กรุงเทพฯ--29 มิ.ย.--แฟรนคอม เอเซีย
มร. เริ่น เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ จำกัดได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในงาน เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก อินเตอร์เนชั่นแนล อีโคโนมิค ฟอรัม เพื่อประกาศถึงเจตนารมณ์ของบริษัทในการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และการรับมือกับปัญหาความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ นอกจากนี้ มร. เริ่น ยังได้แสดงความสนใจในการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศรัสเซีย ก่อนจะประกาศยืนยันความตั้งใจที่จะทำการลงทุนเพิ่มเติมในตลาดไอซีทีของรัสเซียอีกด้วย
"กุญแจสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศนั้น คือโลกไซเบอร์สเปซ ซึ่งเป็นเสมือนอีกหนึ่งพื้นที่สำหรับการแข่งขัน ซึ่งมีลักษณะเปิดกว้างและแตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ โดยสิ้นเชิง" มร. เริ่นกล่าว "เราจะต้องนำเอาโลกแห่งข้อมูลข่าวสารนี้มาสร้างประโยชน์ให้แก่มวลมนุษยชาติ และเมื่อเราต้องเผชิญกับปัญหาอันเกิดจากความต้องการด้านข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมหาศาล เราก็ควรจะมีทัศนคติที่ดี มองหาโอกาสใหม่ๆ ที่จะพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวล้ำต่อไป แทนที่จะจับจดอยู่กับปัญหาหรือความวุ่นวายในปัจจุบัน"
หัวเว่ยคาดการณ์ว่าปริมาณข้อมูลที่ส่งผ่านระบบเครือข่ายต่างๆ ทั่วโลก จะเพิ่มสูงขึ้นถึงกว่า 75 เท่าตัวภายในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้านี้ โดยหากนับเฉพาะเครือข่ายจำพวกโมบาย บรอดแบนด์เพียงอย่างเดียวนั้น อัตราการเติบโตนี้จะพุ่งขึ้นเป็นกว่า 2,000 เท่าตัวเลยทีเดียว ซึ่งนั่นก็หมายความว่าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมจะต้องพัฒนาระบบเครือข่ายที่สามารถรับมือกับปริมาณข้อมูลในระดับนี้ได้ โดย มร. เริ่นได้กล่าวเสริมว่า "เราจะต้องคิดค้นระบบการรับส่งข้อมูลที่กว้างใหญ่ราวกับแม่น้ำหรือมหาสมุทร เพื่อให้การติดต่อสื่อสารต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องไม่ลืมว่าปริมาณข้อมูลในเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นนี้ ก็จะนำไปสู่ปัญหาด้านความปลอดภัยมากมาย ซึ่งเราทุกคนก็จำเป็นจะต้องร่วมมือกันแก้ไขอย่างแข็งขัน"
ทั้งนี้ หัวเว่ยได้เริ่มต้นเข้าลงทุนในประเทศรัสเซียเมื่อราว 15 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน หัวเว่ยได้มีส่วนร่วมในการร่วมพัฒนาสังคมของรัสเซีย และยังคงมีความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของประเทศ "ผมเชื่อว่าโอกาสในการร่วมลงทุนในประเทศรัสเซียนี้ ถือเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับทั้งสองฝ่าย และจะช่วยให้ประเทศรัสเซียสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศของตนให้เป็นไปตามเป้าหมายในระยะยาวได้" มร. เริ่นกล่าว
การเข้าลงทุนเพิ่มเติมในรัสเซียนี้ เป็นอีกก้าวหนึ่งของหัวเว่ยในการพัฒนาวงการไอซีทีในภูมิภาคยูเรเชีย โดยนอกจากการตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในจีน อินเดีย และรัสเซียแล้ว หัวเว่ยยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบโทรคมนาคมครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคฯ และศูนย์ฝึกอบรมตั้งอยู่ในประเทศไทย โดยแบ่งเป็นสามกลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจเครือข่ายโทรคมนาคม (Telecom Carrier) ธุรกิจกลุ่มเอ็นเตอร์ไพรส์ (Enterprise) และธุรกิจกลุ่มอุปกรณ์สื่อสาร (Device) บริษัทได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทั้งในระบบ 3G และ 4G ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มธุรกิจอุปกรณ์สื่อสาร เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ต แอร์การ์ด และสมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ ล่าสุด เปิดตัว “หัวเว่ย แอสเซนด์ พี 1” ขนาดบางที่สุด 7.69 มิลลิเมตร ภายในงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โมบาย โชว์ ณ ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายนถึง 1 กรกฎาคม 2555
เกี่ยวกับหัวเว่ย
หัวเว่ย เป็นผู้นำทางด้านโซลูชั่นเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ และสานความสัมพันธ์อย่างมั่นคงกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อมอบโซลูชั่นเครือข่ายโทรคมนาคม อุปกรณ์สื่อสารต่างๆ หรือแม้แต่ระบบคลาวด์ คอมพิวติ้งระดับคุณภาพที่มีประสิทธิภาพสูง ปฏิบัติงานได้อย่างครบวงจร และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้า ทั้งในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม กลุ่มลูกค้าองค์กร และผู้บริโภคทั่วไป ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นของหัวเว่ยเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ ในกว่า 140 ประเทศทั่วโลก หรือคิดเป็นจำนวนผู้ใช้บริการเท่ากับหนึ่งในสามของประชากรโลก
ผู้สนใจสามารถค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.huawei.com และติดตามข่าวคราวล่าสุดจากหัวเว่ยโดยตรงได้ทาง Twitter (www.twitter.com/huaweipress) และ YouTube (www.youtube.com/user/HuaweiPress)