กรุงเทพฯ--22 มิ.ย.--Public Hit
การเดินทางทำให้ชีวิตได้ค้นพบความหลากหลายบนโลกใบนี้ และภาพถ่ายของนักเดินทางสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดขึ้นกับผู้ที่ได้พบเห็นเช่นกัน ดังคำที่ว่า “ภาพแทนคำนับพัน” นิตยสารโลนลี แพลนเน็ต (Lonely Planet Magazine) ฉบับภาษาไทยจึงร่วมกับ แคนนอน (Canon) จัดประกวดภาพถ่ายภายใต้หัวข้อ “The Incredible Journey” ที่แสดงให้เห็นถึงแรงบันดาลใจในการท่องเที่ยวอย่างทันสมัย สะท้อนไลฟ์สไตล์ในแบบ Lonely Planet Magazine ชิงของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท โดยประกาศผลกันไปเรียบร้อยแล้ว ณ โซน อีเดน ชั้น 2 เซ็นทรัลเวิลด์
กิตติกร ธีรพัฒนวงศ์ กรรมการอำนวยการ บริษัท มีเดีย เอกซ์เพอร์ทีส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด (Media Expertise International (Thailand) Co.,Ltd) หรือ MEI เจ้าของลิขสิทธิ์และจัดทำ โลนลี แพลนเน็ต ฉบับภาษาไทย กล่าวว่า ตั้งแต่มีการเปิดตัวนิตยสารไปเมื่อปลายปีที่แล้วได้รับเสียงตอบรับดีมากจากผู้อ่าน จึงได้จัดหากิจกรรมขึ้นมาสำหรับผู้ที่รักการเดินทาง รักการถ่ายภาพ ด้วยการจับมือกับแคนนอน จัดการประกวดภาพถ่ายขึ้น
“เราเห็นตรงกันว่านักเดินทางกับการถ่ายภาพเป็นสิ่งที่ขาดกันไม่ได้ จึงได้จัดงานประกวดภาพถ่ายภายใต้หัวข้อ “The Incredible Journey” ขึ้นมา โดยทางนิตยสารโลนลี แพลนเน็ต หวังเป็นอย่างยิ่งว่าภาพถ่ายสวยๆ เหล่านี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกท่านออกไปเดินทางท่องเที่ยวและหาประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับชีวิต ให้เหมือนกับสโลแกนของเราที่ว่า Your Reason to Travel ค่ะ” ผู้บริหารสาวสวย กล่าว
ทางด้าน วรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้สนับสนุนหลัก เผยว่า รู้สึกยินดีที่นิตยสารชั้นนำอย่าง โลนลี แพลนเน็ต ซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลกเข้ามาเปิดตัวในบ้านเรา และด้วยความที่การท่องเที่ยวกับการถ่ายภาพเป็นของคู่กัน จึงเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่างแคนนอน กับ โลนลี แพลนเน็ต ในการจัดโครงการประกวดถ่ายภาพดังกล่าว
“ทุกท่านที่มางานนี้คงได้เห็นภาพถ่ายทั้งหลายแล้วว่าสามารถสร้างแรงบันดาลใจได้ ผมเชื่อว่าภาพต่างๆ ในการประกวดครั้งนี้ จะเป็นสิ่งดีๆ ที่เราสามารถนำมาแชร์ประสบการณ์ในการเดินทาง และนำภาพเหล่านี้มาแบ่งปันให้ได้ชมกัน ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโครงการดีๆ อย่างนี้ตลอดไป ทางแคนนอนก็จะให้การสนับสนุนต่อไปอย่างแน่นอนครับ”
สำหรับที่มาในการจัดประกวดภาพถ่ายโครงการนี้ รัฐสยาม ศีลคุณ บรรณาธิการบริหารนิตยสารโลนลี แพลนเน็ต เผยว่า เป็นกิจกรรมที่ต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่รักการท่องเที่ยว ได้ออกเดินทางเพื่อไปเก็บเกี่ยวความสุข ความสนุกสนาน ความประทับใจ และถ่ายทอดให้คนทั่วไปได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ ที่ได้พบระหว่างเดินทาง โดยบอกเล่าผ่านภาพถ่ายได้อย่างมีรสชาติ
“โครงการนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมาก เราเริ่มต้นมาตั้งแต่เปิดตัวหนังสือ แล้วให้มีการส่งภาพเข้ามาประกวด มีผู้ส่งภาพเข้ามามากกว่า 800 ภาพ ผมหนักใจแทนคณะกรรมการมากเพราะแต่ละภาพสวยงามกินกันไม่ลงเลย จะเห็นได้ว่าทั้ง 24 ภาพที่คัดมาในรอบสุดท้ายที่ทุกท่านได้ชมในงานมีความสวยงามแตกต่างกัน ก็หวังว่าเราจะมีโอกาสได้ทำกิจกรรมดีๆ แบบนี้ต่อไป อยากฝากถึงนักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพทุกท่านว่า ขอให้ส่งผลงานเข้ามามากๆ ในโครงการที่เราจะจัดขึ้นปีหน้า และคอยติดตามว่าเราจะจัดกิจกรรมอะไรขึ้นมาให้ทุกคนได้ร่วมสนุกกัน” บรรณาธิการบริหาร กล่าว
ผลงานที่ได้รับการคัดเลือกผ่านเข้ารอบสุดท้าย มีทั้งหมด 24 ภาพ ซึ่งเป็นฝีมือการถ่ายภาพของนักเดินทางหลากหลายอาชีพ อาทิ นักธุรกิจ นักบิน นักวิจัย รับจ้าง ค้าขาย พนักงานบริษัท ไกด์ ทันตแพทย์ ทนายความ ช่างภาพอิสระ ฯลฯ แม้จะมีความสามารถในการถ่ายภาพไม่เท่ากัน แต่มุมมองเฉพาะตัวของแต่ละคนที่ถ่ายทอดผ่านเลนส์ ทำให้การตัดสินในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคณะกรรมการเลย ซึ่ง คณะกรรมการที่มาทำหน้าที่ในครั้งนี้ ได้แก่ จิระนันท์ พิตรปรีชา นักเขียน และผู้จัดทำบทบรรยายภาพยนตร์, อาจารย์วรนันทน์ ชัชวาลทิพากร ศิลปินแห่งชาติ ปี 2552 สาขาทัศนศิลป์ด้านภาพถ่าย, อธิษฐ์ พีระวงศ์เมธา ช่างภาพอิสระแก่ประสบการณ์ อาทิ ทำงานให้กับสำนักข่าว AFP, “Photographer of the year” of FCCT/ONASIA 2011 และ Luke Duggleby ช่างภาพอิสระที่มีผลงานมากมาย เช่น เคยถ่ายรูปลง Sunday Times Magazine (UK), The Independent on Sunday Review, และเคยร่วมงานกับทางโลนลี แพลนเน็ต
ส่วนเกณฑ์ในการตัดสินผลงาน ทางคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะพิจารณาจากหลายด้าน ได้แก่ ความคิดสร้างสรรค์ในการถ่ายภาพ 25% การจัดวางตำแหน่งและองค์ประกอบของภาพถ่าย 20% แสงเงาของภาพถ่าย 15% และความสมบูรณ์แบบโดยรวมของภาพถ่าย 40%
มาถึงนาทีสำคัญที่ทุกคนร่วมลุ้นกัน คือ การประกาศผล ภาพถ่ายยอดเยี่ยม หัวข้อ “The Incredible Journey” ได้แก่ ภาพ Ice blue cave ที่ Jokulsarlon ไอซ์แลนด์ ฝืมือของ ประสิทธิ์ ดีศิลปกิจ นักธุรกิจวัย 51 ปี เป็นภาพถ้ำน้ำแข็ง เนื่องจากฝนตกลงมาตลอดการเดินทางไปถ้ำน้ำแข็ง ผู้นำทางต้องออกไปสำรวจภายนอกถ้ำเพราะต้องคอยระวังน้ำที่ขังอยู่ด้านบนไหลลงมาในถ้ำ และอันตรายจากถ้ำน้ำแข็งถล่มลงมาได้ (รุ่นกล้องและเลนส์: 5D Mark II, EF 16-39 F2.87 L II USM) และภาพนี้ยังคว้ารางวัลภาพประทับใจสื่อมวลชนมาได้อีกด้วย ซึ่งรางวัลที่ผู้ชนะเลิศได้รับ คือ กล้องถ่ายภาพ Canon EOS 5D Mark II พร้อมเลนส์ EF 24-105 f/4 L IS USM มูลค่า 105,000 บาท พร้อมเป็นสมาชิกนิตยสาร Lonely Planet 1 ปี และ รางวัลภาพประทับใจสื่อมวลชน ได้รับบัตรกำนัลที่พัก มูลค่า 34,000 บาท
“ดีใจมากกับรางวัลที่ได้ เพราะไม่เคยส่งภาพไปประกวดที่ไหนเลย งานนี้เป็นครั้งแรกเพราะเห็นเป็นหัวข้อเกี่ยวกับการท่องเที่ยวซึ่งเป็นสิ่งที่เราชอบอยู่แล้ว ผมชอบเที่ยวเองแบบลุยๆ เน้นการถ่ายรูปด้วย บางทีก็ไปกับทัวร์หารเฉลี่ยคือไปแบบไม่รู้จักกันโดยดูจากในเวบไซต์แล้วก็ไป แต่ตอนนี้มีกลุ่มที่ไปด้วยกันประจำแล้วบางทีเห็นรูปสวยๆ ในหนังสือเราอยากไปถ่ายรูปเก็บไว้บ้าง ก็ไปเที่ยวที่นั่นเลย สำหรับรูป Ice blue cave ที่จริงแล้วเราตั้งใจจะเข้าไปถ่ายในถ้ำ แต่เผอิญผู้นำทางเขาเดินออกไปสำรวจข้างนอก เราเลยหันกล้องมาจับภาพเขาเพราะเป็น curve ที่รับอยู่แล้ว อีกทั้งสถานที่นี้ออกแนวแอดเวนเจอร์ ต้องมีอุปกรณ์การเดิน เพราะอันตรายเราไปเองไม่ได้ ต้องมีคนนำทางเพราะเป็นลานน้ำแข็งที่ละลาย ธรรมชาติมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ปีหน้าอาจไม่มีภาพแบบนี้แล้วก็ได้ จึงคิดว่าเป็นภาพที่ตรงกับการประกวด
“ในการถ่ายภาพ เป็นศิลปะที่พูดยาก บางทีเรามองสวย แต่คนอื่นมองแตกต่างจากเรา แต่สิ่งหนึ่งที่เราควรทำเวลาถ่ายภาพคือ ใส่มุมมองของเราลงไปว่าอยากถ่ายทอดออกมายังไง แต่องค์ประกอบหลายอย่างมันก็ไม่ง่าย ต้องฝึกและอาศัยประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ครับ” นักเดินทางมืออาชีพ กล่าว
ส่วนรองชนะเลิศ คือ ผลงาน พายุทรายแห่งโบรโม่ ที่ Bromo Valcano ประเทศอินโดนีเซียโดย จิรชนม์ ฉ่ำแสง ช่างภาพอิสระ อายุ 38 ปี เป็นภาพของเพื่อนที่กำลังนั่งม้าเพื่อขึ้นไปชมปากปล่องภูเขาไฟ ขณะนั้นลมแรงพัดทรายฟุ้งไปทั่วบริเวณจนเป็นบรรยากาศเหมือนถูกล้อมรอบไว้ด้วยหมอก (รุ่นกล้องและเลนส์: 5D Mark II, 70-200 F/4L IS) ได้รับรางวัลตั๋วเครื่องบินไป-กลับ บาหลี 2 ที่นั่ง มูลค่า 64,400 บาท
“โบรโม่ เป็นภูเขาไฟที่ยังมีลมหายใจอยู่ เราสามารถเข้าไปชมที่ปากปล่องได้ ผมไปเที่ยวกับเพื่อน จังหวะนั้นพอดีลมแรงมากก็หอบทรายที่เกิดจากเถ้าภูเขาไฟขึ้นมาจนฟุ้งไปทั่ว ปกติถ้าใครเจอเหตุการณ์แบบนี้จะต้องหาที่หลบแล้ว แต่เราเห็นภาพในเสี้ยววินาทีนั้นแล้วรู้สึกว่าสวยมาก จึงตัดสินใจหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย เพราะถ้าช้ากว่านั้นอีกนิดเดียวก็จะไม่ได้ภาพนั้นแล้ว
“ปกติผมชอบเที่ยวแบบแบ็คแพ็ค ไปกับเพื่อน ปีละ 2-3 ครั้ง โดยมากจะเลือกโลเคชั่นที่สวย แปลกหูแปลกตา เพราะชอบถ่ายรูปอยู่แล้ว ไม่ว่ารูปคน หรือสถาปัตยกรรม การเดินทางทำให้เราได้ค้นพบสิ่งสวยงามและยิ่งเดินทางมากทำให้มองเห็นตัวเองมากขึ้น ผมไม่ค่อยได้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดที่ไหน แต่เห็นหัวข้อการประกวดครั้งนี้แล้วรู้สึกแวบขึ้นมาเลยว่าภาพของเราน่าจะใช่ เพราะมีความประทับใจระหว่างการเดินทาง จึงเลือกภาพนี้ส่งเข้ามา แต่ไม่ได้คาดหวังอะไรเพราะภาพคนอื่นสวยๆ เยอะ คงเป็นเพราะภาพผมตรงกับหัวข้อกว่าจึงได้รางวัล ปีนี้ตั้งใจไว้ว่าจะกลับไปที่บาหลีอีกครั้ง พอได้รางวัลมาทำให้ไปเที่ยวได้ง่ายขึ้นครับ”
รางวัลสุดท้ายคือ Popular Vote ภาพที่ได้รับคะแนนจากผู้มาร่วมงานมากที่สุดคือ “สีสันเมือง Salzburg” ที่ Salzburg ประเทศออสเตรีย โดย ธีรวัฒน์ สำราญถิ่น นักบินหนุ่มวัย 28 ปี เป็นภาพจุดชมวิวที่มีชื่อว่า M?nchsbergAufzug เป็นอีกจุดหนึ่งที่จะชมวิวเมือง Salzburg ได้อย่างทั่วถึง ที่อยู่บนยอดเขาไกลออกไปนั้น คือ Festung Hohensalzburg อันเป็น landmark ของเมืองนี้ (รุ่นกล้องและเลนส์: EOS 7D, Tokina 11-16) รางวัลนี้ได้รับตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ภูเก็ต 2 ที่นั่ง มูลค่า 14,580 บาท
จิระนันท์ พิตรปรีชา เผยถึงภาพรวมในการตัดสินว่า รู้สึกหนักใจเพราะกติกาเปิดกว้างไม่จำกัดรุ่น ไม่จำกัดวัย เป็นภาพถ่ายในประเทศหรือต่างประเทศก็ได้ บางครั้งต้องเปรียบเทียบระหว่างรูปเจดีย์ในประเทศไทย กับ ภูเขาน้ำแข็ง ซึ่งเปรียบกันยาก จึงต้องใช้เกณฑ์พิจารณาที่หัวข้อการประกวดเป็นหลัก
“หัวข้อการประกวดคือ Incredible Journey ซึ่งดิฉันแปลเป็นไทยว่า อัศจรรย์สัญจร ถ้าเป็นภาพตึกนิ่งๆ ถึงสวยแค่ไหนมันก็ไม่ตรงกับคำนี้ ดังนั้นภาพที่ได้รับรางวัลจึงต้องมีฟีลลิ่ง ผลงานที่เราคัดเลือกออกมาทั้ง 24 ภาพนั้น ส่วนใหญ่ความสวยงามอาจจะไม่ถึง 100% แต่ถ่ายทอดความรู้สึกของผู้ถ่ายภาพในขณะที่อยู่ตรงนั้น นาทีนั้นได้ดี เพราะกล้องถ่ายรูปเป็นเสมือนดวงตา พอเห็นอะไรที่น่าตื่นเต้นตาก็จะเบิกกว้างและบันทึกไว้ ซึ่งเป็นเสน่ห์ของการเดินทางคือ ทำให้เราได้ค้นพบทั้งความน่าอัศจรรย์พิศวงของโลนลี แพลนเน็ต ใบนี้ และทำให้ค้นพบตัวเองในบางแง่มุมด้วย” นักเขียนรางวัลซีไรต์ ปี 2532 กล่าว
ในมุมมองของศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ด้านภาพถ่าย อาจารย์วรนันทน์ ชัชวาลทิพากร เห็นว่า ภาพที่ชนะเลิศ มีความโดดเด่นในแง่ที่คนถ่ายเข้าใจหามุมโดยใช้ถ้ำมีสีดำเป็นฉากหน้า แล้วมีจุดโฟกัสไปที่คนเดินบริเวณนอกถ้ำ ซึ่งคนเดินข้างนอกใส่เสื้อผ้าสีสันสดใส และจังหวะก้าวขาลงตัวพอดี เมื่อมองเข้าไปในถ้ำเห็นเงาดำที่เป็นแสง เลยทำให้รูปนี้ยิ่งเด่นมาก กรรมการทุกคนลงมติเป็นเอกฉันท์ว่าถูกใจกับภาพนี้ที่สุด
“สำหรับภาพรองชนะเลิศ เสียดายที่จังหวะม้ากับบ้านหรือศาลาอยู่คนละฝั่ง ถ้าม้าหันไปทางเดียวกันจะสวยมาก ภาพนี้น่าสนใจเพราะต่างไปจากภาพส่วนใหญ่ที่เห็นบ่อยคือ คนจูงม้าเดินเป็นแถวผ่านทะเลทราย สิ่งที่อยากฝากไปถึงผู้ที่อยากส่งภาพถ่ายเข้าประกวดในปีหน้าว่าควรหามุมถ่ายรูปที่ดูแปลกตา ไม่ค่อยซ้ำใคร ถ้ามีการใช้ขาตั้งกล้องนิดนึงจะดีมาก ทำให้รูปในมุมกล้องไม่เปลี่ยน”
ทางด้าน ช่างภาพสารคดีมากประสบการณ์ อธิษฐ์ พีระวงศ์เมธา ให้ความเห็นเกี่ยวกับ ผลงานที่ชนะเลิศ ว่าเป็นภาพที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก มีความตื่นตาตื่นใจ เป็นภาพที่ตรงใจและตรงโจทย์ในการประกวดมาก ในการถ่ายรูปให้สวยนั้นต้องอาศัยองค์ประกอบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น แสง สี สถานที่ เวลา และต้องมีประสบการณ์ของช่างภาพใส่ลงไปด้วย ซึ่งผลงานของผู้ที่ได้รางวัลที่ 1 มีมาตรฐานสูง ถึงแม้จะไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพก็ตาม และน่าจะเป็นการเปิดเวทีให้คนที่ชอบถ่ายรูปอาจสนใจส่งภาพเข้ามาประกวดบ้าง ส่วนผลงานของรองอันดับ 1 นั้น ต้องถือได้ว่า ช่างภาพอยู่ถูกที่ถูกเวลา และมีบรรยากาศเข้าช่วยด้วย ทุกอย่างจึงดูลงตัวไปหมด
ไม่ว่าจะมีจุดหมายปลายทางใกล้หรือไกล หากมีใจรักที่จะท่องเที่ยว ความสุขในชีวิตก็อยู่แค่เอื้อมเสมอ ติดตามชมภาพถ่ายแห่งความสุข 24 รูปแบบในหัวข้อ “The Incredible Journey” ที่บันทึกไว้บนภาพถ่ายโดยผู้ที่รักการเดินทาง ได้ใน นิตยสาร Lonely Planet ฉบับเดือนมิถุนายน