กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น
อสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังหืดจับ เหตุผู้ประกอบการกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนผู้รับเหมา-แรงงานก่อสร้าง รวมทั้งชะลอการลงทุนโครงการใหม่เพื่อรอดูความชัดเจนของแผนผังเมืองกรุงเทพมหานครฉบับใหม่ ขณะที่ผู้บริโภคหวั่นค่าครองชีพสูง เลื่อนการตัดสินใจซื้อบ้าน-รถยนต์ ด้าน “ธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ฯ” เตรียมความพร้อมเพิ่มความระมัดระวังในการเปิดโครงการใหม่มากยิ่งขึ้น เน้นกลยุทธ์เลือกทำเล-ออกแบบโครงการที่ตรงกับความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าเช่นเดียวกับโครงการ SYM Condo วิภาวดี-ลาดพร้าว
นายดลพิวัฒน์ ปรีดาวิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศในช่วงที่เหลือของปีนี้ ว่า ยังคงมีความกังวลในหลายด้านจากปัจจัยสภาวะเศรษฐกิจยุโรปที่ยังคงอ่อนไหว ขณะที่ในประเทศไทยเองไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่จากภาครัฐเข้ามาสนับสนุน สำหรับมาตรการที่เคยประกาศออกมาในหลายๆ มาตรการยังคงรอความชัดเจน อาทิ มาตรการขยายเพดานวงเงินกู้ซื้อบ้านหลังแรกจาก 1 ล้านบาท เป็น 2 ล้านบาท ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับการประกาศใช้ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับใหม่ ซึ่งนับได้ว่ามีผลกระทบโดยตรงกับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นภาคอุตสาหกรรมที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ
ดังนั้น ส่วนตัวมีความเห็นว่าภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่เหลืองของปีนี้ ค่อนข้างจะซบเซาลง ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการเองและผู้บริโภค โดยจะสังเกตเห็นขณะนี้ผู้ประกอบการรายเล็กและกลาง เริ่มชะลอการลงทุนสำหรับโครงการใหม่บ้างแล้ว เพื่อรอให้แผนผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับใหม่ ประกอบกับภาคการก่อสร้างเองยังพบปัญหาขาดแคลนผู้รับเหมาและแรงงาน
“ภาพรวมครึ่งปีหลัง ภาคอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างจะเหนื่อย โดยมองว่าในช่วงสิ้นปีนี้จะไม่มีสินค้าให้ขาย เพราะตอนนี้ผู้ประกอบการเริ่มชะลอการลงทุนในโครงการใหม่แล้ว เพื่อรอดูความชัดเจนของการประกาศใช้ผังเมืองใหม่ นอกจากนี้ยังมีความกังวลความขัดแย้งทางการเมืองที่มีแนวโน้นเกิดความรุนแรงได้ทุกเมื่อซึ่งจำเป็นต้องติดตามสถนการณ์อย่างใกล้ชิด” นายดลพิวัฒน์กล่าว
นายดลพิวัฒน์ กล่าวว่า สินค้าใหม่ที่เตรียมจะเปิดขายมากในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเป็นโครงการแนบราบมากกว่า และโดยส่วนมากจะเป็นโครงการที่ลงทุนต่อเนื่องช่วงที่ผ่านมา และเชื่อว่าจะเป็นสินค้าที่ปรับขึ้นราคาแล้วตามราคาต้นทุนก่อสร้างที่สูงขึ้นในช่วงนี้ ทั้งจากราคาวัสดุก่อสร้าง และค่าแรงงาน สำหรับแนวสูงหรือกลุ่มคอนโดมิเนียมจะเห็นลง
สำหรับภาคผู้บริโภคเชื่อว่าจะมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากไม่มีมาตรการใหม่จากภาครัฐเข้ามากระตุ้นการใช้จ่าย ประกอบกับแนวโน้มที่ค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยกลุ่มสินค้าที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบและผู้บริโภคจะชะลอการซื้อทันที คือ กลุ่มสินค้าขนาดใหญ่ทั้งกลุ่มที่อยู่อาศัย บ้าน และคอนโด และรถยนต์ รวมถึงสินค้าสิ้นเปลือง อาทิ สินค้าไอที และแฟชั่น เช่น โทรศัพท์มือถือ และอื่นๆ เพื่อสำรองเงินไว้ใช้ในเรื่องจำเป็น
อย่างไรก็ดี นายดลพิวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับธนาพัฒน์ฯ ได้ติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด โดยได้ใช้ความระมัดระวังในการเปิดโครงการใหม่มากยิ่งขึ้น ซึ่งธนาพัฒน์ฯ จะเน้นพัฒนาโครงการที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง ทั้งการเลือกทำเล การออกแบบโครงการ เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์มากกว่าการอยู่อาศัยอย่างเช่นเดียวกันกับโครงการ SYM. Condo วิภาวดี-ลาดพร้าว ที่นับว่าเป็นโครงการที่ดีมากอีกหนึ่งโครงการของธนาพัฒน์ฯ ที่การตอบรับจากลูกค้าที่ดีมาก