กรุงเทพฯ--24 พ.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
งานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 5 MONEY EXPO 2005 เงินสะพัดกว่า 79,000 ล้านบาท คนแห่เข้าคิวกู้ซื้อบ้าน ดันสินเชื่อบ้านนำลิ่วอันดับหนึ่ง มูลค่ากว่า 65,000 ล้านบาท หรือ 82% ของมูลค่าธุรกรรมรวม ตามด้วยสินเชื่อ SMEs ที่เปิดโอกาสสร้างธุรกิจด้วยยอดรวม 10,000 ล้านบาท สินเชื่อบุคคลมาอันดับสาม 2,000 ล้านบาท และบัตรเครดิตอันดับสี่ 1,600 ล้านบาท เผยยอดผู้เข้าชมงานทะลุกว่า 6 แสนคน ผู้สมัครใช้บริการกว่า 1 แสนราย
นายสันติ วิริยะรังสฤษฏ์ ประธานคณะกรรมการจัดงาน MONEY EXPO 2005 เปิดเผยว่า งานมหกรรมการเงินครั้งที่ 5 MONEY EXPO 2005 อนาคตที่สดใส:Brighter Future ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2548 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งอีกปีหนึ่ง โดยมีประชาชนทั่วไป นักธุรกิจ นิสิต นักศึกษา และนักเรียน ให้ความสนใจเข้าชมงานอย่างคับคั่งกว่า 6 แสนคน
งานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 5 ยังบรรลุเป้าหมายที่ต้องการให้ผู้เข้าชมงานมีอนาคตที่สดใสขึ้นด้วยการใช้บริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงินภายในงานเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตและธุรกิจ จากธนาคารพาณิชย์ ธนาคารของรัฐ บริษัทการเงิน บริษัทประกันชีวิต/ประกันภัย บริษัทเงินทุน/บริษัทลิสซิ่ง บริษัทหลักทรัพย์/บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน โดยปริมาณธุรกรรมภายในงานมีมูลค่ากว่า 79,000 ล้านบาท และมีผู้สมัครใช้บริการกว่า 1 แสนคน
ธุรกรรมที่ผู้เข้าชมงานสมัครใช้บริการมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งได้แก่ สินเชื่อบ้าน โดยมีมูลค่ามากถึง 65,000 ล้านบาท เมื่อวัดจากวงเงินที่สมัครใช้บริการแล้ว สินเชื่อบ้านมีสัดส่วน 82% ของปริมาณธุรกรรมรวม เพราะสถาบันการเงินมีการนำเสนออัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษให้กับลูกค้าภายในงาน ซึ่งถือเป็นการคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นรอบสุดท้ายก่อนที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ส่วนธุรกรรมที่ผู้สมัครใช้บริการมากเป็นอันดับสองคือ สินเชื่อ SMEs โดยมีมูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นกว่า 13% ของปริมาณธุรกรรมรวม ขณะที่อันดับสามได้แก่ สินเชื่อบุคคล ซึ่งมีมูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท มีสัดส่วนเพียง 2% เท่านั้น ส่วนบัตรเครดิตตามมาเป็นอันดับสี่ มูลค่ารวม 1,600 ล้านบาท
นายสันติกล่าวว่า ยอดสินเชื่อบ้านที่มีผู้สมัครใช้บริการมากเป็นอันดับหนึ่งนั้น สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการที่อยู่อาศัยของประชาชนยังมีอยู่อีกมาก และการมีบ้านก็เพื่อความมั่นคงในชีวิต ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของงาน MONEY EXPO 2005 ที่ต้องการให้ผู้เข้าชมงานมีอนาคตสดใส และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง
ปริมาณธุรกรรมสินเชื่อ SMEs ที่มากเป็นอันดับสอง ก็มีนัยสำคัญเช่นเดียวกัน เพราะแสดงให้เห็นว่า นอกจากการมีบ้านซึ่งนับเป็นความมั่นคงของชีวิตแล้ว ผู้เข้าชมงานยังแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ ที่จะสร้างเสริมรายได้มาให้กับตนเองและครอบครัว นำพามาซึ่งความสุขในการดำรงชีวิต และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสร้างสังคมผู้ประกอบการ ซึ่งงาน MONEY EXPO 2005 ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่ต้องการทำธุรกิจเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างแท้จริง
สำหรับบริการบัตรเครดิต ซึ่งมีความกังวลกันมากว่าจะเป็นช่องทางที่เปิดให้ประชาชนสร้างหนี้สินได้ง่ายนั้น ปรากฏว่า ในงาน MONEY EXPO 2005 การสมัครใช้บริการบัตรเครดิตไม่ได้มากอย่างที่คาดกัน โดยมีการสมัครใช้บริการมากเป็นอันดับ 4 มีวงเงินรวมกว่า 1,600 ล้านบาท หรือ 2% ของปริมาณธุรกรรมรวมของงาน
นายสันติกล่าวว่า สาเหตุที่มีผู้เข้าชมงานและสมัครใช้บริการกับ ธนาคาร, บริษัทหลักทรัพย์, บริษัทจัดการกองทุน และบริษัทประกันชีวิต/ประกันภัย จำนวนมากกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้นำเสนอกิจกรรมที่มีสีสันดึงดูดลูกค้า พร้อมทั้งนำเสนอโปรโมชั่นทางการเงินในเงื่อนไขพิเศษ โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มต้นที่ 0% และยังเสนอเงื่อนไขระยะเวลาการผ่อนชำระนานเป็นพิเศษ ตลอดจนยังเปิดตัวบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีเงื่อนไขพิเศษภายในงานด้วย
นอกจากโปรโมชั่นพิเศษที่ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารของรัฐ บริษัทการเงิน บริษัทประกันชีวิต/ประกันภัย บริษัทเงินทุน/บริษัทลิสซิ่ง บริษัทหลักทรัพย์/บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน นำเสนอภายในงานแล้ว ยังได้เตรียมของที่ระลึกไว้แจกให้กับผู้ที่เข้าชมบูธและผู้สมัครใช้บริการด้วย
ทางด้านบริษัทการเงิน หรือ นอนแบงก์ ที่ได้เข้าร่วมงาน MONEY EXPO 2005 เป็นครั้งแรก ก็ประสบความสำเร็จจากการร่วมออกบูธเช่นกัน โดยสามารถปล่อยสินเชื่อภายในงานได้ประมาณ 300 ล้านบาท ทั้งนี้ เพราะนอนแบงก์ที่เข้าร่วมงานมีการนำเสนอบริการ ทั้งการเปิดตัวบริการใหม่ และการให้บริการที่มีสิทธิประโยชน์เงื่อนไขพิเศษมากมาย รวมทั้งมีการแจกของที่ระลึก โดยนอนแบงก์ส่วนใหญ่มีเป้าหมายที่จะสร้างความรับรู้เกี่ยวกับธุรกิจให้กับประชาชนทั่วไป
สำหรับบริษัทประกันก็ได้รับความสำเร็จเกินความคาดหมาย เพราะผู้เข้าชมงานให้ความสนใจซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิต คิดเป็นทุนประกันกว่า 600 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความรู้ และสนใจสอบถามข้อมูลของกรมธรรม์แต่ละประเภทอย่างละเอียดก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ
ส่วนทางด้าน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มีจำนวนผู้ซื้อกองทุนรวม 750 ราย มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท และมีผู้เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ประมาณ 1,500 ราย มูลค่า 250 ล้านบาท
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049
วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797--จบ--