70-1.80 ก.ม.ต่อลิตร รถปรับอากาศยูโรทู 1.80-1.90 ก.ม.ต่อลิตร และรถปรับอากาศพ่วง 1.10-1.20 ก.ม.ต่อลิตร หากรถคันใดมีการใช้น้ำมันต่ำกว่ามาตรฐานขั้นต่ำต้องวิเคราะห์สาเหตุปัญหาและแก้ไขทันที และรถที่ ขสมก.จ้างเอกชนซ่อมบำรุงรักษาจะมีการตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ก่อนนำรถออกวิ่งบริการแต่ละวัน รถที่ ขสมก.ซ่อมเองกำหนดให้มีแผนการซ่อมบำรุงรักษาแต่ละคันตามวาระใช้งาน มีการกำชับให้ พขร.ดับเครื่องยนต์ทันทีเมื่อรถเข้าท่าปลายทาง เปิดแอร์ในรถเฉพาะช่วงเวลาที่วิ่งบริการเท่านั้น นอกจากนี้ ขสมก.ได้ปรับปรุงงานบริการรถเมล์ตาม มาตรฐานสากล ISO 9001:2000 ได้ 73 เส้นทางแล้วจาก 113 เส้นทางที่มีอยู่ภายใต้คุณภาพบริการที่สามารถสัมผัสได้กับรถที่สะอาด มารยาทดี มีความปลอดภัยสูง ไม่ขาดระยะนาน และที่เหลืออีก 40 เส้นทางจะเข้าสู่ ISO ได้ครบภายใน สิ้นปี 2547 นี้ โดยเฉพาะรถปรับอากาศยูโรทูที่มีความพร้อมมากกว่า ขสมก.จะปรับปรุงให้ได้ ISO หมดทุกสายก่อน ภายใน 3 เดือน ตามนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมที่มอบหมายไว้ ทั้งนี้ เพื่อจูงใจให้กลุ่มผู้ใช้รถ ส่วนตัวมาใช้บริการรถปรับอากาศที่มีคุณภาพดีที่สุดของ ขสมก.ในขณะนี้ให้มากที่สุด รวมถึงได้เตรียมจัดรถเมล์ ขสมก.เข้าไปบริการเชื่อมต่อกับรถไฟใต้ดินถึงภายในสถานีที่จะเปิดบริการในเดือนกรกฎาคมนี้ด้วย 9 สถานีจากทั้งหมด 17 สถานี เพื่อให้ความสะดวกแก่ผู้โดยสาร ได้แก่ สถานีบางซื่อ กำแพงเพชร ลาดพร้าว รัชดา ห้วยขวาง ศูนย์วัฒนธรรม เพชรบุรี ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ สามย่าน โดยจะมีรถเมล์เข้าไปจอดบริการได้ 40 คัน โดยมีเส้นทางรถเมล์ให้บริการถึงสถานีและที่วิ่งผ่านรวม 25 สาย นอกจากนี้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงขณะนี้ ขสมก.ร่วมกับกรมอู่ทหารเรือได้นำก๊าซ NGV ร่วมกับ ไบโอดีเซลและน้ำมันผสมกันมาทดลองใช้เป็นเชื้อเพลิงกับรถเมล์เพื่อช่วยลดการใช้น้ำมันลง ซึ่งผลทดลองขั้นต้นค่าควันดำลดลงได้ 56% ประหยัดเชื้อเพลิงลงได้ 29.66% หรือ 13 สตางค์ต่อ ก.ม. หากผลทดลองสิ้นสุดแล้วเป็นผลดีครอบคลุมทุกด้าน ขสมก.จะมีการดัดแปลงเครื่องยนต์รถธรรมดามาใช้เชื้อเพลิงผสมชนิดนี้เพื่อใช้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารตามนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมต่อไป--จบ--
-นท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ