กรุงเทพฯ--3 ก.ค.--คอร์ แอนด์ พีค
เฮลท์ รีเลชั่นส์ จัดเสวนาสุขภาพให้ความรู้อิทธิพลการปรับโมเลกุลน้ำเอ็มเร็ทที่ส่งผลต่อผู้ป่วยโรคต่างๆ โดยใช้นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงโครงสร้างโมเลกุลของน้ำสะอาดธรรมดา ให้กลายเป็นน้ำที่มีคุณสมบัติพิเศษคล้ายน้ำพุภูเขาธรรมชาติที่มีผลดีต่อสิ่งมีชีวิต ได้รับสิทธิบัตรจากสหรัฐอเมริกา ว่ามีผลการศึกษาช่วยป้องกันเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อราและยับยั้งการเกิดเนื้องอก ซึ่งล่าสุดทำการวิจัยศึกษาจากวัดพระบาทน้ำพุ ผลปรากฏคนป่วยโรคเอดส์ระยะสุดท้าย 55 รายภูมิคุ้มกันดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
นพ.พีรยศ ตรงสวัสดิ์ แพทย์นักสาธารณสุข จากประเทศไทย กล่าวในงานเสวนาสุขภาพที่จัดโดย บริษัท เฮลท์ รีเลชั่นส์ จำกัด ผู้นำเข้าเครื่องปรับโมเลกุลน้ำเอ็มเร็ท ในหัวข้อ “อิทธิพลของน้ำปรับโมเลกุลเอ็มเร็ทที่ส่งผลต่อผู้ป่วยโรคต่างๆ”ว่า เอ็มเร็ทเป็นนาโนเทคโนโลยีและควันตั้มฟิสิกส์ ถือเป็นเทคโนโลยีที่มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์รองรับหลายชิ้นงานด้วยกัน ซึ่งทำการวิจัยจากสัตว์ทดลองและหลอดทดลองในห้องปฏิบัติการ จากมหาวิทยาลัยนานาชาติต่างๆ กว่า 16 สถาบัน เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับสิทธิบัตรจากสหรัฐอเมริกา เมื่อปี ค.ศ.2000 สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างโมเลกุลของน้ำสะอาดธรรมดา ให้กลายเป็นน้ำที่มีคุณสมบัติพิเศษคล้ายน้ำพุภูเขาธรรมชาติที่มีผลดีต่อสิ่งมีชีวิต ซึ่งมีลักษณะ 4 ประการคือ ป้องกันเชื้อไวรัส ป้องกันแบคทีเรีย ป้องกันเชื้อราและยับยั้งการเกิดเนื้องอก จากการทดลองในกลุ่มผู้ป่วยที่หลากหลาย และพบว่าอาการภูมิแพ้ของผู้ป่วยคนหนึ่งมีอาการดีขึ้นหลังจากดื่มไปในเวลาอันสั้น
นพ.พีรยศ กล่าวว่า เครื่องปรับโมเลกุลน้ำเอ็มเร็ทเหมาะกับผู้ที่สนใจรักษาสุขภาพตั้งแต่เริ่มต้น และผู้ที่เริ่มป่วยเนื่องจากน้ำจะเข้าไปช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและฟื้นฟูร่างกาย ผู้ป่วยสามารถหยุดยาที่เคยทานประจำได้ ตลอดจนได้นำไปให้คนในครอบครัวของตนเองดื่ม ซึ่งพบว่าช่วยให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงได้ขยายผลไปทดลองกับคนไข้โรคต่างๆ อาทิเช่น ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน โรค SLE โรคพัฒนาการช้า โรคที่เกี่ยวกับระบบอวัยวะขาดเลือดต่างๆ โรคเอดส์ และอื่นๆ มาตลอดระยะเวลาประมาณ 4 ปี ซึ่งพบว่าน้ำเอ็มเร็ทสามารถช่วยให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ซึ่งล่าสุดศึกษาวิจัยเรื่อง “การศึกษาเปรียบเทียบระดับภูมิคุ้มกันซีดี 4 และ ซีดี 8 และปริมาณเชื้อ HIV ในผู้ป่วยเอดส์ที่ดื่มน้ำเอ็มเร็ทกับน้ำธรรมดา” โดยทำการวิจัยประสิทธิภาพของน้ำเอ็มเร็ท กับผู้ป่วยเอดส์ระยะสุดท้ายจำนวน 55 ราย แต่ละรายมีโรคแทรกซ้อนต่างๆ เช่น มะเร็ง เชื้อราขึ้นสมอง น้ำท่วมปอด ท้องเสีย คันและเป็นตุ่มผิวหนังที่วัดพระบาทน้ำพุ เปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ดื่มน้ำดังกล่าว ทั้งนี้ ได้สรุปผลการวิจัยว่า ผู้ป่วยที่ดื่มน้ำเอ็มเร็ทแล้ว 6 เดือน ปริมาณ ซีดี4 จะแตกต่างจากก่อนดื่มน้ำอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (Non-Parametric Statistical Analysis) และเมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ย ซีดี4 หลังดื่มน้ำเอ็มเร็ท จะเห็นว่ามีปริมาณ ซีดี4 เพิ่มขึ้นมากกว่าก่อนดื่มน้ำ และปริมาณไวรัสเฉลี่ยลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมายถึงน้ำปรับโมเลกุลเอ็มเร็ท มีคุณสมบัติพิเศษเสริมการฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยเอดส์ เมื่อดื่มควบคู่ไปกับยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
"ปัจจุบันมีผู้ป่วยด้วยโรคต่างๆ จำนวนมากโดยเฉพาะโรคมะเร็ง อย่างมะเร็งต่อมลูกหมากผู้ชายเกือบร้อยละ 50 มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดโรคนี้แต่เอ็มเร็ทถือว่าเป็นทางเลือกหนึ่งของการรักษาสุขภาพและการป้องกันโรคต่างๆ ด้วยน้ำซึ่งน้ำ" เป็นของเหลวที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิตบนโลก และในร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นองค์ประกอบประมาณ 70-75% ซึ่งร่างกายมีการสูญเสียน้ำตลอดเวลา เราจึงต้องดื่มน้ำเข้าไปทดแทนเพื่อให้การทำงานของเซลล์ในร่างกายเป็นไปได้อย่างปกติ แต่ในปัจจุบัน เราสามารถเปลี่ยนน้ำสะอาดธรรมดาให้มีคุณสมบัติพร้อมใช้งานสำหรับเซลล์ในร่างกายได้ด้วยเทคโนโลยี "เอ็มเร็ท" จึงเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจเนื่องจากมีที่มาจาก "น้ำพุภูเขา" ต้นแบบของ "น้ำแอคทิเวทเอ็มเร็ท" มีลักษณะพิเศษคือ มีการเคลื่อนไหวที่ให้พลังงานโมเลกุลในระดับสูงกว่าน้ำธรรมดา ซึ่งเป็นผลจากค่าเฉพาะของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าในบริเวณที่พบน้ำพุธรรมชาติ เป็นทางเลือกหนึ่งของการรักษาสุขภาพ” นพ.พีรยศกล่าว
นพ.ชอง คา ชิน อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชาวมาเลเซียผู้ศึกษาและทดลองน้ำแอคทิเวทเอ็มเร็ทกับผู้ป่วยโรคต่างๆ กล่าวว่า น้ำเอ็มเร็ทจะช่วยขับสารพิษในร่างการในช่วงระยะการดื่ม 1 เดือนแรก โดยจะมีผลข้างเคียงคือปัสสาวะมีกลิ่นน้อยลง มีท้องเสียบ้างรวมทั้งมีอาการปวดหัวเล็กน้อยแต่อาการเหล่านี้จะหายไปในช่วงเข้าเดือนที่สองและ 90% จะรู้สึกร่างการสดชื่นขึ้น ส่วนอีก 10% จะเป็นกลุ่มที่ร่างการแข็งแรงอยู่แล้วอาจจะไม่เห็นผลการเปลี่ยนแปลง
น้ำ MRET สามารถทำให้สารอนุมูลอิสระ ของร่างกายเราเป็นกลาง ทันทีที่แอคทิเวท น้ำ MRET จะมีไฮโดรเจนไอออนในปริมาณที่เหมาะสม สามารถยับยั้งการออกซิเดชั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเนื่องจากน้ำได้เข้าสู่ทุกเซลล์ในร่างกายเรา จึงทำให้ของเสียที่เป็นพิษ ซึ่งเก็บอยู่ในเซลล์ถูกขับออกมาได้ กระบวนการนี้เท่ากับเป็นการฟื้นฟูร่างกายให้กลับสู่สภาพเดิม เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน น้ำดื่มธรรมดาจะมีระบบการเรียงตัวที่ไม่เป็นระเบียบ ซึ่งไม่ได้ช่วยให้เกิดเสถียรภาพของสารเหลวในร่างกาย (เลือด,น้ำเหลือง) และเป็นผลให้ไม่สามารถสนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันตามปกติ ยิ่งโครงสร้างของน้ำมีการจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบมากเท่าไหร่ เสถียรภาพสารเหลวในร่างกายก็ยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งน้ำ MRET มีระดับการจัดเรียงโครงสร้างโมเลกุลในระดับสูงมาก ด้วยเหตุนี้น้ำเอ็มเร็ทจึงมีอิทธิพลต่อการป้องกันโรคต่างๆ และช่วยฟื้นฟูสุขภาพร่างกายได้