กรุงเทพฯ--2 ก.ค.--คิธ แอนด์ คินฯ
การรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องง่าย แค่ลงมือทำ แต่ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ต่างละเลย และบางคนคิดว่าการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องไกลตัว และอดทนต่อสภาวะโลกร้อนต่อไป โดยไม่คิดแก้ไข แต่ที่โรงเรียนบ้านวังบัวทอง โรงเรียนเล็ก ๆ แห่งหนึ่งใน จ.ปราจีนบุรี ซึ่งมีนักเรียนแค่ 30 คน เด็ก ๆ และคุณครู สามารถพิสูจน์ให้สังคมเห็นแล้วว่า ทุกคนก็สามารถช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมได้ง่าย ๆ โดยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโลกใบนี้
ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย, ธนาคารกรุงไทย, อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ และบริษัทสยามดนตรียามาฮ่า จำกัด ร่วมกันจัดกิจกรรม “ปลูกต้นกระดาษ ปลูกปัญญาโรงเรียนในชนบท ปี 3” ที่โรงเรียนบ้านวังบัวทอง จ.ปราจีนบุรี เพื่อส่งเสริมจิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติให้เยาวชน เพราะเด็กเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญให้ชาติในวันหน้า ดังนั้นการปลูกฝังจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม จึงเป็นอีกหนึ่งแนวคิดนอกเหนือจากการศึกษาในห้องเรียน ที่เราทุกคนควรปลูกฝังให้เยาวชนไทย โดยมี 4 สาวงามใจดี ที่เพิ่งได้รับตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ และรองมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์อีก 3 คน มาร่วมกันปลูกต้นไม้
นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ ผู้ริเริ่มโครงการนี้ กล่าวว่า กิจกรรม “ปลูกต้นกระดาษ ปลูกปัญญาโรงเรียนในชนบท” เป็นโครงการที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปีพ.ศ.2550 ปัจจุบันนับเป็นปีที่ 3 แล้วที่ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งเสริมให้โรงเรียนรู้จักใช้พื้นที่ว่างเปล่าให้เกิดประโยชน์กลายเป็นพื้นที่สีเขียว มีต้นไม้ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยลดโลกร้อน และเป็นการสร้างทุนพัฒนาการศึกษาแบบพึ่งตนเองอย่างยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมา มีโรงเรียนเข้าร่วมแล้ว 160 โรง และปลูกต้นไม้ไปแล้วรวม 80,000 ต้น สามารถลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 4,800 ตัน”
สำหรับโครงการในปีก่อน นับว่าประสบผลสำเร็จอย่างมาก โดยมีโรงเรียนสมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 1,000 โรงเรียนทั่วประเทศ และมีโรงเรียนต้นแบบคือ โรงเรียนโคกกระท้อน จ.ปราจีนบุรี และโรงเรียนบ้านเจาทอง จ.ชัยภูมิ ที่นำต้นกระดาษมาปลูกตามพื้นที่ว่างของโรงเรียน นอกเหนือจากการปลูกพืชผักสวนครัว เป็นการเกษตรแบบผสมผสาน ทำให้โรงเรียนเกิดความร่มรื่น และเมื่อต้นไม้เติบโตจนสามารถตัดมาจำหน่ายได้ โรงเรียนก็นำรายได้จากโครงการมาสร้างประโยชน์ ทั้งการต่อเติมอาคารเรียน การปรับสนามบอล และการซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์
จากความสำเร็จในการจัดโครงการปีก่อน ทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ จัดโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง โดยกำลังเปิดรับสมัครโรงเรียนเข้าร่วมโครงการเพิ่มอีก 80 โรง เพื่อรับต้นกระดาษจำนวน 500 ต้นไปปลูกในพื้นที่ว่างที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และในปีนี้ด้วยความสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดี ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย, อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ และบริษัทสยามดนตรียามาฮ่า จำกัด ทำให้ทางโครงการฯ สามารถมอบหนังสือพร้อมตู้หนังสือเพื่อเข้าห้องสมุดโรงเรียน และมอบเครื่องดนตรี เพื่อร่วมเป็นแหล่งปลูกปัญญาให้กับโรงเรียนอีกทางหนึ่ง
โครงการฯได้เริ่มนำร่องสนับสนุนให้โรงเรียนบ้านวังบัวทอง จ.ปราจีนบุรี เป็นตัวอย่างแรกใน กิจกรรม “ปลูกต้นกระดาษ ปลูกปัญญาโรงเรียนในชนบทปี 3” โดยกิจกรรมวันนั้นเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เพิ่มเติมด้วยสีสันความสวยและความมีชีวิตชีวา จากเหล่ามิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ และรองฯทั้ง 3 คน ที่มาร่วมทำกิจกรรมปลูกต้นกระดาษร่วมกัน ซึ่งเด็ก ๆ และผู้ปกครองต่างดีใจที่ได้พบสาวสวย และเตรียมการแสดงไว้ต้อนรับทีมงานดั๊บเบิ้ล เอ, ตัวแทนจากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย, และสาวงาม ที่กำลังเตรียมความพร้อมไปประชันโฉมในเวทีโลก ด้วยการแสดงชุดอาเซียน ซึ่งในวันนั้นเด็ก ๆ ดีใจเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมกิจกรรมทั้งการปลูกต้นไม้ และได้รับหนังสือสนุก ๆ และน่าอ่านจากโครงการฯ อีกด้วย เพราะห้องสมุดสำหรับโรงเรียนเล็ก ๆ ในชนบทแล้ว แทบจะไม่มีหนังสือดี ๆ ที่น่าสนใจสำหรับเด็ก ๆ เลย
เด็กหญิงมนัสนันท์ บัวภา หรือ น้องแพรว นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านวังบัวทอง กล่าวว่า “รู้สึกสนุกและดีใจมากที่พี่ๆมาเยี่ยมที่โรงเรียน หนูยังไม่เคยปลูกต้นกระดาษมาก่อน เพิ่งจะเคยเห็นต้นนี้ครั้งแรก และหนูอยากจะปลูกกับพี่ๆนางงามด้วยค่ะ” น้องแพรวกล่าวจบก็รีบวิ่งไปสมทบเพื่อนๆที่กำลังเดินไปปลูกต้นกระดาษในพื้นที่ว่างของโรงเรียน
หลังจากกิจกรรมปลูกต้นกระดาษ ที่บ่มเพาะให้เด็กรู้จักดูแลรักษาธรรมชาติเสร็จสิ้น ก็เป็นช่วงเวลาเล่นเกมปลูกฝังจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยพี่ๆทีมงานดั๊บเบิ้ล เอ ที่ขนเอาความฮามาพร้อมสาระความรู้เต็มอิ่ม เรียกได้ว่า ทำเอาคุณครูยังอยากจะมาร่วมวงเล่นเกมด้วยเลยทีเดียว เกมแรกที่ทีมงานคัดสรรมาคือ งองูเป่ายิ้งฉุบ ที่ให้น้องๆกระโดดตามจังหวะเสียงเพลง เพื่อให้น้องๆผ่อนคลายและแบ่งกลุ่มเตรียมความพร้อมในการเล่นเกมเสริมความรู้ขั้นต่อไป หลังจากนั้นจึงเป็นเกมฮิปโป ท่ามกลางโลกละลาย โดยให้น้องแต่ละกลุ่มเต้นท่าฮิปโป และหาทางยืนบนกระดาษให้ได้จำนวนคนมากที่สุด หลังจากนั้น กระดาษจะถูกพับให้เล็กลงเรื่อยๆ เพื่อเปรียบเสมือนพื้นผิวดินบนโลกของเรา เมื่อแต่ละคนไม่รักษาธรรมชาติ เมื่อน้ำแข็งละลายจากภาวะโลกร้อน พื้นที่ที่เราจะสามารถอยู่อาศัยได้บนโลกใบนี้ก็น้อยลงเรื่อยๆ จนไม่พออยู่ในที่สุด
หลังจากนั้น ดร.อุรัจฉวี อุณหเลขกะ เจ้าหน้าที่วิชาการ ระดับ 4 สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ได้บอกเล่าให้เด็ก ๆ ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ว่าปัจจุบันโลกของเราถูกห่มด้วยผ้านวม ทำให้โลกเราร้อนขึ้นๆ ดังนั้นวิธีลดคาร์บอนไดออกไซด์ที่ดีที่สุดคือ การปลูกต้นไม้ใหม่ และการดูแลต้นไม้เก่าให้อยู่ยั่งยืน ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยเริ่มจากตนเอง อย่างเวลารับประทานอาหารก็ช่วยกัน กินข้าวให้หมดจาน ดื่มน้ำหมดแก้ว เพราะข้าวและน้ำก็นับเป็นทรัพยากรธรรมชาติเช่นกัน และเมื่อเราทำได้แล้ว ก็ช่วยถ่ายทอดไปสู่คนรอบข้าง ให้ช่วยดูแลโลกไปด้วยกัน
และเกมสุดท้ายเป็นการฝึกให้เด็ก ๆ รู้จักกล้าแสดงออก เสนอความคิดลดโลกร้อน ชิงรางวัลอุปกรณ์เครื่องเขียน ซึ่งเด็ก ๆ ต่างแย่งกันตอบอย่างสนุกสนาน และบอกใบ้เพื่อน ๆ ให้ตอบกันอีกด้วย ซึ่งเด็ก ๆ โรงเรียนนี้ นอกจากจะรอบรู้แล้วยังมีจิตสาธารณะสนใจรักษ์ธรรมชาติกัน กิจกรรม “ปลูกต้นกระดาษ ปลูกปัญญาโรงเรียนในชนบทปี 3” ในวันนี้ จึงช่วยปลูกรอยยิ้มให้เด็กและชุมชน พร้อมทั้งปลูกความสุขให้โลกได้ร่มเย็น
และก่อนจะแยกย้ายกันกลับ นางสาวณัฐพิมล นาฏยลักษณ์ หรือ น้องริด้า มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2012 ได้ให้ข้อคิดเด็ก ๆ ไว้ว่า “โลกใบนี้จะสวยได้ด้วยมือเรา ริด้ามี 2 มือ คงไม่สามารถทำให้โลกสวยได้ แต่ริด้าเชื่อว่า คนไทย 60 ล้านคน 120 ล้านมือ สามารถทำให้โลกใบนี้สวยได้แน่นอนค่ะ อยากให้ทุกคนช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมนะคะ”
สำหรับโรงเรียนที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.CSR.DoubleAPaper.com และส่งใบสมัครมาที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) เลขที่ 187/3 หมู่ 1 ถนนบางนา-ตราด กม.42 ตำบลบางวัว อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา 24180 และวงเล็บมุมซองว่า “โครงการปลูกต้นกระดาษ ปลูกปัญญาโรงเรียนในชนบท ปี 3” หมดเขตรับสมัคร ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2555 (ถือตราประทับไปรษณีย์) สอบถามรายละเอียดได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร. 085 835 3214, 085 835 3077 หรือสายด่วนดั๊บเบิ้ล เอ โทร.1759 กด 5 คุณและสองมือของคุณก็มีโอกาสช่วยกันสร้างโลกนี้ให้ร่มเย็นน่าอยู่ตลอดไป