ยูนิค ไมนิ่งฯ ประกาศขายหุ้นไอพีโอ ราคาหุ้นละ 7.95 บาท 6-8 ก.ค.นี้ กำไรพุ่งรับวัฎจักรขาขึ้นของถ่านหินและโครงการในอนาคต

ข่าวทั่วไป Friday July 2, 2004 15:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ก.ค.--ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส
ยูนิค ไมนิ่งฯ ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายถ่านหินคุณภาพดีจากอินโดนีเซีย ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ขยายตัว 30% กำไรปี 2547-2548 เติบโตแบบก้าวกระโดดจากวัฏจักรขาขึ้นของถ่านหินและในโครงในอนาคต วางกลยุทธ์ดึงลูกค้าหันใช้พลังงานถ่านหินเพิ่ม ทดแทนราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น พร้อมโชว์ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2547 รายได้เกือบ 180 ล้านบาท กำไร 21.7 ล้านบาท หรือ 0.31 บาทต่อหุ้น
นายสมบูรณ์ สิริไพบูลย์พงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายถ่านหินคุณภาพดี ประเภทบิทูมินัสและซับบิทูมินัส จากประเทศอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปในราคาหุ้นละ 7.95 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จำนวน 20 ล้านหุ้น ซึ่งจะเปิดให้มีการจองซื้อในระหว่างวันที่ 6-8 กรกฎาคม ศกนี้ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นอกจากนี้ยังมีผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนอีกจำนวน 5 บริษัท ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด
“การที่เราเลือกเข้าตลาดในช่วงนี้ เพราะมองว่าภาวะตลาดหุ้นเริ่มปรับตัวดีขึ้น และผลประกอบการของบริษัทยังคงเติบโตดีอย่างต่อเนื่องจากราคาถ่านหินที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันอุตสาหกรรมพลังงานถ่านหินแนวโน้มที่เติบโตประมาณร้อยละ 7 ต่อปี เนื่องจากเป็นพลังงานที่มีต้นทุนต่ำกว่าน้ำมันเตาและก๊าซธรรมชาติ ทำให้บริษัทยังมีช่องทางในการขยายตลาดได้อีกมาก” นายสมบูรณ์ กล่าวพร้อมให้ความเห็นว่า
จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ราคาน้ำมันเตาที่เป็นปัจจัยต่อการผลิตของอุตสาหกรรมต่างๆ ปรับขึ้นสูงขึ้นด้วย จึงเป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการจะหันมาพิจารณาใช้ถ่านหินมากขึ้นเพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยสามารถลดต้นทุนพลังงานได้มากถึงประมาณร้อยละ 50 ซึ่งบริษัทมีนโยบายที่จะเจาะกลุ่มลูกค้าที่ยังไม่เคยใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง โดยปัจจุบันมีลูกค้า 70 ราย อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร กระดาษ สิ่งทอ และตั้งเป้าว่าจะมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นกว่า 100 รายในอีก 2 ปีข้างหน้า
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนนี้ประมาณ 159 ล้านบาท จะนำไปใช้ในโครงการสร้างคลังสินค้า 2 แห่ง ซื้อรถบรรทุก 10 คัน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตร้อยละ 30 ในปี 2547 ในขณะที่ปี 2548 ตั้งเป้าว่าจะขยายตัวในอัตราที่สูงต่อไป เนื่องจากโครงการดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีปริมาณการขายถ่านหินเพิ่มอีกประมาณร้อยละ 30 และมีรายได้เสริมจากการขายหม้อไอน้ำจากโครงการเป็นตัวแทนจำหน่ายหม้อไอน้ำ “ฮามาดะ” ซึ่งคาดว่าจะเริ่มขายได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ ส่วนรถบรรทุกที่ซื้อเพิ่มเติมจะทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งลงได้มาก จากเหตุผลดังกล่าวทำให้ในปี 2547 และ 2548 เป็นปีที่บริษัทมีการเติบโตที่น่าสนใจมากสำหรับนักลงทุน ส่วนโครงการระยะยาวจะสร้างท่าเทียบเรือขึ้นถ่านหินและสร้างโรงงานผลิตถ่านหินก้อน ในปี 2549-2551 เพื่อรองรับการขยายตัวของบริษัทต่อไป
สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1 ของปี 2547 บริษัทฯ มีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างมาก โดยมีรายได้จากการขาย 178.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ของปี 2546 ที่มีรายได้ 154.18 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.53 และมีกำไรสุทธิ 21.70 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2546 ถึงร้อยละ 37.56 เนื่องจากในไตรมาส 1 ปี 2547 บริษัทฯ ได้ปรับราคาขายถ่านหินเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 7 จากราคาเฉลี่ยในไตรมาส 1 ปี 2546 และมีปริมาณการขายเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 8
ในไตรมาส 2 ปี 2547 บริษัทได้ปรับราคาขายถ่านหินขึ้นประมาณร้อยละ 30 จากราคาในช่วงต้นปี เพื่อสะท้อนต้นทุนราคาถ่านหินที่ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้นบริษัทคาดว่ารายได้ในไตรมาส 2 ปี 2547 เป็นต้นไป จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก และบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี ทำให้คาดว่าจะมีกำไรสุทธิดีกว่าในไตรมาส 1 ปี 2547
นายสมบูรณ์ ให้ความเห็นว่าราคาจองที่ 7.95 บาท เป็นราคาที่กำหนดโดยใช้ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทและปรับลดเพื่อให้นักลงทุนได้มีโอกาสทำกำไร โดยหุ้นของ BANPU และ LANNA ซึ่งทำธุรกิจจำหน่ายถ่านหินเช่นกัน ทำการซื้อขายที่พีอีเรโชประมาณ 20 เท่า หรือมากกว่า ในขณะที่ราคาขายของบริษัทซึ่งคิดจากผลประกอบการที่ผ่านมา มีพีอีเรโชต่ำกว่าพีอีของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กลุ่มพลังงาน และจะปรับลดลงอีกในอนาคตจากราคาขายถ่านหินที่ปรับขึ้น และโครงการในอนาคตในช่วงปลายปี 2547 และต้นปี 2548
อนึ่ง บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งโดยบริษัท ยูนิคแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) และนายสมบูรณ์ สิริไพบูลย์พงศ์ ซึ่งได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทฯ ขึ้น เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2537 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 1 ล้านบาท โดยเริ่มต้นประกอบธุรกิจนำเข้าถ่านหินคุณภาพดีจากต่างประเทศเพื่อนำมาปรับปรุงคุณภาพให้เหมาะสมกับหม้อไอน้ำของแต่ละโรงงานอุตสาหกรรม และจัดจำหน่ายถ่านหินให้กับโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ภายในประเทศ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
คุณลัคคณา ขวัญงาม และคุณสุจิรา วิโรจนะ
โทร. 02-953-8633,01-629-1821--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ