คณะกรรมการบริษัท "กรุงเทพ" และ "สมิติเวช" อนุมัติแผนรวมธุรกิจ มุ่งเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน มั่นใจก้าวสู่ความเป็นหนึ่งในภูมิภาค

ข่าวทั่วไป Monday June 28, 2004 15:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 มิ.ย.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์
คณะกรรมการ บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH) ผู้บริหารโรงพยาบาลกรุงเทพและโรงพยาบาลในเครือทั่วประเทศ และ บมจ. สมิติเวช (SVH) ผู้บริหารโรงพยาบาลสมิติเวช มีมติเห็นชอบแผนการรวมธุรกิจ เพื่อสร้างเครือข่ายบริการทางการแพทย์ที่มีความแข็งแกร่ง และเร่งเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางบริการทางการแพทย์ของเอเชีย
คณะกรรมการบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) และคณะกรรมการ บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) ต่างมีมติเห็นชอบกับแผนการรวมธุรกิจระหว่างบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) รวมทั้ง บริษัท โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตจำกัด และ บริษัทโรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ จำกัด โดยมีบริษัท ทรีนีตี้ แอ๊ดไวซอรี่ 2001 จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
หลังจากนั้นคณะกรรมการบริษัทฯทั้งสองจะนำมติดังกล่าวเสนอเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นของแต่ละบริษัท เพื่อพิจารณาอนุมัติให้ดำเนินการขั้นต่อไป โดยให้บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ทำคำเสนอซื้อหุ้นต่อผู้ถือหุ้นของบริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) โดยการนำหุ้นมาแลกกับหุ้นใหม่เพิ่มทุนของบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) โดยคาดว่าจะสามารถเรียกประชุมผู้ถือหุ้นได้ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้
อย่างไรก็ตาม หลังการรวมธุรกิจแล้ว บริษัททั้งสองยังคงใช้แบรนด์โรงพยาบาล "กรุงเทพ" และ"สมิติเวช" ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน และเป็นที่ยอมรับของตลาดทั้งในและต่างประเทศไว้ โดยยังคงสถานะเป็นนิติบุคคลเพื่อดำเนินกิจการกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนของตนเองต่อไปเช่นเดิมนายแพทย์พงษ์ศักดิ์ วิทยากร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า "การดำเนินการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และสร้างความแข็งแกร่งในการให้บริการทางการแพทย์ เนื่องจากการรวมธุรกิจจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในด้านการให้บริการจากการใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่าและมีความสามารถในการลงทุนเพิ่มเติมมากขึ้น ในด้านการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพราะจะสามารถลดต้นทุนที่ซ้ำซ้อน นอกจากนี้ จะมีความชัดเจนในการบริหารมากขึ้น โดยจะมีการกำหนดนโยบายจากส่วนกลางซึ่งจะทำให้ทุกโรงพยาบาลในเครือพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งยังจะทำให้เราเป็นกลุ่มโรงพยาบาลที่มีขนาดใหญ่และมีความแข็งแกร่งทางการเงินเป็นอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น ในส่วนของลูกค้าและผู้ใช้บริการ ก็จะได้รับประโยชน์จากการบริการที่ดีขึ้น และครอบคลุมมากยิ่งขึ้นด้วย" นายจอห์น ลี โค โซ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ธุรกิจบริการทางการแพทย์และสุขภาพ เป็นตลาดที่มีศักยภาพและโอกาสที่จะเติบโตอีกมากการรวมธุรกิจจะช่วยให้เราเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความพร้อมที่จะก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้ให้บริการทางการแพทย์ชั้นนำของเอเชียได้อย่างแน่นอน อันเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพและการแพทย์ของเอเชียได้เป็นอย่างดี"การรวมธุรกิจดังกล่าว จะทำให้บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เป็นเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนที่มีความแข็งแกร่งที่สุด ทั้งในด้านสินทรัพย์ซึ่งจะมีมูลค่ารวมกว่า 13,000 ล้านบาทจำนวนโรงพยาบาลเอกชนในเครือซึ่งมีมากที่สุดถึง 13 แห่งทั่วประเทศ ความสามารถในการรองรับผู้ป่วยกว่า 3,000 เตียง และมีศักยภาพสูงขึ้นในการพัฒนาเทคโนโลยีและบริการทางการแพทย์ใหม่ๆ
อย่างต่อเนื่องและครบวงจรมากยิ่งขึ้น อันจะทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีมาตรฐานสากลได้ทั่วถึง และครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางมากขึ้นปัจจุบัน บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (BGH) เป็นผู้ถือหุ้นประมาณร้อยละ 37 ใน บมจ. สมิติเวช(SVH) ประมาณร้อยละ 49 ในบริษัท โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต จำกัด (BPK) และประมาณร้อยละ 68 ในบริษัท โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ จำกัด (BHH) นายแพทย์พงษ์ศักดิ์กล่าวเสริมว่า "การรวมธุรกิจครั้งนี้ จะเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดและธุรกิจของเราทั้งในด้านภูมิศาสตร์และด้านประชากรศาสตร์ ซึ่งจะทำให้เรามีความพร้อมและมีความคล่องตัวที่จะสร้างโอกาสทางธุรกิจในอนาคต เพื่อประโยชน์แก่ลูกค้า ผู้ถือหุ้น และโรงพยาบาลในเครือข่ายทั้งหมดของเรา และผลักดันให้เราเป็นเครือข่ายผู้ให้บริการทางการแพทย์ที่มีศักยภาพชั้นแนวหน้าในภูมิภาคเอเชีย"
นางขนิษฐา สรรพอาษา กรรมการอำนวยการ บริษัท ทรีนิตี้ แอ็ดไวซอรี่ 2001 จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินกล่าวเพิ่มเติมว่า "การปรับโครงสร้างของกลุ่มบริษัทฯ ในครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อสภาพคล่องของหุ้นของบริษัทฯ ด้วย เนื่องจากการรวมธุรกิจในครั้งนี้ จะมีจำนวนหุ้นและผู้ถือหุ้นเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังมีแนวโน้มว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนกลุ่มต่างๆ เพิ่มขึ้น ทั้งในกลุ่มของนักลงทุนสถาบันและรายย่อย"
บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินกิจการโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในนาม"โรงพยาบาลกรุงเทพ" มาตั้งแต่ พ.ศ. 2515 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการทางการแพทย์ที่ครบวงจรแก่ลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โรงพยาบาลกรุงเทพได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001:2000 และการรับรองมาตรฐานโรงพยาบาล (HA: Hospital Accreditation) จากสถาบันพัฒนาและรับรองมาตรฐาน โรงพยาบาล (พรพ.) กระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนมาตรฐาน ISO 14001ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม และมาตรฐาน มอก. 18001/OHSAS18001 ระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มีการลงทุนในธุรกิจด้านการรักษาพยาบาลและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ 13 แห่ง และธุรกิจอื่นๆ ทั่วประเทศ โรงพยาบาล ยังได้รับการคัดเลือกจากแพทยสภาให้เป็นสถาบันหลักในการศึกษาต่อเนื่องของแพทย์ (CME: Continuing MedicalEducation)
บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจให้บริการด้านการรักษาพยาบาล เป็นโรงพยาบาลเอกชน ให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปมาตั้งแต่ พ.ศ. 2522 ภายใต้ชื่อ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิทและโรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ มีคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญครบทุกสาขา พร้อมทั้งอุปกรณ์การแพทย์และการวินิจฉัยโรคที่ทันสมัยครบวงจร เปิดให้บริการทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในตลอด 24 ชั่วโมง โรงพยาบาลสมิติเวช ได้รับการรับรองระบบคุณภาพมาตรฐานโรงพยาบาล (HA: Hospital Accreditation) จาก พรพ.กระทรวงสาธารณสุข นอกจากนี้ ยังได้รับการคัดเลือกจากแพทยสภาให้เป็นสถาบันหลักในการศึกษาต่อเนื่องของแพทย์ (CME: Continuing Medical Education) อีกด้วย
แถลงข่าวในนาม : บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)/บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน)
รายละเอียดเพิ่มเติม : โกวิท สว่างวารีสกุล (kovit.savangvareesakul@ogilvy.com)
รื่นฤดี ทวีผล (ruanrudee.taweepol@ogilvy.com)
บริษัท โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์ จำกัด
โทร. 0 2632 8300-7--จบ--
-นท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ