กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอแถลงสถานะ หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนเมษายน 2555 ดังนี้
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 เมษายน 2555 มีจำนวน 4,614,626.02 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 42.40 ของ GDP โดยเป็นหนี้ของรัฐบาล 3,412,700.63 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,036,256.20 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 158,589.19 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 7,080 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสุทธิ 141,573.69 ล้านบาท โดยหนี้ของรัฐบาล หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ เพิ่มขึ้น 144,300.82 ล้านบาท 328.48 ล้านบาท และ 900 ล้านบาท ตามลำดับ ในขณะที่หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) ลดลง 3,955.61 ล้านบาท ส่วนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ นั้นไม่มีหนี้คงค้าง ทั้งนี้ รายละเอียดและสัดส่วนของหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนเมษายน 2555
1. หนี้ของรัฐบาล
1.1 หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้นสุทธิ 145,734.99 ล้านบาท เนื่องจาก
1.1.1 หนี้ต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 3,321.01 ล้านบาท โดยผลจากการเปลี่ยนแปลงของ อัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นสุทธิ 708.17 ล้านบาท และการชำระคืนสกุลเงินเยน และการเบิกจ่ายสกุลเงินเหรียญสหรัฐทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นสุทธิ 2,612.84 ล้านบาท
1.1.2 หนี้ในประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 142,413.97 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจากการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 80,598.23 ล้านบาท และการออกตั๋วเงินคลัง 60,000 ล้านบาท
1.2 หนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 1,434.16 ล้านบาท เนื่องจากการไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่สอง (FIDF 3) ก่อนกำหนดโดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จำนวน 1,434.16 ล้านบาท
1.3 หนี้เงินกู้ล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า
2. หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน
2.1 หนี้ในประเทศ
2.1.1 หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 95.09 ล้านบาท โดยเกิดจาก
- การทางพิเศษแห่งประเทศไทยไถ่ถอนพันธบัตร 2,000 ล้านบาท และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพออกพันธบัตร 1,850 ล้านบาท
- รัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลค้ำประกันมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ มากกว่าการชำระคืน ต้นเงินกู้ 245.09 ล้านบาท
2.1.2 หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง 1,100.93 ล้านบาท โดยเกิดจาก
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไถ่ถอนพันธบัตร 93 ล้านบาท
- รัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ น้อยกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ 1007.93 ล้านบาท
2.2 หนี้ต่างประเทศ
2.2.1 หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 2,536.98 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นสุทธิ 3,070.19 ล้านบาท และ การเบิกจ่ายน้อยกว่าชำระคืนหนี้สกุลเงินเยนและการชำระคืนสกุลเงินเหรียญสหรัฐทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 533.21 ล้านบาท
2.2.2 หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 1,202.66 ล้านบาท โดยผลจาก การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลงสุทธิ 392.48 ล้านบาท และการชำระคืนหนี้สกุลเงินยูโรและสกุลเงินเยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลงสุทธิ 810.18 ล้านบาท
3. หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน)
3.1 หนี้ในประเทศ
หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง 4,000 ล้านบาท โดยเกิดจาก
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์ไถ่ถอนพันธบัตร 1,000 ล้านบาท
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรมีการชำระคืนแหล่งเงินกู้ต่างๆ 3,000 ล้านบาท
3.2 หนี้ต่างประเทศ
หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 44.39 ล้านบาท โดยผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นสุทธิ 44.39 ล้านบาท
4. หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 900 ล้านบาท เนื่องจากการกู้เงินระยะสั้นในประเทศของสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน
หนี้สาธารณะ จำนวน 4,614,626.02 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 327,155.51 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.09 และหนี้ในประเทศ 4,287,470.51 ล้านบาท หรือร้อยละ 92.91 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้างและเป็นหนี้ระยะยาว 4,431,147.02 ล้านบาท หรือร้อยละ 96.02 และหนี้ระยะสั้น 183,478.84 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.98 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
ส่วนวิจัยนโยบายหนี้สาธารณะ สำนักนโยบายและแผน สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5512