นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าโครงการเชียงใหม่ ไนท์ ซาฟารี

ข่าวทั่วไป Monday June 28, 2004 12:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 มิ.ย.--กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สืบเนื่องจากระหว่างวันที่ 28-30 มิถนายน 2547 มีการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรในจังหวัดภาคเหนือ คือ จ.เชียงใหม่ และจ.ลำพูน ซึ่งในการประชุมดังกล่าว ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้มีกำหนดการที่จะตรวจเยี่ยมโครงการเชียงใหม่ ไนท์ ซาฟารี เพื่อรับทราบความก้าวหน้าของการดำเนินโครงการ โดยมีปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้รายงานความก้าวหน้าโครงการเชียงใหม่ ไนท์ ซาฟารีนี้เกิดขึ้นจากดำริของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เมื่อปี พ.ศ.2545
ที่เห็นว่าจังหวัดเชียงใหม่มีศักยภาพที่เหมาะสมที่สุดในการสร้างสวนสัตว์กลางคืน ซึ่งจะทำให้เชียงใหม่กลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของประเทศไทยซึ่งขณะนี้การดำเนินโครงการอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยได้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อบริหารโครงการ คือ คณะกรรมการเพื่อศึกษาวางแผนและดำเนินการเกี่ยวกับการจัดตั้งสวนสัตว์กลางคืนจังหวัดเชียงใหม่ และกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว (สสค.) ซึ่งมีปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธาน รวมทั้งยังมีการตั้งคณะกรรมการด้านธุรกิจและการท่องเที่ยว และคณะกรรมการด้านประชาสัมพันธ์ โดยมีผู้ว่าราชการและรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานร่วมบริหารโครงการด้วย
นอกจากนี้ยังมีการตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อดูแลงานใน 2 เรื่อง คือ คณะอนุกรรมการด้านสัตว์ป่า ซึ่งมีผอ.องค์การสวนสัตว์เป็นประธาน และคณะอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินงานที่มีนายอภิรักษ์ เศรษฐรักษ์ รองปลัดกระทรวงเป็นประธานโดยโครงการเชียงใหม่ ไนท์ ซาฟารีได้มีการวางแผนแบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็น 5 ส่วน คือ หมู่บ้านล้านนา ที่ใช้เป็นส่วนบริการนักท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้ได้มีการปรับระดับที่ดินแล้ว และเริ่มต้นการก่อสร้างอาคารระเบียงชมวิวในบางส่วนแล้ว ส่วนที่สองคือ Jaguar Trial ซึ่งเป็นส่วนแสดงสัตว์ขนาดเล็ก ได้มีการถมดินสร้างเส้นทาง และเกาะเทียมจำนวน 4 เกาะ ส่วนที่สาม Predator Prowl หรือส่วนแสดงสัตว์ล่าเนื้อ และส่วนที่สี่ Savanna Safari คือ ส่วนแสดงสัตว์กีบหรือกินพืช ได้มีการตัดถนนลำลองในบริเวณดังกล่าวแล้ว ขณะที่ส่วนที่ 5 Service Area ที่ใช้เป็นส่วนบริการสัตว์ป่านั้นได้มีการวางผังอาคาร ก่อสร้างฐานรากต่างๆ เพื่อใช้เป็นโรงพยาบาลสัตว์ ที่เตรียมอาหารสัตว์ ซึ่งแล้วเสร็จไปประมาณ 80% ส่วนความก้าวหน้าของโครงการในส่วนอื่นๆ นั้น ได้มีการขุดบ่อบาดาลสำหรับใช้ในโครงการแล้วเสร็จทั้ง 6 บ่อ
รวมทั้งมีการก่อสร้างคอกกันสัตว์ คือ บองโก ชีต้า นกกระจอกเทศ ไฮยีนาลายจุด แล้วเสร็จเช่นกัน ส่วนการก่อสร้างรั้วรอบโครงการและสระเก็บน้ำ 4 แห่งนั้นคืบหน้าไปร่วม 80% นอกจากนี้ยังมีงานก่อสร้างอื่นๆ คือ ถนนทางเข้า ลานจอดรถ อ่างเก็บน้ำระบบส่งน้ำ ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดเป็นการก่อสร้างด้วยระบบ Fast Track คือ การออกแบบทำ shop drawing และการก่อสร้างควบคู่กันไป โดยได้มอบหมายให้กรมการทหารช่าง กองทัพบกเป็นผู้ดำเนินการ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2547 และสามารถเปิดให้บริการได้ในเดือนเมษายน 2548ซึ่งเมื่อโครงการเชียงใหม่ ไนท์ ซาฟารี แล้วเสร็จสามารถเปิดบริการได้ในอนาคต จะมีการส่งต่อการดำเนินงานให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นองค์กรมหาชนภายใต้พระราชกฤษฎีกาประกาศพื้นที่พิเศษมาบริหารจัดการ ซึ่งการประกาศในลักษณะพื้นที่พิเศษนี้มีขึ้นเป็นแห่งแรกที่เกาะช้าง ส่วนสวนสัตว์กลางคืนจังหวัดเชียงใหม่นี้จะเป็นแห่งที่สอง โดยการบริหารจะไม่พึ่งพางบประมาณรัฐ ซึ่งจากการคาดการณ์เป้าหมายทางการตลาดคาดว่า ภายหลังการเปิดบริการจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 940,000 — 1,173,000 คนต่อปี สามารถสร้างรายได้ประมาณ 250-300 ล้านบาทต่อปี โดยมีอัตราการเติบโตปีละ 3% และมีระยะเวลาคืนทุนภายใน 8 ปี และอนาคตจะมีการขยายโครงการในส่วนของ Elephant Park และ Aquarium น้ำจืด เพิ่มเติมอีกด้วยสำหรับการตรวจเยี่ยมพื้นที่โครงการของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีและคณะในวันที่ 28 มิถุนายนนนี้ จะได้มีการลงตรวจพื้นที่ก่อสร้างบริเวณ Savanna Safari เพื่อชมพื้นที่แสดงช้าง เสือชีต้า กลุ่มอาคารบริการสัตว์ป่า
นอกจากนี้จะมีการชมโมเดลของหมู่บ้านล้านนา รวมทั้งชมพื้นที่แสดงสัตว์บริเวณรอบสระเก็บน้ำห้วยไร่อีกด้วย
กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
49 พระราม 6 ซอย 30 ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ 10400 http://www.deqp.go.th.
โทรศัพท์/โทรสาร: 0-2298-5852-3--จบ--
-นท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ