สรรพากรกำชับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลให้ประมาณการกำไรสุทธิครึ่งปีให้ถูกต้อง

ข่าวทั่วไป Wednesday July 4, 2012 10:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีหน้าที่ต้องยื่นแบบเพื่อเสียภาษีครึ่งปี ภายใน 2 เดือนนับแต่ครบ 6 เดือนแรก ซึ่งหากมีรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 54 ก็ต้องจัดทำประมาณการกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิทั้งปี เพื่อเสียภาษีกึ่งหนึ่งของกำไรสุทธิที่ประมาณการได้ โดยยื่นแบบ ภ.ง.ด. 51 ภายในเดือนสิงหาคมนี้ ไม่ว่าจะมียอดขายจำนวนเท่าใดก็ตาม ทั้งนี้ เว้นแต่เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ฯลฯ ซึ่งต้องเสียภาษีครึ่งปีจากรายได้และรายจ่ายที่เกิดขึ้นจริงในรอบระยะเวลา 6 เดือน ดร. สาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากรกล่าวว่า “กรมสรรพากรตระหนักดีว่าลูกค้าหลายรายของกรมฯ ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมตั้งแต่ปีที่แล้ว และส่งผลกระทบต่อเนื่องมาใน 2 ไตรมาสแรกของปีนี้ ทำให้บริษัท ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ อย่างไรก็ตาม บริษัทก็มีแนวโน้มที่จะมีรายได้มากขึ้นใน 2 ไตรมาสหลัง ดังนั้น ในการยื่น ภ.ง.ด. 51 บริษัทจึงต้องจัดทำประมาณการกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิทั้งปี โดยคำนึงถึงผลประกอบการในครึ่งปีหลังด้วย เพื่อให้ใกล้เคียงกับผลประกอบการทั้งปีมากที่สุด เพราะหากบริษัทยื่นประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกินร้อยละ 25 โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร บริษัทก็จะต้องเสียเงินเพิ่มด้วย” ดร. สาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากรกล่าวเพิ่มเติมว่า “หากบริษัทยื่นแบบ ภ.ง.ด. 51 ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ก็จะได้รับสิทธิขยายเวลาการยื่นแบบออกไปอีก 8 วันโดยอัตโนมัติ และถ้าหากบริษัทใช้บัตรเครดิต ของธนาคารกรุงไทย ไทยพาณิชย์ หรือกสิกรไทยในการชำระภาษีด้วย บริษัทจะสามารถยืดระยะเวลาการชำระภาษีได้สูงสุดถึง 2 เดือน ซึ่งจะส่งผลดีต่อ Cash flow ของบริษัทเป็นอย่างมาก”

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ