ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ "ภัทรลิสซิ่ง" ที่ระดับ "BBB+"

ข่าวทั่วไป Wednesday June 23, 2004 09:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 มิ.ย.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ยืนยันอันดับเครดิตองค์กร รวมทั้งหุ้นกู้ไม่มีประกันมูลค่า 400 ล้านบาท (PL04DA) และมูลค่า 900 ล้านบาท (PL066A) ของ บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) คงเดิมที่ระดับ "BBB+" ซึ่งสะท้อนถึงสถานะผู้นำในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์ ความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความเพียงพอของกระแสเงินสด และคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีของบริษัท รวมทั้งยังสะท้อนแนวโน้มที่ดีของธุรกิจดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จุดแข็งเหล่านี้ถูกลดทอนด้วยสัดส่วนการกู้ยืมที่สูงขึ้น การกระจุกตัวของลูกค้ารายใหญ่ และภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจเช่าดำเนินงานรถยนต์ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทภัทรลิสซิ่ง ก่อตั้งในปี 2530 โดยกลุ่มตระกูลล่ำซำ และดำเนินธุรกิจลีสซิ่งและเช่าซื้อในช่วงเริ่มต้น จากนั้นตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นมา บริษัทได้เน้นธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์พร้อมกับบริการเสริมต่างๆ ความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์หลายแห่งและอู่ซ่อมรถยนต์ทั่วประเทศทำให้บริษัทสามารถให้เช่ารถยนต์พร้อมทั้งให้บริการในจำนวนมากภายใต้สัญญาระยะยาวได้ บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่สูงในตลาดการให้เช่าดำเนินงาน โดยให้เช่าดำเนินงานรถยนต์ประเภทต่างๆ ซึ่งรวมถึงรถเก๋ง รถยนต์ระดับหรู และรถยนต์เอนกประสงค์ ในงวดบัญชีปี 2546 สินทรัพย์ให้เช่าของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 60% เมื่อบริษัทได้ทำสัญญาให้บริการเช่ารถยนต์จำนวนมากแก่สถาบันการเงินรายใหญ่แห่งหนึ่ง สินทรัพย์ให้เช่าของบริษัทยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีก 9.1% ในช่วงครึ่งแรกของปีบัญชี 2547 โดยมียอดเท่ากับ 3,419 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2547 ความสามารถในการให้เช่ารถยนต์ได้ในจำนวนมากทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้าออกไปนอกกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทำให้บริษัทลดการพึ่งพากลุ่มดังกล่าวลง ในปัจจุบันบริษัทให้บริการลูกค้าด้วยจำนวนรถยนต์มากกว่า 6,000 คัน เนื่องจากลูกค้าหลักของบริษัทเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของลูกค้า ทั้งนี้ สินทรัพย์ให้เช่าแก่ลูกค้ารายใหญ่ 20 รายแรกมีมูลค่ามากกว่า 60% ของสินทรัพย์ให้เช่ารวมของบริษัท อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงดังกล่าวถูกลดทอนลงจากการที่ลูกค้ารายใหญ่ส่วนใหญ่มีสถานะการเงินที่น่าเชื่อถือและบริษัทมีแนวโน้มที่จะรักษาความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้ากลุ่มดังกล่าวเอาไว้ได้ ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2546 บริษัทไม่มีลูกหนี้ค่าเช่าที่ค้างชำระเกิน 3 เดือนเลย นอกจากนี้ สินทรัพย์ให้เช่าของบริษัทซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ที่สามารถขายได้ในตลาดรองก็ช่วยให้บริษัทมีความยืดหยุ่นทางการเงิน
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัทภัทรลิสซิ่ง มีผลกำไรติดต่อกันเป็นปีที่ 5 ในปีบัญชี 2546 โดยในปี 2546 มียอดกำไรสูงสุดนับตั้งแต่ดำเนินธุรกิจมา บริษัทมีอัตราผลตอบแทนจากการให้เช่าลดลงอันเนื่องมาจากการแข่งขันที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ประโยชน์จากต้นทุนทางการเงินที่ลดลงอย่างต่อเนื่องและจากการประหยัดจากขนาด บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มสูงขึ้นเป็น 14.3% ในปีบัญชี 2546 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 12.2% ในปีบัญชี 2544 บริษัทยังคงมีอัตราการขยายตัวของรายได้และผลกำไรที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปีบัญชี 2547 โดยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนแล้ว บริษัทมีอัตราการขยายตัวของรายได้และกำไรสุทธิสูงถึง 49.4% และ 74.7% ตามลำดับ
นอกจากนี้ บริษัทยังมีเงินทุนจากการดำเนินงานที่สูงขึ้นเพื่อรองรับภาระดอกเบี้ยที่สูงขึ้น อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทเพิ่มขึ้นโดยอยู่ในระดับสูงที่ 9.7 เท่าในปีบัญชี 2546 เทียบกับ 9 เท่าในปีบัญชี 2545 แม้จะมีผลกำไรและเงินทุนจากการดำเนินงานที่สูงขึ้นในแต่ละปีก็ตาม แต่บริษัทยังคงต้องกู้ยืมเงินเพื่อนำมาใช้ในการขยายสินทรัพย์เพิ่มเติม ส่งผลให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นจาก 63.7% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2545 มาอยู่ที่ 74.8% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2547 ทั้งนี้ คาดว่าสัดส่วนของเงินกู้ยืมจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป ทว่ายังอยู่ในระดับที่ไม่แตกต่างจากคู่แข่ง บริษัทมีอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมลดลงจาก 42.4% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2545 มาอยู่ที่ 29.4% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2546 อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความยืดหยุ่นทางการเงินที่เพียงพอเนื่องจากบริษัทมีสินทรัพย์ให้เช่าที่สามารถขายในตลาดรองได้ นอกจากนี้ บริษัทยังได้วงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินอีกหลายแห่ง โดยคาดว่าบริษัทจะยังคงมีการขยายฐานสินทรัพย์ต่อไป ทั้งนี้ ภายใต้ภาวะการขยายตัวของเศรษฐกิจและความต้องการเช่าดำเนินงานที่เพิ่มมากขึ้น ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทอาจลดลงเช่นเดียวกับผู้ประกอบการรายอื่นจากการแข่งขันที่รุนแรง ซึ่งอาจส่งผลให้บริษัทมีอัตราผลตอบแทนจากการให้เช่าลดลงในขณะที่ความเสี่ยงจากมูลค่าซากอาจเพิ่มสูงขึ้น ทริสเรทติ้งกล่าว--จบ--
-นท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ