เกี่ยวกับงานสร้าง

ข่าวบันเทิง Tuesday July 3, 2012 11:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ก.ค.--เอ็ม พิคเจอร์ส โรมเป็นเมืองที่ไม่เหมือนเมืองอื่นใดในโลก การอยู่ในกรุงโรมคือการถูกห้อมล้อมไปด้วยอนุสรณ์สถานที่เงียบงันของอารยธรรมโบราณพร้อมไปกับการได้สัมผัสความอึกทึกครึกโครมของนครหลวงสมัยใหม่ ที่อุดมไปด้วยชีวิตชีวา โรมเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของอดีตและปัจจุบัน เป็นศูนย์รวมที่น่าตื่นเต้นของวัฒนธรรม ศิลปะและอาหารที่พิเศษสุด “การเคลื่อนไหวและกิจกรรมโดยมากในกรุงโรมเกิดขึ้นกลางแจ้ง ในร้านอาหารเล็กๆ และท้องถนนครับ” วู้ดดี้ อัลเลนกล่าว “มันเป็นเมืองที่แค่ได้เดินเข้าไปก็น่าทึ่งแล้ว ตัวเมืองนี้เองเป็นงานศิลปะโดยแท้ครับ” โรมเป็นเมืองของคนชั้นสูงและทันสมัย รวมไปถึงคนที่อนุรักษ์นิยมมากๆ ด้วย มันดึงดูดนักท่องเที่ยวหลากหลายประเภท ตั้งแต่นักธุรกิจไปจนถึงนักท่องเที่ยว ซึ่งทุกคนผ่านเข้าออกกรุงโรม พร้อมไปกับการดื่มด่ำกับความหฤหรรษ์ของเมืองแห่งนี้ สำหรับอัลเลน มันเป็นสถานที่ที่กว้างใหญ่ไพศาลเกินกว่าจะมีพล็อตเกิดขึ้นเพียงหนึ่งเรื่องได้ “ผมรู้สึกว่ากรุงโรมเป็นสถานที่สำหรับเรื่องราวที่หลากหลาย” เขากล่าว “มันเต็มไปด้วยความเป็นไปได้มากมาย ถ้าคุณหยุดคุยกับคนโรมซักร้อยคน พวกเขาก็จะบอกคุณว่า 'ผมมาจากในเมือง ผมรู้จักเมืองนี้ดี ผมเล่าเรื่องให้คุณฟังได้เป็นล้านๆ เรื่องเลย' น่ะครับ” ลีโอโปลโด้ พิซาเนลโล (โรเบอร์โต้ เบนิญี่) เป็นชาวกรุงโรมธรรมดาๆ ผู้จู่ๆ ก็พบว่าตัวเองกลายเป็นหนึ่งในคนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในโรมไปอย่างหาสาเหตุไม่ได้ “ลีโอโปลโด้ไม่มีพรสวรรค์ใดๆ เลย เขาเป็นคนธรรมดาๆ นี่เอง” อัลเลนกล่าว “เขาไม่รู้เลยว่าทำไมเขาถึงกลายเป็นคนดัง เขารู้ดีทีเดียวว่าเขาไม่ใช่คนดัง ตอนแรก ลีโอโปลโด้รู้สึกงุนงงและรำคาญความสนใจที่เขาได้รับ ก่อนที่เขาจะเริ่มชอบสิ่งเหล่านี้ โดยที่เขาเองก็ไม่ทันรู้ตัวด้วซ้ำ” เบนิญี่กล่าว “ก่อนหน้าที่เขาจะดัง ลีโอโปลโด้ก็แฮปปี้ มีความสุขดี เขาใช้ชีวิตอย่างปกติสุข แต่เมื่อความปกตินั้นถูกรบกวน เขาก็สับสนงุนงง และพยายามทำความเข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่” อย่างไรก็ดี มันก็มีรอยร้าวในโลกที่ดูเหมือนจะสงบสุขของลีโอโปลโด้ก่อนหน้าที่ความโด่งดังจะก้าวเข้าสู่ชีวิตเขา ซึ่งที่ชัดเจนที่สุดคือตอนที่เขามองสาวสวยในออฟฟิศของเขาอย่างโหยหา “เขาไม่มีโอกาสได้ควงผู้หญิงระดับนั้นหรอกครับและเขาก็รู้ตัวดี” อัลเลนบอก “ไม่มีแคร์ว่าเขาจะพูดอะไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนังที่เขาไปดู หรือว่าเขาคิดว่าชาวจีนจะยึดครองโลกรึเปล่า แน่นอนว่าสาวสวยแบบนั้นเกินเอื้อมสำหรับเขาอยู่แล้ว จนกระทั่งจู่ๆ ทุกอย่างก็เป็นไปได้” เมื่อปาปารัสซี่เริ่มสะกดรอยตามเขา ไม่นานนัก ลีโอโปลโด้ก็ตระหนักว่าทุกอย่างที่เขาปรารถนาพร้อมรอเขาอยู่แล้ว “คุณจะถูกยั่วยวนโดยชื่อเสียงครับ” อัลเลนบอก “มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป ชื่อเสียงทำให้คุณมีโอกาสมากมายที่คนทั่วไปไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัส ดังนั้น ชื่อเสียงก็เหมือนยาเสพติดที่เย้ายวน และมันก็เวิร์คสำหรับเขาครับ” ขณะที่ลีโอโปลโด้มีความสุขกับการเป็นจุดสนใจและสาวงามมากหน้าหลายตาที่สยบแทบเท้าเขา เขาก็รู้สึกเบื่อหน่ายกับเรื่องอื่นๆ ที่มาพร้อมกับชื่อเสียงที่ไม่ทันตั้งตัวของเขาด้วย “คุณจะต้องปล่อยวางจากความเป็นส่วนตัว คุณจะถูกติดตามเสมอและทุกอย่างที่คุณทำก็จะถูกพินิจพิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วนครับ” อัลเลนกล่าว โรเบอร์โต้ เบนิญี่ ซูเปอร์สตาร์ตัวจริงในอิตาลี เข้าใจดีว่าประสบการณ์ที่ลีโอโปลโด้ได้เจอนั้นเป็นอย่างไร “ความฝันของผมคือการได้เดินตามท้องถนนตามปกติ ได้ดูผู้คน ได้ดื่มกาแฟ กินพิซซ่า คุยกับเพื่อนๆ ผมสูญเสียส่วนนั้นของชีวิตไปและผมก็ทำแบบนั้นไม่ได้ แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นแบบนี้อีกต่อไปแล้ว ผมก็คงต้องกังวลแน่ๆ...มันเป็นความรู้สึกขัดแย้งน่ะครับ” อัลเลนกล่าวว่า “แม้ว่าการเป็นคนดังจะมีข้อเสียมากมาย ผมคงต้องบอกว่าข้อดีมันมากกว่าข้อเสียครับ คุณสามารถใช้ชีวิตกับเรื่องพวกนั้นได้เพราะสิ่งที่คุณได้รับมาเป็นการแลกเปลี่ยนคือสิ่งดีๆ มากมายครับ” ผู้ที่ตรงข้ามกับลีโอโปลโด้อย่างสิ้นเชิงคือจิอันคาร์โล (ฟาบิโอ อาร์มิลิอาโต้ นักร้องเทเนอร์ชื่อดัง) ชายผู้มีพรสวรรค์ แต่กลับไม่มีใครรู้จักเขา จิอันคาร์โล ผู้เป็นนักร้องโอเปราเสียงทอง ร้องเพลงเพื่อความสุขของตัวเองเท่านั้น เขาไม่เคยลองร้องเพลงท่ามกลางสาธารณชนมาก่อน “เราไม่รู้หรอกครับว่าอะไรเป็นตัวกระตุ้นศิลปิน” อัลเลนกล่าว ถ้าเพียงแต่สถานที่เดียวที่เชคสเปียร์สามารถเขียนงานได้คือการนั่งอยู่บนเก้าอี้กลางถนนสายที่ 42 ไม่ว่าด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เราจะเข้าใจได้ จิอันคาร์โลสามารถร้องเพลงได้ภายใต้สถานการณ์ที่พิเศษมากๆ เท่านั้น” จิอันคาร์โลดูเหมือนจะไม่แคร์ชื่อเสียง แต่การได้พบกับเจอร์รี่ (วู้ดดี้ อัลเลน) พ่อตาในอนาคตของลูกสาวเขา ก็เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เจอร์รี่ อดีตผู้กำกับละครโอเปรา ผู้รู้สึกอึดอัดกับการใช้ชีวิตหลังเกษียณ รู้สึกว่าเขาไม่เคยสร้างผลงานที่โดดเด่นจริงๆ ให้กับโลกใบนี้เลย “เขาทดลองสิ่งแปลกใหม่ แต่มันก็ไม่เวิร์ค และเขาก็ไม่เคยได้รับชื่อเสียงหรือการยอมรับอย่างที่เขาต้องการเลยล่ะครับ” อัลเลนกล่าว “เขาหงุดหงิด และเมื่อเขามีโอกาสจะหาประโยชน์จากพรสวรรค์ของจิอันคาร์โลได้ เขาก็ฉวยมันไว้ครับ” ในตอนแรก เจอร์รี่จะต้องเอาฝ่าฟันอุปสรรคในรูปแบบของ มิเกลันเจโล (ฟลาวิโอ พาเรนติ) ลูกชายซ้ายจัดของจิอันคาร์โลและลูกเขยในอนาคตของเขา ผู้ค้านไอเดียของการที่พ่อผู้ถ่อมตัวของเขาจะถูกผลักดันโดยเจอร์รี่เข้าสู่โลกของความบันเทิงสาธารณะอย่างรุนแรง มิเกอันเจโลที่เป็นห่วงพ่อ ไม่ทันนึกถึงความต้องการที่แท้จริงของพ่อเขาเลย อัลเลนกล่าวว่า “ผมคิดว่าคนที่มีพรสวรรค์จริงๆ ก็ต้องได้รับการปลดปล่อยออกมา ไม่ช้าก็เร็ว คุณก็อยากจะถ่ายทอดมันออกมา ผมมั่นใจว่าจิอันคาร์โลก็เหมือนกับทุกคน เขาอยากให้คนอื่นได้ยินเสียงของเขาและได้สัมผัสกับช่วงเวลาแห่งการเปิดเผย ที่เขาร้องเพลงและคนจะประทับใจไปกับเพลงของเขาน่ะครับ” ในขณะที่ มิลลี่ (อเลสซานดรา มาสโทรนาร์ดี้) อีกหนึ่งตัวละครใน TO ROME WITH LOVE แม้จะไม่มีพรสวรรค์พิเศษอะไร แต่เธอก็ได้พบกับนักแสดงผู้มีพรสวรรค์ มิลลี่มาจากเมืองในชนบท เดินทางเข้ามาในกรุงโรมพร้อมกับสามีที่เพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆ ของเธอ แอนโตนิโอ (อเลสซานโดร ทิเบรี่) เพื่อค้นหาชีวิตใหม่ในเมืองใหญ่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความประทับใจที่พวกเขาสามารถสร้างให้กับญาติผู้ร่ำรวยของแอนโตนิโอ ผู้สามารถมอบงานระดับสูงให้กับเขาได้ ด้วยความพยายามที่จะทำตัวให้ดูดีที่สุด มิลลี่ก็เลยไปหาช่างทำผม แต่เธอกลับหลงทางในถนนที่วกวนราวเขาวงกตในกรุงโรม ในขณะเดียวกัน แอนโตนิโอที่อยู่ในห้องโรงแรมก็ต้องตกใจกับการปรากฏกายของแอนนา (เพเนโลเป้ ครูซ) นางโทรศัพท์ผู้หลงผิดคิดว่าเธอถูกจ้างมาให้มีเซ็กส์กับเขา แอนโตนิโอ ที่ปฏิเสธอย่างหัวเด็ดตีนขาด จู่ๆ ก็พบว่าตัวเองถูกดันลงบนเตียง และในตอนที่พวกเขากำลังมีท่าทางเหมือนเข้าด้ายเข้าเข็มกันอยู่นี้นี่เองที่ญาติของเขาเดินเข้ามาในห้องโรงแรม คำอธิบายเดียวที่แอนโตนิโอสามารถคิดขึ้นได้ในตอนนั้นคือแอนนาคือมิลลี่ ภรรยาของเขา ด้วยความสงสารเขาและค่าตัวเธอก็ถูกจ่ายมาแล้วสำหรับทั้งวัน แอนนาตกลงที่จะรับมุขไปกับเรื่องราวของเขา และญาติของเขา แม้ว่าจะแปลกใจที่แอนโตนิโอแต่งงานกับสาวเซ็กส์บอมบ์ ก็ดูเหมือนจะเชื่อคำโกหกนี้ แม้ว่าแอนนาจะเต็มใจพูดว่าเธอเป็นภรรยาของแอนโตนิโอ แต่ก็ไม่ได้หมายควาว่าเธอจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง ซึ่งนำมาสู่สถานการณ์น่าขบขันมากมาย ครูซกล่าวว่า “แอนนาเป็นคนทำอะไรตามใจตัวเองมากๆ ค่ะ เธอไม่ได้มีตัวกรองพฤติกรรมทางด้านสังคมในความคิดเลย ดังนั้น เธอก็เลยพูดทุกอย่างตามที่เธอรู้สึกโดยไม่กังวลถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาเลย” ในขณะเดียวกัน ในขณะที่มิลลี่กำลังพยายามหาทางกลับโรงแรม เธอก็พบกับดาราภาพยนตร์สองคน เพีย ฟูซารี่ (ออร์เนลลา มูตี้) และไอดอลของเธอ ลูก้า ซัลต้า (แอนโตนิโอ อัลบานิส) มิลลี่อึ้งไปเลยเมื่อซัลต้าชวนเธอไปรับประทานอาหารมื้อเที่ยงด้วยกัน ก่อนจะชวนเธอไปห้องในโรงแรมของเขา “เมื่อเด็กสาวสวยไปหาดาราหนังซักคนแล้วบอกว่า 'ฉันดูหนังทุกเรื่องของคุณและฉันก็คลั่งไคล้คุณมาก' เขาก็มีแนวโน้มสูงมากๆ ที่จะสามารถพาเด็กสาวคนนั้นขึ้นเตียงได้เพราะงานเสร็จไปสามในสี่ส่วนแล้วครับ” อัลเลนบอก เมื่อแอนโตนิโอออกไปรับประทานอาหารเที่ยงกับแอนนาและครอบครัวของเขา เขาก็ตะลึงเมื่อเห็นมิลลี่นั่งอยู่ที่โต๊ะอีกตัวหนึ่ง และถูกจีบโดยซัลต้า ซึ่งมันก็เปลี่ยนภาพลักษณ์ของเธอที่เขามองว่าเธอเป็นเด็กสาวบริสุทธิ์ ไร้เดียงสาไป หลังจากนั้น ในงานปาร์ตี้สำหรับสังคมชั้นสูงในโรม แอนโตนิโอพบว่าแอนนาเองก็มีความดังอยู่ในระดับหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ได้เลิศหรูเท่ากับลูก้า ซัลต้า นักธุรกิจระดับแนวหน้าของกรุงโรมหลายคนดูเหมือนจะรู้จักเธอดี และเรียงแถวกันเข้ามานัดหมายกับเธอ ภายหลัง ระหว่างเดินเล่นอยู่ในสวนที่กว้างขวางระหว่างงานปาร์ตี้ แอนนาก็ถามแอนโตนิโอถึงการแต่งงานของเขา เธอเย้ยหยันคำอธิบายของเขาที่ว่ามิลลี่เป็นเหมือน “แม่พระ” และบอกว่าแอนโตนิโอต่างหากที่เป็นคนไร้เดียงสาตัวจริง ด้วยวิธีเฉพาะตัวของเธอเอง แอนนาได้ช่วยให้แอนโตนิโอได้ตระหนักถึงตัวตนของเขามากขึ้น “แอนนามองงานของเธออย่างซีเรียสและหยิ่งทะนงกับงานนี้ด้วยค่ะ” ครูซบอก “เธอเชื่อว่าบริการของเธอเป็นการบำบัดและเธอก็ได้ทำความดีเพื่อสังคมอย่างมากด้วย” ระหว่างที่เขามาพักผ่อนในกรุงโรม จอห์น (อเล็กซ์ บัลด์วิน) สถาปนิกชื่อดังชาวอเมริกัน ได้สำรวจถิ่นเดิมที่เขาเคยพักอาศัยสมัยที่เขาเป็นนักศึกษาอยู่ ณ ที่นั้น เขาได้พบกับแจ็ค (เจสซี่ ไอเซนเบิร์ก) นักศึกษาสถาปัตย์ฯหนุ่ม ผู้จำจอห์นได้จากภาพถ่ายในหนังสือพิมพ์และเชิญเขาไปอพาร์ทเมนต์เพื่อดื่มกาแฟกับแซลลี่ (เกรต้า เกอร์วิก) แฟนสาวของเขา ไม่นานนัก จอห์นก็ตระหนักว่าเขาอาจจะเคยอยู่ในอาคารหลังเดียวกับที่แจ็คอยู่ก็เป็นได้ แซลลี่เล่าให้แจ็คฟังว่า โมนิก้า (เอลเลน เพจ) เพื่อนนักแสดงของเธอ เพิ่งเลิกกับแฟน และกำลังมาที่โรมเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ แซลีพูดถึงโมนิก้าว่าเป็นคนเซ็กซี่ ฉลาด เจ้าอารมณ์และตลก เป็นคนที่หนุ่มๆ รุมตอม เกอร์วิกเล่าว่า “ฉันคิดว่าแซลลี่วิตกเรื่อง โมนิก้า แต่เธอคิดว่าถ้าเธอเผยความกลัวทั้งหมดของเธอตั้งแต่ต้น 'ฉันอยากจะพูดทุกเรื่องที่ฉันกังวล' มันก็จะเป็นเหมือนเครื่องราง ที่จะทำให้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น” จอห์นเตือนแจ็คไม่ให้ตกหลุมรักโมนิก้า “เขาอาจรู้ว่าแจ็คจะไม่ฟังเขาหรอก” บัลด์วินบอก “แต่เขาก็ยังพยายาม แจ็คกำลังมุ่งหน้าสู่เส้นทางหายนะ มันเหมือนกับแจ็คกำลังขับรถ และจอห์นก็อยากให้เขาไปให้พ้นจากถนนเส้นนั้นน่ะครับ” ไอเซนเบิร์กกล่าวว่า “การที่จอห์นให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แบบคนอาบน้ำร้อนมาก่อนกลับทำให้แจ็คยิ่งมีความกล้ามากขึ้น มันทำให้เขามีความตั้งใจแรงกล้าขึ้นที่จะไขว่คว้าโมนิก้าน่ะครับ” แน่นอนว่ามันมีเรื่องของการที่จอห์นมองเห็นแจ็คเป็นตัวเองสมัยหนุ่มๆ ในกรุงโรม และเรื่องราวของแจ็คก็เป็นเหมือนประสบการณ์ของจอห์นในอดีต ที่ตอนนี้เขามองเห็นและเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาเคยโง่มากแค่ไหนและความรักที่เขาต่อโมนิก้าช่างตื้นเขินและไร้ค่าแค่ไหน แต่ความต้องตาพึงใจก็มีชัยเหนือเหตุผล โมนิก้าไม่รีรอที่จะรักษาชื่อเสียงของตัวเองด้วยการหว่านเสน่ห์ใส่แจ็คด้วยการเผยรายละเอียดเรื่องเซ็กส์ที่สุดเหวี่ยงและไม่ธรรมดา รวมถึงความรู้ด้านศิลปะที่ดูเหมือนจะกว้างขวางของเธอให้เขาฟัง “โมนิก้าเป็นอิสระ และไร้พันธะในตอนนี้ และฉันคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์มากๆ สำหรับหลายๆ คน” เพจกล่าว “บางที อาจเป็นเพราะเราต่างก็อยากจะรู้สึกเป็นอิสระ แต่ท้ายที่สุดแล้ว คนอย่างเธอก็ไม่ได้เป็นคู่ชีวิตที่ดีเสมอไปเพราะมันไม่ได้มีความมั่นคงนักน่ะค่ะ” อัลเลนกล่าวว่า “คุณไม่สามารถล่ามโซ่คนอย่างโมนิก้าไว้ได้หรอกครับ พวกเขามีเสน่ห์เกินไป ทุกคนต้องการพวกเขาและพวกเขาก็รู้เรื่องนั้นตั้งแต่แรกแล้ว การมีความสัมพันธ์มั่นคงระยะยาวกับคนแบบนั้นเป็นเรื่องยากมากๆ” แม้ว่าจอห์นพยายามทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อเตือนแจ็ค แต่สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ก็เกิดขึ้นและเขาก็ยอมจำนนให้กับเสน่ห์ของโมนิก้า “เขาอยู่ในฟองสบู่ของความรักหนุ่มสาวครับ ดังนั้นเขาก็เลยถูกดึงดูดเข้าหาเธอ” ไอเซนเบิร์กกล่าว “เธอสนใจเรื่องตัวเองมากๆ และความสนใจตัวเองของเธอก็ทำให้เธอน่าสนใจมากๆ จนเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอฉายแสงเจิดจรัสใกล้ๆ เขา เขาจะรู้สึกตื่นเต้นทันทีอย่างที่ไม่ควรจะเป็นครับ” ระหว่างนั้น จอห์นวนเวียนอยู่ใกล้ๆ แจ็ค (แต่จอห์นกำลังมองดูตัวเองสมัยเป็นหนุ่มอยู่รึเปล่านะ?) ไปๆ มาๆ เพื่อพูดถึงโมนิก้าและแซลลี่ราวกับพวกเธอไม่อยู่ตรงนั้น ทิ้งคำถามที่ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ให้เปิดกว้าง นี่เป็นสิ่งที่อัลเลนตั้งใจทำ “คุณสามารถมองได้สองทางครับ” เขาบอก “แต่ทางที่ปลอดภัยที่สุดคืออเล็กซ์เดินตามรอยความทรงจำของตัวเองและเขาได้พบกับวัยหนุ่มของตัวเอง เขาจดจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขารู้สึกอย่างไร เขาทำพลาดไปอย่างไร ความสิ้นหวังเป็นอย่างไร และความทรงจำนั้นก็เป็นความทรงจำที่เขาไม่อาจลบเลือนไปได้เลย แจ็คเป็นวัยหนุ่มของจอห์นโดยที่เขาไม่ได้เป็นจอห์นวัยหนุ่มในแฟลชแบ็คน่ะครับ” เพจกล่าวว่า “คนแต่ละคนจะมองมันไปคนละทาง คนที่อายุมากหน่อยอาจมองมันในมุมมองของจอห์น และคนที่อายุน้อยหน่อยอาจจะสนใจกับความฉับพลันของปฏิสัมพันธ์ระหว่างโมนิก้า, แจ็คและแซลลี่ และจอห์นก็จะดูเหมือนคนนอกน่ะค่ะ” ไม่ว่าเราจะตีความเรื่องราวอย่างไร หัวใจสำคัญของเรื่องนี้คือความเฉลียวฉลาดที่เกิดขึ้นพร้อมวัย ทีได้มองย้อนกลับไปสู่ความอ่อนหัดของวัยหนุ่มสาว บัลด์วินกล่าวว่า “ในความคิดของผมและจากประสบการณ์ของผมเอง การมองย้อนกลับไปที่ตัวเราที่อายุน้อยกว่านี้ หรือที่หนุ่มสาวโดยทั่วๆ ไปเป็นเรื่องที่น่าประทับใจและน่าขนลุก พอเรามองเห็นคนหนุ่มสาว เราก็จะคิดว่า 'ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันเคยทำแบบนั้นหรือพูดแบบนั้น' แต่ส่วนหนึ่งของชีวิตคือการเติบโตและเปลี่ยนแปลง บางทีอาจจะช้า และบางทีก็อาจจะเร็วน่ะครับ” ตัวละครหลายตัวใน TO ROME WITH LOVE ก็มีความปรารถนาที่จะเป็นที่ชื่นชมเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกเขาเป็นคนที่ค่อนข้างธรรมดาอยู่แล้ว ความต้องการนี้ถูกนำเสนอในเรื่องราวของเจอร์รี่และลีโอโปลโด้ รวมไปถึงในกลยุทธที่ลูก้า ซัลต้าใช้จีบมิลลี่ด้วย เขาบอกเธอว่าเขาเห็นคุณค่าความเห็นของเธอที่มีต่อเรื่องทางวัฒนธรรม มันเป็นการยอมรับที่สามีเธอไม่เคยให้กับเธอ มิเกลันเจโล ลูกเขยในอนาคตของเจอร์รี่ พูดถึงแต่ตัวเองและมุมมองที่สูงส่งของเขา ซึ่งทำให้เขารู้สึกพิเศษและสำคัญ เช่นเดียวกัน ความมั่นใจในตัวเองของแจ็คพองโตขึ้นเมื่อเขาเชื่อว่าผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างโมนิก้าจะเลือกเขาเป็นคนรัก “ผู้หญิงที่มีพันธะก็เหมือนแคทนิปสำหรับผู้ชายางคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่พวกเขายังอายุน้อยกันอยู่น่ะครับ” บัลด์วินบอก “คุณไม่ได้อยากได้พวกเธอจริงๆ หรอก คุณก็แค่อยากเอาชนะ มันเป็นเรื่องของอีโก้ครับ” เพจคิดว่าโมนิก้าเองก็มักต้องการที่จะถูกประเมินค่าจากคนอื่นอยู่เสมอๆ “ในตอนที่โมนิก้ามีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น เธอมักจะให้ความรู้สึกของคนที่อยากจะเป็นนักวิชาการผู้ทรงภูมิ ฉันคิดว่ามันอาจจะเกิดจากความไม่มั่นใจของเธอและความต้องการจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ ทำนองว่า 'ชอบฉันเถอะ! ฉันฉลาดและฉันก็รู้จักโควทเก๋ๆ นะ' น่ะค่ะ” ความต้องการพื้นฐานในจิตใจมนุษย์ในการเป็นที่ยอมรับอาจเป็นพื้นฐานที่ทำให้คนใฝ่ฝันอยากมีชื่อเสียงก็เป็นได้ “เราใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่ชื่อเสียงเป็นสิ่งที่ได้รับการยกย่อง เทิดทูนค่ะ” เพจกล่าว “แม้ว่าเรามักจะรู้ว่ามันไม่ใช่วิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพซักเท่าไหร่ และอาจทำลายชีวิตคนได้ด้วยซ้ำ คนหมกมุ่นอยู่กับไอเดียที่ว่า 'มันจะต้องทำให้ฉันมีควาสุข มันจะทำให้ฉันรู้สึกเป็นคนสำคัญ มันจะทำให้ฉันรู้สึกมั่นคง ปลอดภัยและทรงพลัง' สิ่งน่าขันก็คือสิ่งที่ผู้คนคาดหวังว่าจะเติมเต็มชีวิตเขาคือสิ่งที่ท้ายที่สุดแล้วก็ทำให้พวกเขารู้สึกว่าว่างเปล่าน่ะค่ะ” อัลเลนกล่าวว่า “คนปรารถนาชื่อเสียงด้วยเหตุผลเดียวกับที่พวกเขาต้องการสิ่งอื่นๆ ทุกอย่างที่เราไขว่คว้า ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง เงินทอง เสื้อผ้าสวยๆ ทรัพย์สมบัติ ความสามารถด้านศิลปะหรือกีฬา ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม สิ่งที่คุณพยายามทำก็คือพยายามดึงดูดเพศตรงข้าม แม้ว่าคุณจะอำพรางมันด้วยการกระทำอย่างไรก็ตามครับ” เรื่องราวที่พบใน TO ROME WITH LOVE ได้ล้วงลึกถึงการไขว่คว้าความรักและเซ็กส์ในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การหมั้นหมายและการฮันนีมูนผ่านทางการนอกใจสารพัดแบบ ตั้งแต่การร่วมรักที่อ่อนละมุนไปจนถึงสัมพันธ์สวาทฉาบฉวย ตั้งแต่เรื่องน่าขบขัน ไร้สาระไปจนถึงเรื่องที่ลึกซึ้ง ดื่มด่ำ ตั้งแต่ความตื่นเต้นของรักครั้งใหม่ไปจนถึงการอกหักและผลที่ตามมาหลังจากนั้น เรื่องราวสลับฉากเกี่ยวกับความรักเหล่านี้ได้ดำเนินไปพร้อมๆ กันในเมืองเก่าแก่ที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คน ในทุกส่วนของเมือง ในอดีตและในปัจุบัน และมันก็จะดำเนินต่อไปในอนาคต ผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนได้พบรักบนท้องถนนในกรุงโรม และผู้คนในเรื่องก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ประวัตินักแสดง - Alec Baldwin (อเล็กซ์ บัลด์วิน) รับบท John (จอห์น) สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (ปริญญาตรีจากทิสช์ในปี1994) และได้รับปริญญาดุษฎีกิตติมศักดิ์สาขาศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนิวยอร์กในปี 2010 เขาได้แสดงละครเวทีครั้งล่าสุดในปี 2010 ในละครโดยปีเตอร์ แชฟเฟอร์ โปรดักชั่นของกิลด์ ฮอล (อีสต์ แฮมป์ตัน) ที่กำกับโดยโทนี วอลตันเรื่อง Equus ผลงานละครเวทีเรื่องอื่นๆ ได้แก่ ละครโดยโจ ออร์ตัน โปรดักชั่นปี 2006 ของราวน์ อะเบาท์ เธียเตอร์ คัมปะนีเรื่อง Entertaining Mr. Sloane ที่กำกับโดยสก็อต เอลลิส, Loot (ละครบรอดเวย์ปี 1986, ได้รับรางวัลเธียเตอร์ เวิลด์ อวอร์ด), ละครโดยคาริล เชอร์ชิลล์เรื่อง Serious Money (บรอดเวย์ปี 1988), Prelude to a Kiss (เซอร์เคิล เร็ป ปี 1990 ได้รับรางวัลโอบี้ อวอร์ด), A Streetcar Named Desire (ละครบรอดเวย์ ปี 1992 ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลโทนี อวอร์ด), Macbeth (เอ็นวายเอสเอฟ ปี 1998) และ The Twentieth Century (ราวน์อะเบาท์ปี 2004) นอกจากนี้ เขายังได้แสดงละครเรื่อง The Hartman ในสแตมฟอร์ด, วิลเลียมส์ทาวน์, เบย์ สตรีทอีกด้วย บัลด์วินได้แสดงภาพยนตร์กว่าสี่สิบเรื่อง ซึ่งรวมถึง BEETLEJUICE, WORKING GIRL, MIAMI BLUES, THE HUNT FOR RED OCTOBER, GLENGARRY GLEN ROSS, MALICE, THE JUROR, THE EDGE, GHOSTS OF MISSISSIPPI, STATE AND MAIN, THE CAT IN THE HAT, THE COOLER (ได้รับรางวัลสมาพันธ์นักวิจารณ์แห่งชาติสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมและได้รับการเสนอชื่อ ชิงรางวัลออสการ์), THE AVIATOR, THE DEPARTED, IT’S COMPLICATED และ ฯลฯ ด้านจอแก้ว ปัจจุบัน บัลด์วินนได้แสดงประกบทีนา เฟย์ในซีรีส์เอ็นบีซีเรื่อง 30 Rock ที่ได้รับรางวัลเอ็มมี่ปี 2007, 2008 และ 2009 สาขาซีรีส์คอมเมดี้ยอดเยี่ยม บัลด์วินได้รับหกรางวัลแซ็ก อวอร์ด, สามรางวัลลูกโลกทองคำ, รางวัลนักวิจารณ์โทรทัศน์และสองรางวัลเอ็มมี่ อวอร์ดสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในซีรีส์คอมเมดี้จากการแสดงของเขาในซีรีส์ดังกล่าว ในปี 2011 บัลด์วินได้รับดวงดาวประดับอยู่บนฮอลลีวู้ด วอล์ค ออฟ เฟม เอล โดราโด พิคเจอร์ส บริษัทของเขา ได้อำนวยการสร้างโปรเจ็กต์มากมาย ซึ่งรวมถึง Nuremberg: Infamy on Trial ทางทีเอ็นที, The Confession สำหรับโชว์ไทม์ (ได้รับรางวัลดับบลิวจีเอ อวอร์ดสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม) และภาพยนตร์โดยเดวิด มาเม็ตเรื่อง STATE AND MAIN นอกจากนี้ บัลด์วินยังเป็นผู้สนับสนุนโครงการรณรงค์มากมาย ซึ่งเกี่ยวกับนโยบายสาธารณะและศิลปะ เขาเป็นหนึ่งในบอร์ดของ พีเพิล ฟอร์ ดิ อเมริกัน เวย์, เดอะ แฮมป์ตัน อินเตอร์เนชันแนล ฟิล์ม เฟสติวัลและกิลด์ ฮอล ออฟ อีสต์ แฮมป์ตัน เขาเป็นผู้สนับสนุนโครงการเดอะ เรดิเอชั่น แอนด์ พับลิค เฮลธ์ โปรเจ็กต์, อีสต์ แฮมป์ตัน เดย์ แคร์ เซ็นเตอร์, ดิ แอ็กเตอร์ส ฟันด์, เดอะ พับลิค เธียเตอร์/นิวยอร์ก เชคสเปียร์ เฟสติวัล, เดอะ ราวน์อะเบาท์ เธียเตอร์, พีเพิล ฟอร์ ดิ เอธิคัล ทรีทเมนต์ ออฟ แอนนิมอลส์, เดอะ วอเตอร์ คีพเพอร์ อัลลิแอนซ์ และ ฯลฯ หนังสือของบัลด์วินเรื่อง A Promise to Ourselves (เซนต์มาร์ตินส์ เพรส) ได้รับการตีพิมพ์เป็นปกอ่อนในฤดูใบไม้ร่วงปี 2009 Roberto Benigni (โรเบอร์โต้ เบนิญี่) รับบท Leopoldo(ลีโอโปลโด้) เป็นนักแสดง นักแสดงตลก มือเขียนบทแลละผู้กำกับจอแก้ว จอเงินและละครเวที ผลงานภาพยนตร์ของเขาในปี 1997 เรื่อง LIFE IS BEAUTIFUL ซึ่งเขาร่วมเขียนบท กำกับและนำแสดง ได้รับการเสนอชื่อชิงเจ็ดรางวัลอคาเดมี่ อวอร์ด ซึ่งรวมถึงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ดนตรียอดเยี่ยมและนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากมายจากทั่วโลก ซึ่งรวมถึงรางวัลแกรนด์ จูรี ไพรซ์ที่เมืองคานส์, รางวัลพีเพิลส์ ชอยส์ที่โตรอนโต, รางวัลบาฟตา (นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม), รางวัลซีซาร์, รางวัลโกยา, รางวัลภาพยนตร์ยุโรป, รางวัลแซ็ก อวอร์ด, เก้ารางวัลเดวิด ดิ ดอนนาเทลโล (ซึ่งรวมถึงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมและบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม) และ ฯลฯ LIFE IS BEAUTIFUL เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จสูงสุดเท่าที่เคยเข้าฉายในอเมริกา เบนิญี่เป็นที่รู้จักในอเมริกาเป็นครั้งแรกจากการแสดงในภาพยนตร์โดยจิม จาร์มัสช์เรื่อง DOWN BY LAW ในปี 1986 หลังจากนั้น เขาก็ได้ร่วมงานกับจาร์มัสช์อีกใน NIGHT ON EARTH และ COFFEE & CIGARETTES เบนิญี่เกิดในแมนซิอาโน ลา มิเซริคอร์เดีย (คาสิเลียน ฟิออเรนติโน) เขาย้ายไปกรุงโรมในปี 1972 ที่ซึ่งเขาได้ทำงานในโรงละครทดลอง ก่อนที่จะโด่งดังจากซีรีส์โทรทัศน์สุดโต่งสองเรื่อง Onda Libera และ L'altra domenica เขาเปิดตัวในฐานะมือเขียนบท/ผู้กำกับ/นักแสดงในปี 1983 ด้วยเรื่อง YOU UPSET ME ตามด้วย NOTHING LEFT TO DO BUT CRY, THE LITTLE DEVIL (กับวอลเตอร์ แมทธิว), JOHNNY STECCHINO, THE MONSTER, PINOCCHIO และ THE TIGER AND THE SNOW ในฐานะนักแสดง เขาได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง SEEKING ASYLUM, LUNA โดยเบอร์นาโด้ แบร์โตลุชชี่, TIGERS IN LIPSTICK, IL MINESTRONE, LA VOCE DELLA LUNA โดย เฟเดอริโก้ เฟลลินี่, SON OF THE PINK PANTHER โดยเบลค เอ็ดเวิร์ดส์และภาพยนตร์โดยคล็อด ซิดี้เรื่อง ASTERIX & OBELIX VS. CAESAR ระหว่างปี 2006-207 เขาได้ตระเวนแสดงละครเดี่ยว TuttoDante (Everything about Dante) ซึ่งผสมผสานเรื่อง Divine Comedy โดยดันเต้ เข้ากับอารมณ์ขันแบบฉับพลัน ทั่วอิตาลี ในปี 2009 เขาได้นำ TuttoDante ไปแสดงที่อเมริกา นอกเหนือจากรางวัลทั้งหมดที่เขาได้รับจากภาพยนตร์ เบนิญี่ยังได้รับปริญญาดุษฎีกิตติมศักดิ์มากมายจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วโลก TO ROME WITH LOVE เป็นการร่วมงานกันครั้งที่สองระหว่างนักแสดงหญิงเจ้าของรางวัลอคาเดมี่ อวอร์ด เพเนโลเป้ ครูซ (แอนนา) และวู้ดดี้ อัลเลน ครูซได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมปี 2008 จาก VICKY CRISTINA BARCELONA ซึ่งเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกของพวกเขา ในปี 2007 เธอได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์โดยเปโดร อัลโมโดวาร์เรื่อง VOLVER ทำให้เธอเป็นนักแสดงหญิงคนแรกจากสเปนที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี่ อวอร์ด เธอได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเป็นครั้งที่สามในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมในปี 2010 จาก NINE เธอเป็นที่รู้จักดีจากการแสดงประกบจอห์นนี่ เด็ปป์ในภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์เรื่อง PIRATES OF THE CARRIBEAN: ON STRANGER TIDES ครูซเป็นที่รู้จักดีที่สุดจากการร่วมงานกับเปโดร อัลโมโดวาร์หลายครั้ง ซึ่งการร่วมงานระหว่างทั้งคู่เริ่มต้นจากบทเล็กๆ ของเธอใน LIVE FLESH ตามมาด้วยการแสดงในภาพยนตร์รวมดาราเรื่อง ALL ABOUT MY MOTHER (ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำและออสการ์สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม) และบทนำใน VOLVER และ BROKEN EMBRACES นอกเหนือจากจะได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี่อวอร์ดจาก VOLVER แล้ว ครูซยังได้รับรางวัลโกยา, รางวัลภาพยนตร์ยุโรป, ร่วมรับรางวัลนักแสดงนำหญิงจากเมืองคาน์และได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำ รวมถึงบาฟตาและแซ็ก อวอร์ดหลายครั้งอีกด้วย ครูซเป็นที่รู้จักของผู้ชมอเมริกันเป็นครั้งแรกในภาพยนตร์สเปนเรื่อง JAMON, JAMON และภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลอคาเดมี่ อวอร์ดโดยเฟอร์นันโด ทรูบ้าเรื่อง BELLE EPOQUE และ OPEN YOUR EYES หลังจากนั้น เธอก็มีผลงานเรื่อง DON JUAN, TWICE UPON A YESTERDAY และ TALK OF ANGELS ก่อนที่เธอจะได้แสดงในภาพยนตร์ภาษาอังกฤษเรื่องแรก THE HI-LO COUNTRY ในปี 1998 ในปีถัดมา เธอได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากงานประกาศผลรางวัลโกยา อวอร์ดครั้งที่ 13 ซึ่งสถาบันศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์สเปนได้มอบให้กับเธอจากการแสดงของเธอในภาพยนตร์โดยทรูบ้าเรื่อง THE GIRL OF YOUR DREAMS หลังจากนั้น เธอก็ได้แสดงประกบแมทท์ เดมอนใน ALL THE PRETTY HORSES ตามมาด้วย BLOW, CAPTAIN CORELLI’S MANDOLIN, VANILLA SKY (ประกบทอม ครูซ), DON’T TEMPT ME, MASKED AND ANONYMOUS, FANFAN LA TULIPE, GOTHIKA, DON’T MOVE (ได้รับรางวัลเดวิด ดิ ดอนนาเทลโล อวอร์ดและรางวัลภาพยนตร์ยุโรปยอดเยี่ยมสาขานักแสดงนำหญิง), HEAD IN THE CLOUDS, NOEL, SAHARA, CHROMOPHOBIA, BANDIDAS, THE GOOD NIGHT, ELEGY, A MATADOR’S MISTRESS, G-FORCE (พากย์เสียง), SEX AND THE CITY 2 และภาพยนตร์ที่กำลังจะเข้าฉายเรื่องVENUTO AL MONDO Judy Davis (จูดี้ เดวิส) รับบท Phyllis (ฟิลลิส) ได้ร่วมงานกับวู้ดดี้ อัลเลนเป็นครั้งที่ห้าใน TO ROME WITH LOVE หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยแสดงในภาพยนตร์เรื่อง CELEBRITY, DECONSTRUCTING HARRY และ ALICE ของเขามาแล้ว นอกจากนี้ เธอยังได้แสดงในภาพยนตร์ของอัลเลนเรื่อง HUSBANDS AND WIVES ซึ่งทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี่ อวอร์ดสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม รวมถึงได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำ รางวัลบาฟตา รวมถึงรางวัลต่างๆ จากสมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์นิวยอร์ก, ลอสแองเจลิส, บอสตัน, ชิคาโก, ลอนดอน นอกเหนือจากนั้น เธอยังได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์จาก PASSAGE TO INDIA และได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากสมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์บอสตันอีกด้วย เดวิสได้รับการเสนอชื่อชิงสี่รางวัลลูกโลกทองคำ จาก HUSBANDS AND WIVES, Serving in Silence: The Margarethe Cammermeyer Story, Dash and Lilly และได้รับรางวัลจาก One Against the Wind และ Life with Judy Garland: Me and My Shadows เธอได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเอ็มมี่จาก A Woman Called Golda, One Against the Wind, The Echo of Thunder, Dash and Lilly, A Cooler Climate, The Reagans, A Little Thing Called Murder และได้รับรางวัลจาก Serving in Silence: The Margarethe Cammermeyer Story, Life with Judy Garland: Me and My Shadows และ The Starter Wife เธอได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลจากสถาบันภาพยนตร์ออสเตรเลียสิบเอ็ดครั้งและได้รับรางวัลจาก HOODWINK, WINTER OF OUR DREAMS, KANGAROO, HIGH TIDE, ON MY OWN, CHILDREN OF THE REVOLUTION และ THE EYE OF THE STORM เดวิดได้รับความสนใจจากผู้ชมทั่วโลกเป็นครั้งแรกจาก MY BRILLIANT CAREER ในปี 1979 ซึ่งทำให้เธอได้รับสองรางวัลบาฟตา อวอร์ด ผลงานภาพยนตร์หลังจากนั้นของเธอได้แก่ THE FINAL OPTION, A PASSAGE TO INDIA (รางวัลนักแสดงนำหญิงจากสมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์บอสตัน), GEORGIA, IMPROMPTU (รางวัลอินดีเพนเดนท์ สปิริต อวอร์ดสาขานักแสดงนำหญิง), BARTON FINK (รางวัลนักแสดงนำหญิงจากสมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์นิวยอร์ก และก็ได้รับรางวัลจาก NAKED LUNCH ด้วย), WHERE ANGELS FEAR TO TREAD, DARK BLOOD, THE REF, THE NEW AGE, BLOOD AND WINE, ABSOLUTE POWER, GAUDI AFTERNOON, THE MAN WHO SUED GOD, SWIMMING UPSTREAM, MARIE ANTOINETTE และ THE BREAK-UP การทำงานที่ยาวนานของจูดี้ เดวิสยังรวมถึงการแสดงและกำกับละครเวที ที่ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ เธอเพิ่งรับบทอิรินาใน The Seagull และกำกับ Victory, The School for Scandal และ Barrymore ให้กับซิดนีย์ เธียเตอร์ คัมปะนีอีกด้วย Jesse Eisenberg (เจสซี่ ไอเซนเบิร์ก) รับบท Jack (แจ็ค) ได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง 30 MINUTES OR LESS, THE SOCIAL NETWORK, HOLY ROLLERS, ZOMBIELAND, ADVENTURELAND, THE SQUID AND THE WHALE และ ROGER DODGER การแสดงใน THE SOCIAL NETWORK ทำให้ไอเซนเบิร์กได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี่ อวอร์ดและรางวัลบาฟตา อวอร์ดสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากบทมาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้ง Facebook นอกจากนี้ เขายังได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลบาฟตาสาขานักแสดงดาวรุ่งจากผลงานของเขาใน ADVENTURELAND ด้านละครเวที เขาได้แสดงใน Orphans ประกบอัล ปาชิโน, Scarcity ที่แอตแลนติก เธียเตอร์และ Asuncion ที่เดอะ เชอร์รี เลน ที่เขาเขียนบท นอกจากนี้ เขายังเป็นนักเขียนให้กับแม็คสวีนนีย์ส และบทความของเขาก็ได้ตีพิมพ์ในนิตยสารฮาร์เปอร์สและนิวยอร์ก ไทม์ด้วย Greta Gerwig (เกรต้า เกอร์วิก) รับบท Sally (แซลลี่) เมื่อเร็วๆ นี้ เพิ่งได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลก็อทแธม อวอร์ดปี 2010 สาขานักแสดงดาวรุ่งยอดเยี่ยม รวมถึงได้รับรางวัลอินดี้เพนเดนท์ สปิริต อวอร์ดปี 2011 สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากการรับบทฟลอเรนซ์ มาร์ในภาพยนตร์โดยโนอาห์ บอมบัคเรื่อง GREENBERG ประกบเบน สติลเลอร์ เอ.โอ. สก็อต นักวิจารณ์ภาพยนตร์ชื่อดังจากนิวยอร์ก ไทม์ได้กล่าวว่า “มิสเกอร์วิกอาจจะเป็นนักแสดงภาพยนตร์หญิงที่โดดเด่นที่สุดในรุ่นของเธอ โดยที่เธออาจไม่ได้ตั้งใจเลย...” เธอสร้างชื่อในตลาดภาพยนตร์อินดี้และเทศกาลภาพยนตร์ด้วยการนำแสดงใน HANNA TAKES THE STAIRS และ NIGHTS AND WEEKENDS ซึ่งเธอได้ร่วมเขียนบทและร่วมกำกับกับโจ สวอนเบิร์ก ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวในงานเทศกาลภาพยนตร์เซาธ์บายเซาธ์เวสต์และเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ทำยอดขายได้ถล่มทลายในประวัติศาสตร์ของเทศกาลนี้ ล่าสุด เกรต้า เกอร์วิกได้รับบท 'นาโอมิ' ในรีเมกโดยวอร์เนอร์ บราเธอร์สเรื่อง ARTHUR ที่ร่วมแสดงโดยเฮเลน เมอร์เรน, เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์, รัสเซล แบรนด์และนิค โนลเต้ ก่อนหน้านั้น เธอได้แสดงประกบนาตาลี พอร์ทแมน, แอชตัน คุทเชอร์และเควิน ไคลน์ในภาพยนตร์โดยอีวาน ไรท์แมนเรื่อง NO STRINGS ATTACHED ให้กับพาราเมาท์ พิคเจอร์ส ปัจจุบัน เธอรับบทนำ 'ไวโอเล็ต' ในคอเมดีเรื่องใหม่โดยวิท สติลแมนเรื่อง DAMSELS IN DISTRESS ที่จัดจำหน่ายโดยโซนี พิคเจอร์ส คลาสสิกส์ เมื่อเร็วๆ นี้ เธอเพิ่งถ่ายทำภาพยนตร์โดยฟ็อกซ์ เสิร์ชไลท์เรื่อง LOLA VERSUS ซึ่งเธอรับบทโลลา ในซัมเมอร์ปีนี้ เกอร์วิกจะร่วมแสดงในซีรีส์ใหม่ทางเอชบีโอเรื่อง The Corrections ที่สร้างขึ้นจากนิยายชื่อเดียวกันโดยโจนาธาน แฟรนเซน ผลงานเรื่องอื่นๆ ของเธอได้แก่ภาพยนตร์โดยแมรี บรอนสไตน์เรื่อง YEAST, ภาพยนตร์โดยพี่น้องดูพลาสเรื่อง BAGHEAD และ THE HOUSE OF THE DEVIL เกอร์วิกสำเร็จการศึกษาเกียรตินิยมอันดับสองจากบาร์นาร์ด คอลเลจ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ปัจจุบัน เธออาศัยอยู่ในนิวยอร์ก Ellen Page (เอลเลน เพจ) รับบท Monica (โมนิก้า) นักแสดงหญิงผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี่ อวอร์ด ได้สร้างชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในนักแสดงหญิงที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในฮอลลีวู้ดปัจจุบัน เธอยังคงสั่งสมผลงานที่น่าประทับใจด้วยการแสดงบทบาทหลากหลายกับผู้กำกับที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดตลอดกาล นอกเหนือจากการนำแสดงใน TO ROME WITH LOVE แล้ว เพจยังจะได้แสดงในทริลเลอร์โดยฟ็อกซ์ เสิร์ชไลท์เรื่อง THE EAST เรื่องราวที่เกี่ยวกับคนงานที่ได้รับมอบหมายให้สอดแนมกลุ่มอนาธิปไตย แต่ตัวเธอกลับตกหลุมรักหัวหน้ากลุ่มเสียนี่ โดยเพจจะแสดงประกบ บริท มาร์ลิง, อเล็กซานเดอร์ สการ์สการ์ดและแพทริเซีย คลาร์คสัน ในปี 2010 เพจได้แสดงบทบาทหลากหลาย เช่นทริลเลอร์จิตวิทยาที่ได้รับรางวัลของคริสโตเฟอร์ โนแลนเรื่อง INCEPTION ที่เธอแสดงประกบลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ, โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์และมาริยง คอติยาร์ด, ภาพยนตร์อินดี้เรื่อง PEACOCK ที่เขียนบทและกำกับโดยเดวิด แลนเดอร์และร่วมแสดงโดยซูซาน ซาแรนดอนและคิลเลียน เมอร์ฟีย์และคอมเมดี้ตลกร้ายเรื่อง SUPER ประกบเรนน์ วิลสันและลีฟ ไทเลอร์ ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ได้แก่ภาพยนตร์ฟ็อกซ์ เสิร์ชไลท์เรื่อง WHIP IT (2009) ซึ่งเป็นผลงานการกำกับเรื่องแรกของดรูว์ แบร์รีมอร์ โดยเพจได้ร่วมแสดงกับคริสติน วิก, มาร์เซีย เกย์ ฮาร์เดน, อาเลีย ชอว์แคท, จูเลียต ลูอิสและจิมมี ฟัลลอน การแสดงแจ้งเกิดของเธอในภาพยนตร์คอมเมดี้ฮิตโดยเจสัน ไรท์แมนเรื่อง JUNO ทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี่ อวอร์ด, บาฟตา, ลูกโลกทองคำและแซ็ก อวอร์ดสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และได้รับรางวัลอินดี้เพนเดนท์ สปิริต อวอร์ด ภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เขียนบทโดยเดียโบล โคดี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวัยรุ่นพิลึกคน (เพจ) ผู้ตั้งท้องโดยไม่ได้ตั้งใจและทำการตัดสินใจที่เป็นผู้ใหญ่อย่างน่าประหลาดใจเกี่ยวกับลูกน้อยที่ยังไม่ลืมตาดูโลกของเธอ โคดี้ได้รับรางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเรื่องนี้ ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเอลเลนได้แก่บทนำในภาพยนตร์โดยบรูซ แม็คโดนัลด์เรื่อง THE TRACEY FRAGMENTS (2007) ที่เธอรับบทเด็กสาวไฮสคูลวัย 15 ปีทีถูกกลั่นแกล้ง, AN AMERICAN CRIME ที่แสดงประกบแคทเธอรีน คีนเนอร์และภาคสามของแฟรนไชส์ X-Men เรื่อง X-MEN: THE LAST STAND (2006) ซึ่งทำรายได้กว่า 230 ล้านเหรียญทั่วโลก นอกจากนี้ เธอยังได้แสดงในภาพยนตร์แคนาดารวมดาราเรื่อง THE STONE ANGEL ที่ร่วมแสดงโดยเอลเลน เบอร์สตินและกำกับโดยคารี สก็อกแลนด์, ภาพยนตร์โดยอลิสัน เมอร์เรย์เรื่อง MOUTH TO MOUTH, ภาพยนตร์โดยแดเนียล แม็คอิวอร์เรื่อง WILBY WONDERFUL และ SMART PEOPLE ประกบเดนนิส เควด, ซาราห์ เจสสิก้า ปาร์คเกอร์และโธมัส ฮาเดน เชิร์ช การแสดงนำในภาพยนตร์อินดีปี 2005 โดยไลออนส์เกทเรื่องHARD CANDY ที่กำกับโดยเดวิด สเลดทำให้เพจได้รับเสียงชื่นชมล้นหลามจากการแสดงในบทเด็กหญิงวัย 14 ปีที่ได้พบกับช่างภาพอายุ 30 ปีทางอินเทอร์เน็ตและหาทางเปิดโปงว่าเขาเป็นพวกชอบเด็ก ภาพยนตร์อินดี้เรื่องนี้ ที่ร่วมแสดงโดยแพทริค วิลสันและแซนดรา โอห์ เปิดตัวในงานเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ปี 2005 เพจเป็นชาวฮาลิแฟ็กซ์, โนวา สโกเทีย เธอได้มีผลงานแสดงในแวดวงจอแก้วและจอเงินแคนาดามานานแล้ว เธอเริ่มต้นแสดงตั้งแต่สิบขวบในภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลเรื่อง Pit Pony ซึ่งทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเจมินีสาขาการแสดงยอดเยี่ยมในรายการสำหรับเด็กและได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลยัง อาร์ติสท์ อวอร์ดสาขาการแสดงยอดเยี่ยมในซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม หลังจากนั้น เธอก็ได้รับบทโจนนีย์ใน Marion Bridge ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลแอ็กทรา มาริไทม์ อวอร์ดสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับรางวัลภาพยนตร์แคนาดาเรื่องแรกยอดเยี่ยมจากงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโตอีกด้วย เธอได้รับรางวัลเจมินี อวอร์ดจากการรับบท ลิลิธในซีซั่นแรกของ ReGenesis ดราม่าหนึ่งชั่วโมงสำหรับทีเอ็มเอ็น/มูฟวี เซ็นทรัล และจากภาพยนตร์เคเบิลเรื่อง Mrs. Ashboro's Cat สาขาการแสดงยอดเยี่ยมในรายการสำหรับเด็กหรือเยาวชน นอกเหนือจากนั้น เธอยังได้แสดงในซีรีส์คัลท์ฮิตเรื่อง Trailer Park Boys อีกด้วย ประวัติทีมสร้าง Letty Aronson (เล็ตตี้ อารอนสัน) - Producer (ผู้อำนวยการสร้าง) ก่อนหน้านี้ เธอเคยอำนวยการสร้างภาพยนตร์โดยวู้ดดี้ อัลเลนเรื่อง MIDNIGHT IN PARIS ซึ่งได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี่ อวอร์ดสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปี 2012, YOU WILL MEET A TALL DARK STRANGER, WHATEVER WORKS, VICKY CRISTINA BARCELONA, CASSANDRA’S DREAM, SCOOP, MATCH POINT, MELINDA AND MELINDA, HOLLYWOOD ENDING และ THE CURSE OF THE JADE SCORPION ประสบการณ์ที่กว้างขวางของเธอในแวดวงจอแก้ว จอเงินและละครเวทีรวมถึงการได้ร่วมงานกับอัลเลนอีกหลายครั้ง เธอได้ร่วมควบคุมงานสร้างภาพยนตร์หลายเรื่องเช่น DON’T DRINK THE WATER ซึ่งเป็นผลงานจอแก้วเรื่องแรกของอัลเลน, BULLETS OVER BROADWAY ซึ่งได้รับการเสนอชื่อชิงเจ็ดรางวัลอคาเดมี่ อวอร์ดและได้รับรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (ไดแอนน์ เวสต์), MIGHTY APHRODITE ซึ่งทำให้มิรา ซอร์วิโนได้รับรางวัลอคาเดมี่ อวอร์ดสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมและ SWEET AND LOWDOWN ซึ่งทำให้ฌอน เพนน์และซาแมนธา มอร์ตันได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี่ อวอร์ด ผลงานอื่นๆ ของเธอในฐานะผู้ร่วมควบคุมงานสร้างได้แก่ มิวสิคัลคอมเมดี้ชื่อดังโดยอัลเลนเรื่อง EVERYONE SAYS I LOVE YOU รวมไปถึงภาพยนตร์ของเขาเรื่อง CELEBRITY, DECONSTRUCTING HARRY และ SMALL TIME CROOKS นอกเหนือจากนั้น อารอนสันยังได้ร่วมควบคุมงานสร้างภาพยนตร์เรื่อง THE SPANISH PRISONER ที่เขียนบทและกำกับโดยผู้กำกับและนักเขียนละครรางวัลพูลิทเซอร์ เดวิด มาเม็ต นักวิจารณ์ได้ชื่นชมภาพยนตร์เรื่องนี้เมื่อตอนมันเข้าฉายในปี 1998 นอกจากนี้ เธอยังได้ร่วมควบคุมงานสร้างภาพยนตร์เรื่อง INTO MY HEART ซึ่งเขียนบทและกำกับโดยสองนักแสดงหน้าใหม่ ฌอน สมิธและแอนโธนี สตาร์คและภาพยนตร์โดยโคกี้ กีดรอยซ์เรื่อง WOMEN TALKING DIRTY ที่นำแสดงโดยเฮเลนา บอนแฮม คาร์เตอร์ และเป็นผลงานการร่วมสร้างในยุโรปเรื่องแรกของอารอนสันกับร็อคเก็ต พิคเจอร์สของเอลตัน จอห์น ผลงานของเธอยังรวมถึง Dinah Was มิวสิคัลออฟบรอดเวย์เกี่ยวกับไดนาห์ วอชิงตัน ตำนานวงการเพลงบลูส์, THE STORY OF A BAD BOY ที่เขียนบทและกำกับโดยนักเขียนบทละครชื่อดัง ทอม โดนาฮีย์, JUST LOOKING ภาพยนตร์อบอุ่นหัวใจเกี่ยวกับการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ที่กำกับโดยเจสัน อเล็กซานเดอร์และคอมเมดี้เรื่อง SUNBURN ที่กำกับโดยเนลสัน ฮูม และได้เข้าฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์กัลเวย์และเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโตปี 1999 ผลงานจอแก้วของอารอนสันรวมถึง Saturday Night Live และ The Robert Klein Comedy Hour สำหรับเอ็นบีซีทั้งสองรายการ ในแวดวงละครเวที เธอรับหน้าที่ผู้ช่วยอำนวยการสร้าง Death Defying Acts คอมเมดี้ออฟบรอดเวย์ที่ประกอบไปด้วยละครองก์เดียวสามเรื่อง ที่เขียนบทโดยอีเลน เมย์, วู้ดดี้ อัลเลนและเดวิด มาเม็ต ก่อนหน้านี้ เธอดำรงตำแหน่งรองประธานพิพิธภัณฑ์วิทยุและโทรทัศน์มาถึงสิบปี Stephen Tenenbaum (สตีเฟน เทเนบอม) — Producer (ผู้อำนวยการสร้าง) ก่อนหน้านี้ได้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง MIDNIGHT IN PARIS ซึ่งได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี่ อวอร์ดสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมปี 2012 นอกจากนี้ เขายังได้อำนวยการสร้างภาพยนตร์โดยวู้ดดี้ อัลเลนเรื่อง VICKY CRISTINA BARCELONA ที่ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (คอมเมดี้หรือมิวสิคัล) ปี 2008, YOU WILL MEET A TALL DARK STRANGER, WHATEVER WORKS และ CASSANDRA’S DREAM เขารับหน้าที่ผู้ควบคุมงานสร้างใน SCOOP, MATCH POINT, MELINDA AND MELINDA, ANYTHING ELSE, HOLLYWOOD ENDING และ THE CURSE OF THE JADE SCORPION ซึ่งเรื่องสุดท้ายนี้เป็นผลงานอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา เทเนบอมสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เอกบัญชี เขาเริ่มต้นทำงานในแวดวงบันเทิงภายใต้ขอบเขตด้านการเงิน ด้วยการดูแลลูกค้าชื่อดังอย่างเดอะ บีทเทิลส์, จิมมี่ เฮนดริกซ์, บาร์บร สตรายแซนด์, บรูซ สปริงสทีน, เพอร์ซีย์ เฟธ, เดอะ แพลเตอร์ส, แนท คิง โคล, มาริโอ้ แลนซา, กิลด้า แรดเนอร์, โรบิน วิลเลียมส์ และ ฯลฯ หลังจากนั้น เขาก็ตัดสินใจชิมลางงานสร้างจอแก้วและจอเงินรวมถึงการจัดการส่วนตัวด้วย ปัจจุบัน เขาเป็นหุ้นส่วนของมอร์รา, เบรซเนอร์, สไตน์เบิร์ก แอนด์ เทเนบอม เอนเตอร์เทนเมนต์, อิงค์. (เอ็มบีเอสที) ที่ซึ่งลูกค้าของพวกเขารวมถึงวู้ดดี้ อัลเลน, บิลลี คริสตัล, โรบิน วิลเลียมส์และอัลเลน บูบิล (ผู้สร้าง Les Mis?rables และ Miss Saigon) นอกจากนี้ พวกเขายังมีส่วนเกี่ยวข้องกับงานสร้างภาพยนตร์หลายเรื่อง ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์โดยแบร์รี เลวินสันเรื่อง GOOD MORNING VIETNAM, ภาพยนตร์โดยสตีฟ กอร์ดอนเรื่อง ARTHUR, ภาพยนตร์โดยแดนนี เดอวีโต้เรื่อง THROW MOMMA FROM THE TRAIN และภาพยนตร์โดยบิล แพ็กซ์ตันเรื่อง THE GREATEST GAME EVER PLAYED
แท็ก ศิลปะ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ