กรุงเทพฯ--22 มิ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,600 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,572 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.75 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,900 บาท กับ 24,000 บาท และกลับมาปิดที่ 23,900 บาท กับ 24,000 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 5,989 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 12,492 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 7 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 4% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 2% Silver Futures ลดลง 0.1% GFM12 ปิดที่ 23,840 บาท และ GFQ12ปิดที่ 24,010 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 23,850 บาท และ GF10Q12 ปิดที่ 24,040 บาท SVM12 ปิดที่ 870 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 50.3 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,565.5 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 1.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 26.84 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,281.61 ตัน (ถือครองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 3.25 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 78.20 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ ปิดลดลง 250.82 จุด ปิดที่ระดับ 12,573.57 จุด
Ratio Gold / Silver 57 เท่ากับ ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
TheBullionDesk
ราคาทองคำปรับตัวลดลง 2.3% ในการซื้อขายที่ตลาดลอนดอนเมื่อคืนนี้ โดยยังเป็นการรับข่าวในเรื่องที่เฟดไม่ได้ออกมาตรการ QE3 ส่วนในตลาดนิวยอร์กสัญญาส่งมอบทองคำเดือนสิงหาคมปรับตัวลดลง 50 เหรียญ หรือ 3.1%ที่ระดับ 1,565.5 เหรียญ โดยมีการซื้อขายในกรอบ 1,567 — 1,608 เหรียญ ซึ่งการปรับตัวลดลงของทองคำในเบื้องต้นได้รับแรงกดดันจากข่าวของเฟดเช่นกัน
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ออกมาเมื่อคืน ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนพฤษภาคมออกมาที่ระดับ 4.55 ล้านหลัง น้อยกว่าที่คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 4.58 ล้านหลัง ในขณะที่ตัวเลขภาคการผลิตในเขตฟิลาเดเฟียร่วงหนักที่สุดในรอบเกือบ 1 ปีมาอยู่ที่ระดับติดลบ 16.6 คาดการณ์ไว้ที่ 0.7 นอกจากนี้ตัวเลขภาคการผลิตPMI ออกมาที่ 52.9 น้อยกว่าที่คาดและน้อยกว่าระดับครั้งก่อน ในขณะที่ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานพุ่งขึ้น2,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 387,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน
Reuters
เมื่อช่วงเวลาประมาณตีสองบ้านเรา ราคา spot gold ปรับตัวลดลง 2.5% สู่ระดับ 1,566 เหรียญ โดยลงไปทำจุดต่ำสุดก่อนหน้านี้ที่ระดับ 1,563.88 เหรียญ และเมื่อเปรียบเทียบราคาปิดเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ปี 2011 ราคาแตกต่างกันไม่ถึง 10 เซนต์ โดยมีแรงเทขายทางเทคนิคเมื่อราคาลงหลุดระดับ 1,580 เหรียญ
จากความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวและความผิดหวังจากเฟด โดยเมื่อวานนี้เป็นวันที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ ซึ่งเกิดจากมีแรงเทขายเข้ามาตั้งแต่วันพุธหลังจากที่การแถลงการณ์ของFOMC ไม่ได้ออกมาตรการ QE3 แต่เป็นการขยายเวลา Operation Twist แทน เพื่อมีเป้าหมายในการลดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว
ราคา Silver ลดลงมากกว่า 4% และน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 3.5% หลุดระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยการเทขายเมื่อวันพฤหัสบดีในสินทรัพย์ต่างๆ อย่างเท่าเทียมกันได้ลดความสนใจในการเข้าซื้อทองคำเพื่อปกป้องภาวะเงินเฟ้อ
นอกจากนี้มีความกังวลในเรื่องภาวะเงินฝืดเกิดขึ้นในกลุ่มโลหะมีค่า หลังจากการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ ในภาคการผลิต การหดตัวในภาคโรงงานของจีน และกิจกรรมทางธุรกิจที่ชะลอตัวในยูโรโซน ซึ่งข้อมูลตัวเลขดังกล่าวได้เพิ่มความกังวลว่า วิกฤตหนี้ยุโรปและเศรษฐกิจชะลอตัวในสหรัฐฯ รวมไปถึงในเอเชียอาจเป็นสาเหตุให้เศรษฐกิจทั่วโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย
แม้ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาล่าสุดจะมีความอ่อนแอ กลุ่มผู้จัดการฝ่ายการเงินได้กล่าวว่าทองคำจะได้รับผลประโยชน์จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงความไร้เสถียรภาพในการแก้ไขปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรป และมีการพิมพ์ธนบัตรจากกลุ่มธนาคารกลางต่างๆ จะทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับเช้านี้ที่ตลาดสิงคโปร์ ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นมาได้เพียง 67 เซนต์ ที่ระดับ 1,566.09 เหรียญ ณ เวลา 7.23 น. แต่ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ก็ยังเป็นสัปดาห์ที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงมากที่สุดใน รอบเดือน จากความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวได้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มสินค้า โภคภัณฑ์และกระตุ้นให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างสกุลเงิน ดอลลาร์สหรัฐ โดยสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ครึ่ง
Infoquest
มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือธนาคารขนาดใหญ่ทั่วโลก 15 แห่ง ลง 1 — 3 ขั้นเมื่อช่วงประมาณตีสี่ ซึ่งในจำนวนนี้มีธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ 5 แห่ง โดยแบงก์ ออฟ อเมริกาถูกลด 1 ขั้น ขณะที่มอร์แกน สแตนลีย์, ซิตี้กรุ๊ป, โกลด์ แมนแซคส์ และเจพีมอร์แกนถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือลง 2 ขั้น รวมไปถึงธนาคารในยุโรปอีก 9 แห่ง และรอยัล แบงก์ ออฟ แคนาดา ก็ถูกปรับลดเครดิตเช่นกัน ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่า การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือในครั้งนี้จะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของธนาคารทั้ง 15 แห่งปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนจะเรียกร้องผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นสำหรับการซื้อตราสารหนี้ของธนาคารเหล่านี้
นายฌอง-คล็อด ยุงค์เกอร์ ประธานยูโรกรุ๊ปเปิดเผยที่ลักเซมเบิร์กว่า สเปนจะร้องขอความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการสำหรับภาคธนาคารที่ย่ำแย่ก่อนวันจันทร์หน้า โดยเมื่อต้นเดือนนี้ ยูโรกรุ๊ปเปิดเผยว่าพร้อมที่จะจัดสรรเงินสูงถึง 1 แสนล้านยูโร (ราว 1.25 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อช่วยเหลือธนาคารของสเปนที่ได้รับผลกระทบจากหนี้เสียจากภาวะฟองสบู่แตกในภาคอสังหาริมทรัพย์ ก่อนที่บริษัทตรวจสอบบัญชีอิสระ 2 รายเปิดเผยจะเปิดเผยว่า ธนาคารสเปนจะต้องระดมทุน 5.1-6.2 หมื่นล้านยูโร หรือ 7.876 หมื่นล้านดอลลาร์
กรีซเปิดเผยรายชื่อคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลผสม 3 พรรค ซึ่งนำโดยพรรคนิวเดโมเครซีของนายแอนโทนิส ซามาราส นายกรัฐมนตรี ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วประเทศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยแถลงการณ์อย่างเป็นทางการระบุว่า นายวาสสิลิส ราปานอส ประธานธนาคารเนชั่นแนล แบงก์ คนปัจจุบัน ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่ของกรีซ
รัฐบาลและฝ่ายค้านของเยอรมนีได้บรรลุข้อตกลงด้านการคลังเมื่อวานนี้ ซึ่งจะปูทางสำหรับรัฐสภาเยอรมนีในการให้สัตยาบันข้อตกลงสร้างวินัยด้านการคลังของสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนให้ความช่วยเหลือถาวร อย่างไรก็ตาม นางแมร์เคลจำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุน 2 ใน 3 ในรัฐสภา ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ เพื่อที่จะผลักดันให้กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ควบคู่กับสนธิสัญญาสร้างวินัยการคลังของยุโรป (Fiscal Pact)
นายเบนัวต์ โคเออร์ สมาชิกสภาบริหารของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สว่า อีซีบีมีแนวโน้มจะหารือประเด็นปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าในวันที่ 5 ก.ค นอกจากนี้ เขายังเปิดกว้างต่อการใช้กองทุนช่วยเหลือของยูโรเพื่อซื้อตราสารหนี้ของประเทศที่ประสบปัญหา โดยระบุว่านั่นอาจจะช่วยผ่อนคลายบรรยากาศที่ตึงเครียดอย่างมากในสเปนและอิตาลี
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิม 385K ตัวเลขจริงเพิ่มขึ้น 387K
- Existing Home Sales ตัวเลขเดิม 4.62M ตัวเลขจริงลดลง 4.55M
- Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขเดิม -5.8 ตัวเลขจริงลดลง -16.6
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
- ไม่มี
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในทิศทางขาลงจากความผิดหวังในถ้อยแถลงของเฟดที่ไม่มีมาตรการ QE3 การที่ราคาทองคำหลุดแนวรับที่ระดับ 1,600 เหรียญลงมา ทำให้ภาพรวมราคาทองคำเข้าสู่แนวโน้มขาลงทั้งในระยะสั้น กลาง และยาว โดยที่แนวรับถัดไปของทองคำจะอยู่บริเวณ 1,550 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวรับทางจิตวิทยาและบริเวณจุดต่ำสุดเดิมที่เคยทำไว้ที่ระดับ 1,525 เหรียญ ตามลำดับ ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เองกลับมาแข็งค่าขึ้นแม้จะเห็นได้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ที่ออกมาเมื่อวานไม่ดีเลย ซึ่งธรรมดาต้องมีผลลบต่อค่าเงินดอลลาร์แต่กลับไม่ได้ส่งผลใดๆ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาเมื่อวานทั้ง 4 ตัวออกมาแย่ลงทั้งหมด ได้แก่ Unemployment Claims ออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์โดยออกมาอยู่ที่ 387,000 ราย, Flash Manufacturing PMI ออกมาแย่ลงเหลือ 52.9 จุด, Existing Home Sales ออกมาลดลง 70,000 หลัง และตัวเลขภาคการผลิตในเขต Philadelphia ออกมาแย่ลงติดลบ 16.6 จุด ในเชิงเทคนิคราคาทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 1,550 เหรียญเป็นแนวรับทางจิตวิทยา และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,600 เหรียญ
Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,650 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,880 บาท
Gold Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,830 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,060 บาท
Silver Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 840 บาท และแนวต้านที่ระดับ 870 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวในทิศทางขาลง แนะนำให้เปิด Short Position เก็งกำไรภายในวัน ภาพรวมๆยังมองเป็นทิศทางขาลง ให้เก็งกำไรในกรอบ 1,550 — 1,590 เหรียญ
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
เก็งกำไรในทิศทางขาลง ตามที่ได้ให้เปิด Short Position เมื่อวาน ยังคงถือครองพอร์ทที่ 20%
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ยังไม่ทำอะไร ถือครองพอร์ทที่ 0% ยังคงเป็นลักษณะ Wait & See คงจะเข้าซื้อที่ระดับประมาณ 1,550 เหรียญลงมา
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง