กรุงเทพฯ--3 ก.ค.--สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือนพฤษภาคม 2555 มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น ทั้งจากการใช้จ่ายภายในประเทศ การส่งออกและด้านการผลิต ขณะที่เสถียรภาพทางเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า “เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือนพฤษภาคม 2555 บ่งชี้เศรษฐกิจไทยในเดือนพฤษภาคม 2555 มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน สะท้อนจากการส่งออกที่กลับมาขยายตัวเป็นบวกอีกครั้งหลังจากที่หดตัวในรอบ 2 เดือน โดยกลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 7.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นในเกือบทุกหมวดสินค้าและประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะประเทศจีน ออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย ในขณะที่การใช้จ่ายภายในประเทศปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่า เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนวัดจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือนพฤษภาคม 2555 ขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ร้อยละ 137.5 สอดคล้องกับยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.7 จากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับการลงทุนภาคเอกชนก็มีสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนที่ขยายตัวได้ดีร้อยละ 21.3 และปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่ขยายตัวได้ในระดับสูงถึงร้อยละ 85.8 นอกจากนี้ การลงทุนภาคเอกชนในหมวดก่อสร้างที่วัดจากภาษีที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวร้อยละ 14.0 เพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 4.3 บ่งชี้ถึงการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ
นายบุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า “ในด้านการผลิตประจำเดือนพฤษภาคม 2555 มีสัญญาณฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเบื้องต้นกลับมาขยายตัวเป็นบวกเป็นครั้งแรก หลังจากสิ้นสุดวิกฤตอุทกภัยที่เกิดขึ้นช่วงปลายปี 2554 โดยขยายตัวร้อยละ 5.5 ขณะที่เดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -0.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เช่นเดียวกับดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรที่กลับมาขยายตัวอีกครั้งร้อยละ 7.3 จากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -0.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะหมวดพืชผล ขยายตัวร้อยละ 8.0 ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าและปาล์มน้ำมันสำหรับหมวด ปศุสัตว์ก็ขยายตัวร้อยละ 3.5 จากสุกร และไก่ เป็นสำคัญ สำหรับเครื่องชี้ภาคบริการที่สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศมีการขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 8.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทางด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ พบว่า ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่มั่นคงแม้ว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าแต่ยังอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 1.0 ของกำลังแรงงาน เนื่องจากมีแรงงานที่พึ่งจบการศึกษาเข้าตลาดแรงงาน ในขณะที่ทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูงกว่า 171.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนถึงเสถียรภาพภายนอกที่อยู่ในระดับแข็งแกร่งสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้”
ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวสรุปว่า “เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในเดือนพฤษภาคม 2554 บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจไทยที่ มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นหลังจากสิ้นสุดวิกฤติอุทกภัยเมื่อปลายปี 2554 อย่างไรก็ตาม ในระยะต่อไปนี้จะต้องติดตามสถานการณ์วิกฤติหนี้ยุโรปอย่างใกล้ชิด ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี”