มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) จัดงาน “ผลพลอยของพอเพียง” นำเสนอ “ถ่านอนามัย” เพื่ออาหารปิ้งย่างที่ดีต่อสุขภาพ

ข่าวทั่วไป Monday July 2, 2012 13:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ก.ค.--มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ นายกกิตติมศักดิ์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ทรงตระหนักถึงความสำคัญในการที่จะช่วยฟื้นฟูวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วมในช่วงปีที่ผ่านมา จึงได้เกิดโครงการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาชีพแก่ชุมชนที่เสี่ยงอุทกภัย ตามแนวทางพระราชดำริ “เศรษฐกิจพอเพียง” เนื่องในงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ภายใต้ชื่อโครงการ “ชุมชนเข้มแข็งผลิตอาหารรับประทานใน ๔๕ วัน” ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะเริ่มต้นให้เกิดการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง จนกระทั่งพัฒนาการสู่อาชีพที่มีรายได้ดี โดยจะต้องปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้ง สร้างความมั่นคงให้สังคม ทั้งในระดับครัวเรือนและในระดับชุมชน โครงการ “ชุมชนเข้มแข็งผลิตอาหารรับประทานใน ๔๕ วัน” เป็นความร่วมมือระหว่าง มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร , มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน โดยจัดให้มีกิจกรรมที่จะช่วยเหลือประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดความรู้ การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ รวมไปถึงการช่วยจัดหาแหล่งจำหน่าย ระบายสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อให้ประชาชนได้กลับมามีคุณภาพชีวิต มีความมั่นคงด้านอาหาร และมีอาชีพที่จะสร้างรายได้หล่อเลี้ยงชีวิตในระยะยาว รศ.ดร.นายแพทย์พิชิต สุวรรณประกร รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย กล่าวว่า ได้ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้ในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนจากอุทกภัย เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารและฟื้นฟูอาชีพแบบยั่งยืน โดยที่ผ่านมา การดำเนินโครงการ “ชุมชนเข้มแข็งผลิตอาหารรับประทานใน ๔๕ วัน” ซึ่งมี คุณมรกต พิธรัตน์ เป็นประธานคณะทำงาน โครงการชุมชนเข้มแข็งผลิตอาหารรับประทานภายใน 45 วัน และได้ริเริ่มให้ประชาชนได้ใช้ความรู้และเทคโนโลยี เข้ามาผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อใช้กินและใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน เมื่อมีเหลือใช้แล้ว ก็จะผลิตผลิตภัณฑ์นั้นๆ ออกมาวางจำหน่ายสร้างรายได้อีก ผลิตภัณฑ์หนึ่งที่เกิดขึ้นจากหลักเศรษฐกิจพอเพียง และสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดในการดำเนินโครงการฯ ได้อย่างชัดเจน ได้ทั้งผลผลิตบริโภคจำหน่ายได้และยังมีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งเรียกว่าผลพลอยของพอเพียง ซึ่งมีหลายผลิตภัณฑ์ด้วยกัน แต่ที่สำคัญคือ ผลิตภัณฑ์ “ถ่านอนามัย” ซึ่งเกิดจากกระบวนการผลิตที่นำความรู้และเทคโนโลยีไปถ่ายทอดให้ชาวบ้าน ซึ่งนอกจากจะได้ “ถ่านอนามัย” ที่มีคุณภาพสูงแล้ว ยังได้ “น้ำส้มควันไม้” ใช้ในการบำรุงพืชและลดศัตรูพืช นอกจากนี้ “น้ำส้มควันไม้กลั่น” ยังใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง และอาหารประเภทรมควันต่างๆ ซึ่งล้วนได้มาจากขบวนการผลิตถ่านอนามัย อันเป็นผลพลอยของพอเพียง ที่เกิดจากการพัฒนาทางการเกษตรแบบวิถีธรรมชาติและเกษตรอินทรีย์ เป็นต้น “ถ่านอนามัย” ถือเป็นนวัตกรรมอุตสาหกรรมสู่เชิงพาณิชย์ โดยเริ่มต้นจาก ผศ.ดร.นิคม แหลมสัก ร่วมกับ บริษัท ทรี โปรดักส์ จำกัด (Tree Products Co., Ltd) ได้ทำการวิจัย ปรับปรุงและพัฒนากระบวนการในการผลิตถ่านไม้ของไทย ให้ปราศจากสารก่อเกิดมะเร็งให้ความร้อนสูง แทบไม่มีเขม่าควัน จุดติดง่าย มีขี้เถ้าน้อย เพื่อให้ได้ถ่านไม้สะอาดคุณภาพสูงและมีความปลอดภัยต่อสุขภาพ ถ่านอนามัย มีรูปร่างต่างกับถ่านทั่วไป คือมีน้ำหนักเบา สามารถบดอัดเป็นแท่งหรือสามารถทำให้มี รูปร่างสวยงาม นำมาใช้ประดับได้ เนื่องจากมีการคัดขนาดจากไม้ยูคาลิปตัสเพียงชนิดเดียว อีกทั้งสามารถจับกับมลภาวะและเชื้อโรคได้ จึงเหมาะกับการสร้างอนามัยในห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องต่าง ๆ ในบ้าน รวมทั้งสถานที่ทำงานได้ด้วย ดังนั้นมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ ) ยามยาก สภากาชาดไทย จึงมีผลิตภัณฑ์ถ่านอนามัยเพื่อจำหน่าย 2 ชนิดด้วยกันคือ ชนิดแรกคือ ถ่านอนามัย PPP — CharKo เป็นถ่านอนามัยที่มีรูปร่างสวยงาม ใช้เพื่อปรับสภาพอากาศของที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน นำมาประดับได้และยังใช้ในการปิ้ง ย่างบาร์บีคิว และใช้ในการหุงต้มเพื่ออาหารปลอดภัย PPP — CharKo จะบรรจุอยู่ในกล่องสวยงาม สะดวกในการใช้งาน ชนิดที่สอง คือถ่านอนามัย PPP Grills เป็นถ่านอนามัยอัดแท่งสำหรับหุงต้ม ปิ้งย่าง เพื่ออาหารปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ถ่านอนามัย ที่มูลนิธิฯ จำหน่าย นอกจากจะช่วยเกษตรกร นำน้ำส้มควันไม้ที่ได้จากกระบวนการผลิตถ่านอนามัย ไปใช้ในการเกษตรวิถีธรรมชาติ และเกษตรอินทรีย์ตามแนวทางพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว ยังสามารถช่วยเป็นรายได้เสริมให้กับเกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ประสบภัยอุทกภัยที่มูลนิธิฯ ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือแบบยั่งยืน และยังช่วยให้ผู้ที่จะสนับสนุนมูลนิธิฯ ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า ปลอดภัย และเสริมสร้างอนามัยอีกด้วย มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ได้เริ่มต้นวางจำหน่าย “ถ่านอนามัย” และผลิตภัณฑ์ผลพลอยของพอเพียง ซึ่งได้จากการสร้างความมั่นคงทางอาหารจากการเกษตรอินทรีย์ และจากการดำเนินชีวิตแนวทางพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง โดยจะจำหน่ายภายใน กูเม่ ซุปเปอร์มาร์เก็ต สาขา เอ็มโพเรียม และ สยามพารากอน สำหรับผู้ที่ประสงค์จะเป็นตัวแทนจำหน่าย สามารถติดต่อได้ที่ ฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย โทรศัพท์ 02-256-4583-4 ในวันเวลาทำการ (จันทร์-ศุกร์) ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ คุณฐิติวัฒน์ ว่องวรรณกุล คุณประภาส จรสรัมย์ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย โทรศัพท์ 02-256-4583-4

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ