กรุงเทพฯ--11 มิ.ย.--ธนาคารกสิกรไทย
กสิกรไทย จับมือไอซีบีซี (ไทย) และแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ปล่อยกู้ร่วม 2,456 ล้านบาท ให้กับ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่มีการติดตั้งระบบปรับแผงโซล่าร์เซลล์แบบหมุนตามดวงอาทิตย์ (Tracking System) ของเอกชนแห่งแรกในประเทศไทย 3 โครงการ เชื่ออนาคตไทยจะเป็นผู้นำการใช้พลังงานหมุนเวียน พร้อมขยายการลงทุนไปต่างประเทศ
นายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า “บริษัท ฯ ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ล่าสุดได้ลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มอีก 3 แห่ง ซึ่งเป็นโครงการที่มีการติดตั้งระบบปรับแผงโซล่าร์เซลล์แบบหมุนตามดวงอาทิตย์ (Tracking System) ของเอกชนแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตพลังงานไฟฟ้ามากกว่าระบบติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์แบบคงที่”
โครงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้ง 3 แห่ง ประกอบด้วย โครงการเอสพีพี ทู ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี โครงการเอสพีพี ทรี ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และโครงการเอสพีพี โฟร์ ตั้งอยู่ในพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดอุบลราชธานี มีกำลังผลิตติดตั้ง 8 เมกะวัตต์ 8 เมกะวัตต์ และ 6 เมกะวัตต์ ตามลำดับ รวมทั้งสิ้น 22 เมกะวัตต์ โดยทั้ง 3 โครงการ เอ็กโก กรุ๊ป ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 และได้รับเงินส่วนเพิ่มค่าไฟฟ้า (Electricity Adder) จำนวน 8 บาทต่อหน่วย จากอัตราค่าไฟฟ้าปกติ นับตั้งแต่วันเริ่มต้นซื้อขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ เป็นระยะเวลา 10 ปี
“การลงทุนในครั้งนี้ เป็นไปตามเป้าหมายของเอ็กโก กรุ๊ป ในการขยายธุรกิจพลังงานทดแทน โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 300 เมกะวัตต์ ภายในปี 2558 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ ที่มุ่งเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาดภายในประเทศ เพื่อนำไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) และยังเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบของเอ็กโก กรุ๊ป ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นในการดำเนินงานของบริษัทฯ ตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา” นายสหัส กล่าวสรุป
นายวศิน วณิชย์วรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยทำหน้าที่เป็นผู้จัดการเงินกู้ (Mandated Lead Arranger) และร่วมให้กู้กับธนาคารไอซีบีซี (ไทย) และธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ดังกล่าว โดยเป็นการปล่อยกู้ร่วมในวงเงินประมาณ 2,456 ล้านบาท ซึ่งจัดสรรให้แก่โครงการเอสพีพี ทู จำนวน 868.10 ล้านบาท เอสพีพี ทรี จำนวน 903.80 ล้านบาท และเอสพีพี โฟร์ จำนวน 683.90 ล้านบาท โดยเป็นลักษณะสินเชื่อโครงการเพื่อการพัฒนาก่อสร้างและดำเนินการ ซึ่งการสนับสนุนโครงการในครั้งนี้ยึดหลักความยั่งยืนเป็นสำคัญ โดยพิจารณาจากลักษณะโครงการ เทคโนโลยีที่ใช้ และความเป็นมืออาชีพของผู้พัฒนาโรงไฟฟ้า
“ธนาคารกสิกรไทยพร้อมที่จะร่วมผลักดันโครงการด้านพลังงานทดแทนที่มีศักยภาพร่วมกับนักลงทุนไทยอย่างเต็มที่ ด้วยทีมงานที่มีความรู้ความเข้าใจในอุตสาหกรรมพลังงาน ที่จะช่วยสนับสนุนทั้งด้านการเงินและการให้คำปรึกษาทางการเงิน ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้าก้าวขึ้นเป็นธนาคารอันดับ 1 ด้านธุรกิจพลังงานและพลังงานทดแทน โดยตั้งเป้าหมายครองส่วนแบ่งตลาดธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศที่ร้อยละ 80” นายวศิน กล่าวสรุป