กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--มทร.พระนคร
ในปี พ.ศ.2558 จะมีการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ดังนั้น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร จึงได้ตะหนักถึงความสำคัญ พัฒนาการเรียนการสอน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับนักศึกษาและคณาจารย์
รศ.ดวงสุดา เตโชติรส อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (มทร.พระนคร) กล่าวว่า “มทร.พระนคร มีแนวทางในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน รวมถึงการเตรียมความพร้อมของนักศึกษาและคณาจารย์ เพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 โดยการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้ทันสมัย ผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพสามารถแข่งขันในตลาดแรงงานระดับอาเซียนหรือระดับโลก ด้วยการส่งเสริมให้คณาจารย์และนักศึกษาเรียนรู้การใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการเรียนและการดำเนินชีวิตมากยิ่งขึ้น เช่น การจัด English Camp โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแลนเดอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมเปิดสอบการวัดประสิทธิภาพก่อนจบ นอกจากนี้ทุกๆ หลักสูตรของมหาวิทยาลัยยังได้สอดแทรกความรู้ทางด้านไอทีและวิธีการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนอีกด้วย”
ด้าน ผศ.สุภัทรา โกไศยกานนท์ รองอธิการบดีด้านวิชาการและวิเทศสัมพันธ์ มทร.พระนคร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปีการศึกษา 2555 นี้ มทร.พระนคร มีการปรับหลักสูตรให้เข้าเกณฑ์ TQF (Thailand Qualification Framework) คือ กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ ซึ่งเป็นเครื่องมือวัดคุณภาพมาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา โดยจะแตกต่างจากการเรียนการสอนแบบเดิม คือ การเรียนแบบ TQF จะกำหนดกรอบให้ทุกสาขาวิชานักศึกษาจะต้องได้รับความรู้ 5 ด้าน คือ 1.ด้านคุณธรรมจริยธรรม (Ethics and Moral), 2.ด้านความรู้ (Knowledge), 3.ด้านทักษะทางปัญญา (Cognitive Skills), 4.ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ-ทักษะทางสังคม (Interpersonal Skills and Responsibility) และ 5.ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (Numerical Analysis ,Communication and Information Technology Skills)
แต่หากรายวิชาใดที่เป็นวิชาปฏิบัติ จะเพิ่มทักษะด้านที่ 6 คือ ทักษะการปฏิบัติทางวิชาชีพ คือนักศึกษาต้องมีความสามารถในการปฏิบัติการแบบองค์รวม สามารถนำวิชาความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้กับการดำรงชีวิตได้ ดังนั้นเราจึงสามารถรับรองได้ว่าบัณฑิตทุกคนที่จบการศึกษาจาก มทร.พระนคร ล้วนเป็นคนคุณภาพ สามารถประกอบอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยที่มหาวิทยาลัยแห่งโลกอาชีพ” ผศ.สุภัทรา กล่าวในตอนท้าย