กรุงเทพฯ--19 มิ.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในเดือนพฤษภาคม 2555 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิต่ำกว่าเป้าหมายเป็นเดือนแรกจำนวน 36,671 ล้านบาท เป็นผลจากเหตุการณ์อุทกภัยช่วงปลายปี 2554 ทำให้การชำระภาษีจากกำไรสุทธิรอบสิ้นปีบัญชี 2554 ต่ำกว่าประมาณการ อย่างไรก็ดีในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2555 รัฐบาลยังสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
1. เดือนพฤษภาคม 2555 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 344,449 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 36,671 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.6 สาเหตุสำคัญมาจากภาษีเงินได้นิติบุคคล (รวมการชำระภาษีจากกำไรสุทธิ (ภ.ง.ด.๕๐) ที่กรมสรรพากรได้ขยายเวลากรณีการยื่นแบบและชำระภาษีผ่านอินเทอร์เน็ตออกไปอีก 8 วัน) จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 26,461 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.1 (ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 10.5) เป็นผลจากเหตุการณ์อุทกภัยช่วงปลายปี 2554 ได้ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจของนิติบุคคล นอกจากนี้ รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้ต่ำกว่าประมาณการ 10,917 ล้านบาท เนื่องจาก บมจ.ปตท. ได้นำส่งเงินปันผลประจำปี 2554 ไปแล้วเมื่อเดือนเมษายน 2555 (ตามประมาณการจะนำส่งในเดือนพฤษภาคม 2555)
อย่างไรก็ดี อากรขาเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการจำนวน 3,277 และ 3,016 ล้านบาท หรือร้อยละ 42.0 และ 5.7 ตามลำดับ สาเหตุสำคัญมาจากการขยายตัวในอัตราที่สูงของการนำเข้า โดยเฉพาะสินค้าในหมวดรถยนต์และส่วนประกอบรถยนต์ และภาษีรถยนต์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 1,980 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.5
2. ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2555 (ตุลาคม 2554— พฤษภาคม 2555) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1,296,165 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 1,910 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.1 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 1.5) จากการนำเข้าที่ขยายตัวส่งผลให้การจัดเก็บอากรขาเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มสูงกว่าประมาณการ อย่างไรก็ดีผลกระทบจากอุทกภัยช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้ส่งผลให้การชำระภาษีจากกำไรสุทธิของนิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) และการขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซล ทำให้การจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีรถยนต์ และภาษีน้ำมันต่ำกว่าประมาณการ
ผลการจัดเก็บรายได้ตามหน่วยงานจัดเก็บสรุปได้ ดังนี้
2.1 กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 1,025,259 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 2,319 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.2 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.2) โดยภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 20,810 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.3 เนื่องจากการชำระภาษีจากกำไรสุทธิรอบสิ้นปีบัญชี 2554 ต่ำกว่าประมาณการ ทั้งนี้ เป็นผลจากเหตุการณ์น้ำท่วมช่วงปลายปี 2554
อย่างไรก็ดีภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่มสูงกว่าเป้าหมาย 11,713 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.9 โดยเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าซึ่งสูงกว่าประมาณการ 14,122 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.4 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 23.0) รองลงมาได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 6,345 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.6
2.2 กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 242,783 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 16,383 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.3 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 16.8) ภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีน้ำมันและภาษีรถยนต์จำนวน 15,860 และ 6,767 ล้านบาท ตามลำดับ เนื่องจากการขยายเวลาการลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลเหลือลิตรละ 0.005 บาท และอุตสาหกรรมรถยนต์ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยช่วงต้นปีงบประมาณ 2555 อย่างไรก็ดี ภาษียาสูบและเบียร์ จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 3,014 และ 2,362 ล้านบาท ตามลำดับ
2.3 กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 79,496 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 10,146 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.6 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 19.7) เนื่องจากจัดเก็บอากรขาเข้าได้สูงกว่าประมาณการ 10,049 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.8 เป็นผลจากมูลค่าการนำเข้าสินค้าในหมวดรถยนต์และส่วนประกอบรถยนต์ขยายตัวในระดับที่สูง ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินบาทโดยเฉลี่ยในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2555 (ตุลาคม 2554 — เมษายน 2555) ขยายตัวสูงกว่าปีที่แล้วร้อยละ 10.9 และ 13.2 ตามลำดับ และสินค้าที่จัดเก็บอากรขาเข้าได้สูงเป็น 3 อันดับแรก ได้แก่ รถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ เครื่องจักรกล และเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ
2.4 รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้ 82,143 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 747 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.9 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.6) โดยรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ บมจ.ทีโอที และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนำส่งรายได้ต่ำกว่าประมาณการ 2,780 และ 2,764 ล้านบาท ตามลำดับ นอกจากนี้ บมจ.การบินไทย และกองทุนวายุภักษ์ไม่นำส่งรายได้จำนวน 1,740 และ 900 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สูงกว่าประมาณการ ได้แก่ บมจ.ปตท. บมจ.กสท โทรคมนาคม การท่าเรือแห่งประเทศไทย และโรงงานยาสูบ
2.5 หน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้รวม 75,859 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 1,783 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.4 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.1) เนื่องจากกรมศุลกากรได้ส่งคืนเงินที่กันไว้เพื่อชดเชยค่าภาษีอากรสำหรับผู้ส่งออกสินค้าเหลือจ่ายจำนวน 4,655 ล้านบาท และกรมสรรพสามิตได้นำส่งเงินค่าใช้จ่ายเก็บภาษีท้องถิ่นคืนเป็นรายได้แผ่นดินจำนวน 2,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี การจัดเก็บรายได้จากสัมปทานปิโตรเลียมต่ำกว่าประมาณการ 1,093 ล้านบาท สาเหตุมาจากปริมาณปิโตรเลียมที่ขุดเจาะได้ลดลง ส่งผลให้ปริมาณการขายปิโตรเลียมในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2555 (ตุลาคม 2554 — เมษายน 2555) ลดลงเฉลี่ยร้อยละ 10.4 นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติได้เลื่อนการนำส่งค่าใบอนุญาตกิจการโทรคมนาคม (จากที่ประมาณการจะนำส่งในเดือนมกราคม 2555 จำนวน 2,000 ล้านบาท)
2.6 การคืนภาษีของกรมสรรพากร จำนวน 163,940 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 10,696 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.1 ประกอบด้วยการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 132,450 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 6,050 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.4 และการคืนภาษีอื่นๆ (ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์) จำนวน 31,490 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 4,646 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.9
2.7 การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ ในปีงบประมาณ 2555 ได้มีการจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ อปท. แล้ว 4 งวด เป็นเงินจำนวน 28,156 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,706 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.4
3. คาดการณ์รายได้รัฐบาลสุทธิตลอดปีงบประมาณ 2555
นายสมชัยฯ สรุปว่า “ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2555 แม้ว่าการจัดเก็บรายได้รัฐบาลจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมและนโยบายการขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซล แต่ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลยังคงใกล้เคียงกับประมาณการที่ตั้งไว้ แต่อย่างไรก็ดีจากการดำเนินนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลได้ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำเข้าที่เร่งตัวขึ้นในอัตราที่สูง รวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ที่กลับสู่ภาวะปกติ จะเป็นปัจจัยบวกต่อการจัดเก็บรายได้ ทำให้กระทรวงการคลังมั่นใจว่าการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2555 นี้ จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.98 ล้านล้านบาท”
สำนักนโยบายการคลัง
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร. 02 273 9020 ต่อ 3500 และ 3562