กรุงเทพฯ--27 มิ.ย.--Stuvik Racing project
การแข่งขัน ฟอร์มูล่าเรโนลด์ นอร์ธเทิร์นยูโรเปี้ยนคัพ 2012 สนามที่2 เริ่มต้นขึ้นในวันศุกร์ที่ 22 มิถุนายนโดยทีมผู้จัดเดียวกันกับ 24Hour VLN Endurance race ที่มีชื่อเสียงระดับโลก นักซิ่งไทย แซนดี้ นิโคลัส สตูวิค วัย 17 ปี ภายใต้การสนับสนุนของ สิงห์คอร์ปเปอเรชั่น เดอะพิซซ่าคอมปะนี ดาคอน ราชยานยนต์สมาคมฯ และ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เตรียมความพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจเป็นเป็นอย่างดี ในช่วงเวลาเดือนกว่าที่จังหวัดระยอง เดินทางมาถึงเยอรมนี 3 วันก่อนแข่งขัน เพื่อลดปัญหาอาการเจ็ทแล็ค
ท่ามกลางอากาศที่หนาว ด้วยอุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส และฝนตกประปราย แซนดี้ไม่หวั่น โชว์ฝีมือได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงควอลิฟายครั้งที่1 คว้ากริดสตาร์ทที่ 11 ท่ามกลางรถรถฟอร์มูล่าทั้งหมด 36 คัน เช่นเดียวกันกับ ควอลิฟายครั้งที่ 2 คว้ากริดสตาร์ทที่ 11 ด้วยเวลา 1:27:630 นาที ห่างจาก โพลโพซิชั่น 0.8 วินาที และห่างจากนักขับที่ได้กริดสตาร์ทที่ 2 เพียง 0.2 วินาทีเท่านั้น เรียกได้ว่าเริ่มต้นชิงตำแหน่งกริดสตาร์ทก็เชือดเฉือนกันอย่างดุเดือดในกลุ่มนักขับฟอร์มูล่ารุ่นเยาว์
เรซที่ 1 เริ่มขึ้นช่วงบ่ายของวันศุกร์ โค้ชส่วนตัวของแซนดี้ “นีล จานี” ดีกรี อดีตนักขับ Red Bull F1 เสริมกลยุทธ์การทำเวลาโค้งแรกให้แซนดี้ ซึ่งก็เป็นผลสำเร็จ แซนดี้ไล่แซงขึ้นมา 2 อันดับจากอันดับ 11 ขึ้นเป็นอันดับ 9 ทว่าช่วงกลางของการแข่งขัน แซนดี้ตีวงกว้างตรงด้านหน้า Mercedes Benz Grandstand ทำให้หล่นลงมาอยู่อันดับ 11 แซนดี้พยายามไล่แซงนักขับที่ได้คะแนนนำของตารางแชมเปี้ยนชิพ อย่าง Jake Dennis ไปจนกระทั่งจบการแข่งขัน คว้าอันดับ 11 มาครอง
เรซที่ 2 เริ่มขึ้นช่วงเช้าวันเสาร์ ท้องฟ้าสดใส แซนดี้ออกสตาร์ทได้ไม่ดี ทำให้หล่นไป 3 อันดับ แต่ผ่านไปเพียง 4 โค้งแรกเท่านั้น ก็ทวง 3 อันดับนั้นคืนมาสำเร็จ อยู่อันดับ 11 เหมือนเดิม ต่อมาในแลปที่ 2 ขณะที่แซนดี้กำลังแซงรถของ อเล็กซ์ ริแบร์ราส (Alex Riberas) นักขับสเปนขึ้นมาที่โค้งแรก ปรากฏว่ามีรถที่ที่ประสบอุบัติเหตุจอดอยู่นอกโค้งแรกพร้อมรถเจ้าหน้าที่ แซนดี้พยายามประคองรถในขณะที่รถทั้งทางด้านซ้ายและด้านขวาพยายามหักหลบรถที่จอดอยู่ ทำให้เสียหลักประสานงาเข้าที่กลางตัวรถของ เอ๊ด โจนส์ (Ed Jones) นักขับชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทำให้รถของทั้งคู่เสียหายต้องหยุดและออกจากการแข่งขันไป
แซนดี้เสียดายไม่น้อย เนื่องจากสภาพรถที่พร้อม เขาเชื่อว่าจะสามารถไต่ขึ้นไปท็อป 10 สำเร็จได้ดังที่ตั้งไว้ ทว่าต้องประสบอุบัติเหตุ ออกจากการแข่งไปเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม แซนดี้มั่นใจว่า การกลับมาคืนฟอร์มของเขาในครั้งนี้ จะต่อเนื่องไปถึงสนามหน้าที่จะมีขึ้นในอีกสองอาทิตย์ ที่ออสเชอร์เลเบิ้นนเซอร์กิต ประเทศเยอรมนี สนามที่เขาเคยคว้า Fastest Lap ในช่วงซ้อมอย่างเป็นทางการ