กรุงเทพฯ--20 มิ.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.แสนสิริ ปลื้มโรดโชว์ประเทศสิงคโปร์ผลตอบรับดีเกินคาด พบนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจเข้าฟังข้อมูลเปิดกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ปูพรมเปิดตัวโครงการต่างๆ กว่า 21 กองทุน พร้อมเตรียมเชิญกองทุนในประเทศเข้าเยี่ยมชมโรงงานพรีคาสท์และโครงการต่างจังหวัดในดือนมิ.ย. ย้ำผลการดำเนินงานจะเป็นไปตามเป้าหมาย-โชว์ได้รับการคัดเลือกเป็น SET High Dividend Index 30 สะท้อนการจ่ายปันผลที่ดีอย่างต่อเนื่อง
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า จากการที่แสนสิริได้เดินทางไปประเทศสิงคโปร์ เพื่อนำเสนอข้อมูลของบริษัทฯ (โรดโชว์) ให้กับนักลงทุนต่างประเทศที่สนใจ ในงาน Nomura Asia Equity Forum ซึ่งจัดโดยบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฎว่ามีนักลงทุนให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังข้อมูลเป็นจำนวนมากถึง 21 กองทุน โดยบริษัทฯ ได้นำเสนอข้อมูลที่เน้นย้ำถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ รวมถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ต่างๆ พร้อมให้ความมั่นใจกับนักลงทุนถึงยอดขายปีนี้ว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้
ทั้งนี้นักลงทุนต่างให้ความสนใจในข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทฯ เป็นจำนวนมาก หลังจากการร่วมรับฟังข้อมูล ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทฯ มีการปรับตัวที่ดีสูงขึ้นรวมทั้งได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างๆ เพิ่มขึ้นอีก นอกจากนี้ผลจากการโรดโชว์ในปีที่ผ่านมาบริษัทยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทฯ มากขึ้น โดยปัจจุบันมีสัดส่วนนักลงทุนต่างประเทศที่เข้าถือหุ้นบริษัทฯ อยู่ที่ 24 % จากสัดส่วนที่นักลงทุนต่างชาติจะสามารถถือหุ้นได้ 39 %
ประธานผู้บริหารฝ่ายปฎิบัติการกล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันการให้ข้อมูลกับนักลงทุนสถาบันในประเทศบริษัทก็ยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมิถุนายนนี้ บริษัทฯจะมีการนำเสนอข้อมูลกับนักลงทุนสถาบันในประเทศ โดยได้ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์เอสซีบีเอส ในการนำนักลงทุนเข้าเยี่ยมชมโรงงานพรีคาสท์แห่งแรกของแสนสิริ และได้ร่วมกับ บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี จำกัด ในการนำนักลงทุนเข้าเยี่ยมชมโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ของแสนสิริที่หัวหินอีกด้วย โดยคาดว่าหลังจากการเยี่ยมชมจะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกัน
”ในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนต่างหันมาให้ความสนใจหุ้น SIRI จากราคาหุ้นซึ่งยังเทรดที่ PE ค่อนข้างต่ำ รวมทั้งจากคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2555 ที่คาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 36,000 ล้านบาท อันจะส่งผลถึงยอดขายรอรับรู้รายได้ในปี 2556 และ 2557 ซึ่งจะเพิ่มขึ้นอีกเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยบริษัทคาดการณ์รายได้ในปี 2555 ไว้ที่ 28,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตที่ระดับ 40% ส่วนในปี 2556 บริษัทได้คาดการณ์อัตราการเติบโตอีกราว 30%” นายวันจักร์ กล่าว
นอกจากนี้ ล่าสุดบริษัทฯ ยังได้รับการคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์ ให้เข้าอยู่ในการคำนวณ SET High Dividend Index 30 โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือน กรกฎาคม — ธันวาคม 2555 นี้ ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า บริษัทฯ มีการจ่ายเงินปันผลให้แก่นักลงทุนที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยผลักดันให้หุ้นของบริษัทมีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มมากขึ้นอีก