กรุงเทพฯ--17 ก.พ.--คิธแอนด์คินฯ
เร็นโทคิล ย้ำจุดยืนที่ 1 ตลาดบริการสุขอนามัย ประกาศปรับโฉมผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Calmic เปลี่ยนเป็น “elite” (อีลิท) หวังเจาะกลุ่มธุรกิจโรงแรมและอสังหาฯที่คาดว่าปีนี้โตแน่ เน้นบริการหลังการขาย หลัง ปี ’47 ประสบความสำเร็จครองส่วนแบ่งตลาด 35 เปอร์เซ็นต์
นายทัศนพงษ์ พิทักษ์เสรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เร็นโทคิล อินนิเชียล (ประเทศไทย) จำกัด(Rentokil Initial) เปิดเผยว่า ปัจจุบันการแข่งขันในธุรกิจบริการสุขอนามัยในห้องน้ำ มีการแข่งขันรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจและดูแลสุขภาพกันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความสะอาดในห้องน้ำ รวมได้ถึงพื้นผิวของสุขภัณฑ์ต่างๆในห้องน้ำด้วยเช่นกัน จึงทำให้ตลาดบริการสุขอนามัยในห้องน้ำ ในปีที่ 2547 ผ่านมา มีมูลค่าตลาด 400 ล้านบาท/ปี
“ในปี 2548 เร็นโทคิล ได้ปรับโฉมและเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้ในห้องน้ำ ให้ดูมีดีไซน์ที่ทันสมัยสวยงามและเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งห้องน้ำได้ โดยจากเดิมที่เคยใช้ Calmic เปลี่ยนเป็น elite (อิลิท) โดยเฉพาะบริการฆ่าเชื้อกำจัดกลิ่น อิลิท มีคุณสมบัติพิเศษช่วยป้องกัน และลดปัญหาการกระจายเชื้อโรคในห้องน้ำ โดยเฉพาะจากห้องน้ำที่มีคนใช้จำนวนมากๆ ซึ่งเป็นเหตุให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้”
ทัศนพงษ์ กล่าวเสริมว่า หลังจากที่บริษัทฯปรับโฉม elite (อิลิท) ทำให้ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นกลุ่มธุรกิจโรงแรม,กลุ่มเวชกรรม,กลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า สำหรับการทำตลาดในปีนี้จะเน้นธุรกิจโรงแรม และกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นหลัก
เพราะเนื่องจากทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจดังกล่าวมีอัตราการขยายตัวและเติบโตที่ค่อนข้างสูงมากซึ่งนอกจากการขยายตลาดเพิ่มแล้ว สิ่งที่สำคัญที่บริษัทฯกระทำมาโดยตลอดนั้นคือการให้บริการหลังการขาย ซึ่งเป็นหัวใจในการทำตลาดเช่นกัน
ปัจจุบัน บริษัทฯมีฐานลูกค้ากลุ่มสุขอนามัยกว่า 10,000 ราย และคาดว่าหลังจากปรับโฉมกลุ่มผลิตภัณฑ์แล้วในปี 2548 จะทำให้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์ โดยปี 2547 ส่วนแบ่งตลาดสุขอนามัยมีมูลค่าตลาดรวม 400 ล้านบาท บริษัทฯครองที่ 1 มีส่วนแบ่งตลาดถึง 35 เปอร์เซ็นต์ ทัศน์พงษ์กล่าว
เร็นโทคิล ได้เริ่มเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ ปี 2527 ในปี 2534 ได้ซื้อกิจการแผนกกำจัดแมลง และคาลมิค จากบริษัท เวลคัม โดยในปี 2539 เร็นโทคิลยังซื้อกิจการของบริษัท BET ทั่วโลก และได้รวมกิจการอินนิเชียลเข้ามา ทำให้เร็นโทคิลกรุ๊ป กลายเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกในด้านการบริการกำจัดแมลง และสุขอนามัยเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งได้กำหนดนโยบายในการใช้ชื่อใหม่ให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกันทั่วโลกคือ “เร็นโทคิล อินนิเชียล” ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2541
บริษัท เร็นโทคิล อินนีเชียล (ประเทศไทย) จำกัด แบ่งแผนก กลุ่มการให้บริการลูกค้าดังนี้ กลุ่มเร็นโทคิลกำจัดแมลง , อินนิเชียสุขอนามัย แผนกบริการคาลมิค และอินนิเชียลสุขอนามัย แผนกบริการแซนีแท็ค โดยเน้นการดูแลลูกค้าหลังการขาย เป็นหลัก
สอบถามข้อมูลติดต่อ : ฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท คิธแอนด์คินฯ จำกัด
นิตยา 02-663-3226 ต่อ69--จบ--