กรุงเทพฯ--26 มิ.ย.--เอ.พี.ฮอนด้า
สภาพตลาดรถจักรยานยนต์ไทยเดือนพฤษภาคมสุดคึกคัก เปิดเทอมใหญ่ทำดีมานด์พุ่งสูง เช่นเดียวกับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของฮอนด้า ปิดตัวเลขสิ้นเดือนที่ 214,807 คัน เติบโตจากเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 14% โดยมีฮอนด้าครองความเป็นผู้นำด้วยยอดจดทะเบียน 150,092 คัน ทั้งยังคว้ายอดจำหน่ายสูงสุด 3 อันดับแรกอีกด้วย ด้านผู้บริหารค่ายปีกนกเผย กระแสตอบรับของกลุ่มเป้าหมายต่อรถเอ.ที.ของฮอนด้าเป็นไปในทางที่ดีมากจนส่งให้เซกเมนท์นี้ขยายตัวไปด้วย คาดแนวโน้มเดือนมิถุนายนจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่องเพราะเป็นฤดูกาลซื้อขายก่อนเข้าสู่ฤดูมรสุม
นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “ตลาดรถจักรยานยนต์เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาถือได้ว่าค่อนข้างสดใสตามที่คาดไว้ เพราะได้รับแรงซื้อจากช่วงเปิดเทอมใหญ่และการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ทำให้ยอดจดทะเบียนในเดือนที่ผ่านมานั้นสูงถึง 214,807 คัน เติบโตกว่าเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว 27,029 คันหรือดีดตัวสูงขึ้นถึง 14% ในขณะที่ฮอนด้ายังเป็นผู้นำในตลาดด้วยยอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 150,092 คัน โดยในเดือนที่ผ่านมานั้น ฮอนด้าสามารถคว้าอันดับรถจักรยานยนต์ที่มียอดจดทะเบียนสูงสุด 3 อันดับแรกได้ทั้งหมดประกอบไปด้วย ฮอนด้าเวฟ110ไอ 68,847 คัน, ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ 31,084 คัน และฮอนด้าคลิก125ไอ 23,319 คัน ซึ่งสองรุ่นหลังนั้นกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก และเป็นโมเดลสำคัญที่ผลักดันให้ยอดจำหน่ายรถเอ.ที.ของฮอนด้าในเดือนพฤษภาคมพุ่งสูงขึ้นมาถึง 61,265 คัน จาก 46,240 คันในเดือนเมษายน ส่วนหนึ่งมาจากกระแสตอบรับหลังการเปิดตัวออลนิวฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ ดีไซน์ใหม่หมดทั้งคัน พร้อมเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด PGM-FI ทีได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ให้ดียิ่งกว่าเดิม ในขณะที่คลิก125ไอ ที่มีเทคโนโลยี eSP ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จากกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้ชาย จนขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 ของตลาดรวมได้ในที่สุด”
ในส่วนของเดือนมิถุนายน เป็นที่คาดการณ์ว่าตลาดรถจักรยานยนต์มีโอกาสที่จะเติบโตสูงที่สุดในรอบปีเนื่องจากเป็นฤดูกาลซื้อขายก่อนเข้าสู่ฤดูฝน อีกทั้งในปีนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากกำลังซื้อที่ดีขึ้นเนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจ ในขณะที่ร้านผู้จำหน่ายฯต่างก็พยายามผลักดันยอดจำหน่ายด้วยกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างครบครัน
“เดือนมิถุนายนของทุกปีคือเดือนที่มีการแข่งขันสูง เพราะเป็นช่วงซื้อขายก่อนเข้าสู่ฤดูมรสุม แน่นอนว่ากลยุทธ์ทางการตลาด และกิจกรรมส่งเสริมการขายจะถูกนำมาใช้กันอย่างเต็มที่ สิ่งนี้จะยิ่งช่วยผลักดันให้ยอดจดทะเบียนยิ่งสูงขึ้นไปอีก อีกทั้งสภาวะทางเศรษฐกิจก็ค่อนข้างจะเอื้ออำนวยให้เกิดการซื้อขาย ดังนั้น หากยอดจดทะเบียนรวมจะทะลุหลัก 1 ล้านคันภายในครึ่งปีแรกก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด” นายสุชาติกล่าวถึงแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น
สำหรับรายงานตัวเลขตลาดรวมรถจักรยานยนต์ทุกประเภทประจำเดือนพฤษภาคม 2555 พบว่ามียอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 214,807 คัน แบ่งเป็นรถแบบเอ.ที. 104,530 คัน คิดเป็นอัตราส่วน 49%, รถแบบครอบครัว 102,314 คัน อัตราส่วน 48%, รถแบบออน-ออฟ 2,991 คัน อัตราส่วน 1%, รถแบบสปอร์ต 2,921 คัน อัตราส่วน 1% และรถแบบอื่นๆ รวมกันอีก 2,051 คัน อัตราส่วน 1%
ทั้งนี้ ยอดจดทะเบียนจำแนกตามค่ายผู้ผลิตในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้น รถจักรยานยนต์ฮอนด้ามียอดจดทะเบียนสูงที่สุดในตลาด ปิดตัวเลขรวมทั้งสิ้นที่ 150,092 คัน เทียบเท่าสัดส่วนครองตลาดที่ 70% ตามมาด้วย ยามาฮ่า 50,171 คัน สัดส่วนครองตลาด 23%, ซูซูกิ 7,152 คัน สัดส่วนครองตลาด 3%, คาวาซากิ 3,260 คัน สัดส่วนครองตลาด 2%, ริวก้า 1,806 คัน สัดส่วนครองตลาด 1% และยี่ห้ออื่นๆ รวมกัน 2,326 คัน สัดส่วนครองตลาด 1%