กรุงเทพฯ--22 มิ.ย.--สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
จะสังเกตได้อย่างไรว่าเป็นมะเร็งตับ ผู้ป่วยมักจะมีอายุมากกว่า ๔๐ ปีขึ้นไป ผู้ป่วยจำนวนมากไม่มีอาการอะไรเลย และถ้ามีอาการเริ่มแรกค่อนข้างจะคลุมเครือ เช่น ผอมลง เจ็บชายโครงขวานิด ๆ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ทำงานไม่ค่อยไหว อาการของโรคจะมากหรือน้อยแล้วแต่ระยะของโรค ต่อมาอาการจะชัดเจนขึ้น เมื่อมีความรู้สึกอ่อนเพลียมากขึ้น เบื่ออาหาร จุดเสียดแน่นท้อง น้ำหนักลดมากในช่วงระยะสั้น ๆ และอาการสำคัญคือปวดบริเวณชายโครงขวา และอาจปวดร้าวไปที่ไหล่ขวา หรือบริเวณลำตัวซีกขวาทั้งหมด อาการอาจเป็นมากขึ้นตามการหายใจ ไอ หรือเปลี่ยนอิริยาบถ หรือคลำได้ก้อนที่ชายโครงขวา ในบั้นปลายอาจจะมีไข้เรื้อรัง บางรายอาจมีอาการของตับแข็ง เช่น ขาบวม ท้องบวม ที่เรียกว่า ท้องมาน เป็นต้น
ดังนั้นผู้ป่วยที่เป็นโรคตับแข็งเมื่อเกิดมีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงทั้ง ๆ ที่บวมขึ้น หรือมีอาการไข้ไม่ทราบสาเหตุ ควรจะรีบปรึกษาแพทย์ เพราะอาจมีมะเร็งตับแทรกซ้อนได้ ในทำนองเดียวกันผู้ที่ไม่มีอาการแต่มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็งตับเป็นพาหะเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี และซี หรือดื่มสุรามาก หรือมีประวัติกรรมพันธุ์คนใกล้ชิดในครอบครัวเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับ ควรปรึกษาแพทย์เป็นระยะ ๆ
ข้อแนะนำสำหรับท่านที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็งตับ ดังที่ได้กล่าวแล้วข้างต้นว่า ผู้ที่เป็นพาหะของไวรัสบี หรือซี ผลจากไวรัสทั้งสองตัว หรือจากการดื่มสุรามาก หรือมีประวัติมะเร็งตับในครอบครัว ท่านควรจะเอาใจใส่ตนเองเป็นพิเศษควรไปหาแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย--จบ--
-นท-