กรุงเทพฯ--29 มิ.ย.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์
การร่วมกันระหว่างสองบริษัทจะช่วยพลิกโฉมหน้าระบบการทำงานร่วมกันทางวิดีโอ (video collaboration) ผ่านระบสื่อสารไร้สายที่ปลอดภัยขององค์กร (enterprise-secure mobility) ประกอบด้วย
- วิดีโอแอพพลิเคชั่นสำหรับเดสก์ทอป โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ทำงานร่วมกันได้ดีเยี่ยมในราคาย่อมเยาว์ (interoperable)
- ขีดความสามารถปรับใช้กับอุปกรณ์สื่อสารส่วนตัวของแต่ละบุคคล Bring-Your-Own-Device (BYOD)
- ต่อยอดระบบสื่อสารที่ใช้อยู่ในปัจจุบันให้คุ้มค่าแก่การลงทุน
อวาย่า อิงค์ (Avaya Inc.) เปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการเข้าซื้อกิจการของแรดวิชั่น (Radvision) ซึ่งบริษัทนี้เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านเทคโนโลยีการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอโดยผ่านเครือข่าย IP และไร้สาย เสร็จสิ้นแล้ว ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขในข้อตกลงควบรวมกิจการ หุ้นสามัญของแรดวิชั่นแต่ละหุ้นที่อยู่ในมือก่อนการควบรวมกิจการจะมีผลบังคับสิทธิ์ให้แปลงเป็นเงินสดมูลค่า 11.85 ดอลลาร์สหรัฐโดยอัตโนมัติ โดยไม่มีการหักดอกเบี้ยและคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายใดๆ เป็นจำนวนรวมประมาณ 230 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังการควบรวมกิจการ แรดวิชั่นจะดำเนินธุรกิจในฐานะบริษัทในเครืออวาย่า โดยอวาย่าเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดในทางอ้อม ภายใต้แบรนด์ “Radvision”
จากการบรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวทำให้อวาย่ามีความพร้อมจะนำเสนอ video collaboration solution ระบบแบบเปิดในราคาย่อมเยาว์และใช้งานง่าย ทั้งยังเหมาะสำหรับธุรกิจทุกขนาด การผนวกผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้ช่วยในจัดการแก้ปัญหาจากการใช้โซลูชั่นราคาแพง ซับซ้อน และไม่เชื่อมโยงกัน ซึ่งหลายกรณีเป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนมาใช้ระบบประชุมทางไกลผ่านวิดีโอในฐานะเครื่องมือสนับสนุน business collaboration ในปัจจุบัน ทั้งอวาย่าและแรดวิชั่นจะพัฒนาต่อยอดจากความสามารถในการทำงานร่วมกันระหว่างระบบ (interoperability) ที่มีอยู่แล้วในขอบข่ายผลิตภัณฑ์เพื่อให้มีการใช้งานระบบ video collaboration ทั้งภายในและภายนอกองค์กรให้ดียิ่งขึ้น โดยไม่จำกัดว่าระบบของผู้ใช้ปลายทาง (end-user) จะเป็นระบบใด ตั้งอยู่ที่ไหน หรือใช้อุปกรณ์ประเภทใดบ้าง
ระบบสื่อสารผ่านวิดีโอสำหรับบุคคลทั่วไป
ด้วยการผนวกผลิตภัณฑ์ของทั้งสองบริษัท อวาย่าสามารถนำเสนอคุณสมบัติบนเดสก์ทอปและโมบายวิดีโอ และสามารถเชื่อมต่อกับระบบการสื่อสารผ่านวิดีโอระบบอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการสื่อสารแบบ B2B และ B2C ที่ดียิ่งขึ้น
- การผนวกโซลูชั่นที่ผสานกันระหว่าง Avaya-Radvision ช่วยให้ลูกค้าสามารถนำมาปรับใช้กับผลิตภัณฑ์ประเภท standards-based (H.323) video conferencing products หรือเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานระบบสื่อสารผ่านวิดีโอที่รองรับมาตรฐาน H.323 ได้อย่างง่ายดาย วิธีการนี้ช่วยให้บริษัทต่างๆ ได้รับความคุ้มค่าในระยะยาว เมื่อพวกเขาพัฒนาสู่ระบบ SIP-based collaboration และ unified communications (UC) ที่ครบวงจรมากขึ้น
- สําหรับธุรกิจขนาดเล็กไปถึงขนาดกลาง (SMB) การผนวกผลิตภัณฑ์ดังกล่าวช่วยให้บริษัทสามารถซื้อและใช้งานได้ระบบสื่อสารผ่านวิดีโอได้ในราคาย่อมเยาว์ และช่วยในการสื่อสารแบบ B2B และ B2C โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับระบบที่องค์กรขนาดใหญ่เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้ในก่อนหน้านี้
มุ่งมั่นในการพัฒนาความสามารถในการทำงานระหว่างระบบ (Interoperability)
ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมาตลอด 20 ปี ของแรดวิชั่นด้านเทคโนโลยีการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอ และผนวกกับความมุ่งมั่นของทั้งสองบริษัทในการพัฒนาสถาปัตยกรรมระบบเปิดและมาตรฐานอุตสาหกรรม ทำให้อวาย่ามีความพร้อมนำเสนอระบบสื่อสารผ่านวิดีโอที่แตกต่าง ซึ่งโดดเด่นทั้งด้านความเรียบง่าย การใช้งานได้จริง และการทำงานร่วมกันได้ดีเยี่ยม (interoperability) ปัจจุบัน อวาย่าและแรดวิชั่นได้พัฒนาความสามารถในการทำงานร่วมกันระหว่าง SCOPIA? endpoints และเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานของแรดวิชั่น กับ Avaya Aura?, Avaya Flare? Experience on the Avaya Desktop Video Device และ Avaya UC 1000 series video endpoints
บริษัทจะนำเสนอการสาธิตชุดผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม video collaboration solutions ในงาน InfoComm 2012 ระหว่างวันที่ 9-15 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่ลาสเวกัส
คำกล่าว
"การเข้าซื้อกิจการของแรดวิชั่นครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนอวาย่าสู่สิ่งที่เราเชื่อว่าเป็น interoperable collaboration platform สำหรับธุรกิจในอุตสาหกรรมประเภทนี้เป็นรายแรก ผลจากธุรกรรมดังกล่าว ลูกค้าของอวาย่าสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จาก video collaboration ที่ใช้งานง่ายและมีคุณสมบัติครบครันยิ่งขึ้น โดยไม่จำกัดว่าพวกเขาจะกำลังใช้ระบบใดอยู่ในปัจจุบัน"
เควิน เจ. เคนเนดี้ ประธานและซีอีโอของอวาย่า
"การรวมกันของทั้งสองบริษัทถือเป็นย่างก้าวสำคัญของอุตสาหกรรม ด้วยการผนวกผลิตภัณฑ์ standards-based video ที่ครอบคลุมของแรดวิชั่น เข้าเป็นหนึ่งเดียวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ UC แบบระบบเปิดของอวาย่าซึ่งเป็นผู้นำในตลาด เราไม่เพียงเปลี่ยนวิถีของผู้ใช้ระบบ video conferencing เท่านั้น แต่ยังหมายถึงการนำเสนอระบบสื่อสารผ่านวิดีโอที่เข้าถึงได้รวดเร็วขึ้น ราคาย่อมเยาว์มากขึ้น และใช้งานได้สะดวกขึ้นอีกด้วย จากการควบรวมกิจการครั้งนี้ แรดวิชั่นได้ประโยชน์จากชื่อเสียงและทรัพยากรด้านการตลาดของอวาย่า ขณะที่อวาย่าขยายขอบข่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม UC ด้วย end-to-end video solution ในระบบเปิดที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึง mobile video application ที่ชาญฉลาด ครบครัน และยืดหยุ่น ซึ่งเราเชื่อว่าเหนือกว่าของคู่แข่ง"
โบซ ราวิฟ รองประธานและ Global Head ฝ่าย Avaya Video Portfolio ของแรดวิชั่น ในเครืออวาย่า
"ตลาด enterprise video conferencing กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และด้วยแนวโน้มการเติบโตเช่นนี้ เจ้าของผลิตภัณฑ์จำเป็นต้องตอบสนองความต้องการนี้ รวมถึงสภาพแวดล้อมของผู้ใช้ที่กำหนดรูปแบบการใช้ระบบสื่อสารผ่านวิดีโอส่วนใหญ่ในปัจจุบัน การรวมกันของอวาย่าและแรดวิชั่นช่วยให้มีความพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการองค์กรเหล่านี้ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ด้วยโซลูชั่นในกลุ่ม UC & C ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถควบคุมได้ว่าจะใช้คุณสมบัติขั้นสูงต่างๆ ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันได้อย่างไร"
ร็อบ อาร์โนล ผู้จัดการโครงการ จากฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน (Frost & Sullivan)