สภาธุรกิจตลาดทุนไทยถก ก.ล.ต. ทำแผนเตรียมความพร้อมและปรับวิสัยทัศน์ตลาดทุนไทยรองรับ AEC

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 3, 2012 11:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ก.ค.--ตลท. สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เล็งเห็นความจำเป็นและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อภาคธุรกิจในตลาดทุนไทยในการเข้าสู่การเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุน จึงได้เร่งหารือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. เพื่อจัดเตรียมทำแผนรับมือ AEC พร้อมเตรียมทำแผนยุทธศาสตร์ปรับวิสัยทัศน์ตลาดทุนไทยใหม่ นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (สธท.) เปิดเผยหลังการประชุมหารือ ระหว่างคณะกรรมการและที่ปรึกษาสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กับคณะผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นำโดย ดร.วรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. เพื่อปูทางสู่การผสานความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงาน ในการจัดทำโครงการต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมตลาดทุนไทยในการเข้าสู่การค้าเสรี AEC จากการหารือ สภาธุรกิจตลาดทุนไทยและสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. มีความเห็นว่าควรเตรียมการให้ภาคธุรกิจมีความพร้อมอย่างเร่งด่วน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นหลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยจะเปิดเวทีเวิร์คชอประดมสมอง ระหว่างองค์กรต่างๆ ในสภาธุรกิจตลาดทุนไทย พร้อมทั้งรับฟังนโยบายจากสำนักงาน ก.ล.ต. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อนำไปสู่การจัดทำแผนยุทธศาสตร์และแนวทางในการเตรียมความพร้อมของอุตสาหกรรมต่างๆ ในตลาดทุนไทย ให้พร้อมรับมือและปรับแผนการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ เพื่อให้การกำหนดยุทธศาสตร์และแผนการดำเนินงานของตลาดทุนไทยในภาพรวมมีความชัดเจนและสอดคล้องกันทั้งระบบ ทั้งสองหน่วยงานจึงมีแผนที่จะร่วมกันจัดทำ Branding ของตลาดทุนไทยใหม่ เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ กำหนดวิสัยทัศน์ของตลาดทุนไทยให้สอดคล้องกับสิ่งที่จะดำเนินการในอนาคต อีกทั้งยังเป็นการสร้างความน่าสนใจและความแตกต่างของตลาดทุนไทยในสายตานักลงทุนทั่วโลก ซึ่งจะเป็นโครงการต่อเนื่องที่ทำร่วมกันต่อไป ในการเตรียมความพร้อมไปสู่ AEC นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า นอกจาก 2 โครงการข้างต้น ยังมีประเด็นเรื่องมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งได้รับคำร้องเรียนจากบริษัทจดทะเบียนหลายรายว่าเริ่มไม่มีมาตรฐานและข้อกำหนดที่ชัดเจนจึงทำให้การเปิดเผยข้อมูลของแต่ละบริษัทมีความแตกต่างกันอย่างมาก ตัวอย่างเช่น บริษัทจดทะเบียนในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน แต่การเปิดเผยข้อมูลก็ยังมากน้อยแตกต่างกันอยู่ ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์ไม่สามารถจัดทำบทวิเคราะห์ได้อย่างมีมาตรฐานและเที่ยงตรง จนกลายเป็นประเด็นเรื่องความเสี่ยงของผู้ลงทุนในการตัดสินใจลงทุน “สภาธุรกิจตลาดทุนไทย โดยสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย จึงร่วมกับสำนักงาน ก.ล.ต. เตรียมจัดทำ “แนวปฏิบัติ (Standard Practice) เรื่องการเปิดเผยข้อมูลอย่างถูกต้อง เท่าเทียมและเพียงพอ” เพื่อเป็นแนวทางให้บริษัทจดทะเบียนในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมรับทราบและปฏิบัติตามโดยสมัครใจ อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนเรื่องธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียน ยกระดับการเปิดเผยข้อมูลให้มีมาตรฐาน และเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมากขึ้นอีกด้วย” นายไพบูลย์กล่าว นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกจำนวนมากที่ไม่ได้รับความสนใจจากนักวิเคราะห์ในการทำบทวิเคราะห์ออกมา ซึ่งสาเหตุอาจเป็นเพราะบริษัทจดทะเบียนมีการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่เพียงพอสำหรับนักวิเคราะห์ที่จะนำข้อมูลไปใช้ต่อได้ ทั้งที่บริษัทเหล่านั้น มีผลประกอบการที่ดี อัตราการจ่ายเงินปันผลสูง และยังเป็น Undervalue Stock ซึ่งควรที่จะได้รับการผลักดันและสนับสนุนให้ทำบทวิเคราะห์ออกมา โดยเฉพาะบริษัทขนาดกลาง และขนาดเล็กที่ดีให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดตามข่าวสารข้อมูลและกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ นายคเณศ วังส์ไพจิตร สภาธุรกิจตลาดทุนไทย โทร 02-229-2900-2 หรือ email: fetco@set.or.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ