กรุงเทพฯ--11 มิ.ย.--สหการประมูล
สหการประมูลเปิดเผยผลวิจัยภาวะตลาดรถยนต์มือสองล่าสุด เผยยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลปรับตัวเพิ่มขึ้น 26.7%ในขณะที่ซัพพลายเพิ่มกระทบราคาขายทั้งเก๋งและกระบะ คาดแนวโน้มราคาขายเดือนมิถุนายนลดลงต่อเนื่อง ชี้เป็นช่วงLow season ของตลาดรถยนต์มือสอง
นายเอกพิทยา เอี่ยมคงเอก กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท สหการประมูลจำกัด เปิดเผยถึงยอดขายรถยนต์นั่งในเดือนพฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมาว่า สามารถประมูลขายได้จำนวน 1,248 คัน ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 26.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ นับเป็นการฟื้นตัวของตลาดจากเดือนเมษายน ในขณะที่ราคาประมูลเฉลี่ยรถยนต์นั่งของสหการประมูลในเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 261,104 บาทต่อคัน หากเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ราคาลดลง 7.5%ทั้งนี้ราคาขายเฉลี่ยของรถยนต์ประเภท 1300-1500 cc ลดลง 5.6% และราคาขายเฉลี่ยรถยนต์ประเภท 1600-2000 cc ลดลง 8.8% และราคาขายเฉลี่ยรถยนต์ประเภท 2000 cc ก็ลดลง 16.8% เช่นกันเนื่องจากมีรถยนต์นั่งที่หมดอายุสัญญาเช่าเข้ามาในตลาดประมูลค่อนข้างมากในช่วงเดือนดังกล่าว ประกอบกับช่วงไตรมาส 2 เป็นช่วงเปิดเทอมและเริ่มเข้าฤดูฝน ถือเป็นช่วง Low season ของตลาดรถยนต์ รวมกับปัจจัยที่ค่ายรถยนต์ต่างๆ ทยอยส่งมอบรถใหม่ให้ลูกค้าได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้ตลาดประมูลรถยนต์มือสองชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแนวโน้มของตลาดประมูลรถยนต์นั่งในเดือนมิถุนายน 2555 นั้น สหการประมูลคาดการณ์ว่าราคาประมูลเฉลี่ยรถยนต์ประเภท 1300-1500 cc จะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 217,500 — 220,500 บาทต่อคัน และคาดว่าแนวโน้มราคาประมูลเฉลี่ยรถประเภท1600-2000 cc จะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 231,000 — 240,000 บาทต่อคัน
ส่วนยอดขายประมูลรถกระบะในเดือนพฤษภาคม นายเอกพิทยาเห็นว่าปรับตัวดีขึ้น แต่ราคาประมูลเฉลี่ยปรับตัวลดลง 1.96% โดยเฉพาะกระบะประเภท Double Cab ราคาประมูลปรับตัวลดลงถึง7.3% อย่างไรก็ตามในเดือนมิถุนายน 2555 สหการประมูลคาดว่าแนวโน้มตลาดดังกล่าวจะยังคงชะลอตัว เนื่องจากช่วงไตรมาส 2 เป็นช่วง Low season ของตลาดรถยนต์อยู่แล้ว ประกอบกับช่วงนี้ภาคการเกษตรต้องเตรียมเงินทุนสำหรับทำการเกษตรในช่วงฤดูฝน ซึ่งจะส่งผลให้กำลังซื้อรถกระบะชะลอตัวลง
สำหรับราคาขายนั้นสหการประมูลคาดการณ์ว่าแนวโน้มราคารถกระบะเดือนมิถุนายน 2555 มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยราคาประมูลกระบะประเภทSingle Cab น่าจะอยู่ที่ระดับ 220,000 — 224,300 บาทต่อคัน ประเภทClub Cab ที่ระดับ 328,800 — 330,000 บาทต่อคัน และรถกระบะประเภทDouble Cab คาดว่าราคาขายจะอยู่ที่ระดับ 360,000 — 370,300 บาทต่อคัน
กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท สหการประมูล จำกัด เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สถานการณ์การจองซื้อและการส่งมอบรถยนต์จากค่ายต่าง ๆส่งผลกระทบต่อราคาและความต้องการซื้อรถยนต์มือสองทั้งนี้ ค่ายมิซูบิชิ มียอดจองมิราจอยู่ที่ 23,000 คัน ซึ่งคาดว่าน่าจะทยอยส่งมอบได้หมดในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้ โดยเริ่มส่งมอบได้เดือนละประมาณ 2,500 — 3,000 คันต่อเดือนตั้งแต่เดือนพฤษภาคมมาแล้วส่วนค่ายฮอนด้าเริ่มผลิตทั้ง 2 โรงงาน ๆ ละ 2 กะต่อวัน ทำให้มียอดผลิตสูงสุดถึงวันละ 1,000 คัน โดยค่ายฮอนด้าได้เปิดตัว Civic ใหม่ในงานมอเตอร์โชว์และมียอดจองถึง5 พันคัน และยังอยู่ในสต็อกปัจจุบันราว 3-4 พันคันส่วนค่ายฟอร์ด มียอดจองฟอร์ด เฟียสต้า 1.5 ลิตรจำนวน2,500 คัน โดยเริ่มส่งมอบรถยนต์ได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาทั้งหมดนี้คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาประมูลรถยนต์มือสองปรับตัวลดลง เพราะเต้นท์รถยนต์มือสองทยอยประมูลซื้อรถยนต์นั่งตามความต้องการของลูกค้าเท่านั้น ทำให้ราคาประมูลปรับลงตามสภาวะตลาด
สำหรับผู้ที่สนใจรายงานวิจัยตลาดรถยนต์มือสองเพิ่มเติม สามารถติดต่อขอรับข้อมูลงานวิจัยฉบับเต็มได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ 0-2934-7344 หรือที่ www.union-auction.com