ม.อ. วางเป้า 3 ปีขึ้นท็อปเทนมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งอาเซียน หนุนสร้างนักวิจัยคุณภาพ เน้นแก้ปัญหาชุมชน-พัฒนาท้องถิ่น

ข่าวทั่วไป Wednesday July 4, 2012 13:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ อธิการบดี ม.อ. คนใหม่ ชูวิสัยทัศน์ในการวางเป้าหมายผลักดัน ม.อ.ก้าวขึ้นสู่การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งการวิจัยติดอันดับ 1 ใน 10 ในระดับอาเซียนภายใน 3 ปี ประกาศหนุนสร้างนักวิจัยคุณภาพ พร้อมลงพื้นที่ชุมชนรับฟังเสียงปัญหาและความต้องการของชุมชนในพื้นที่ หวังนำมาใช้เป็นหัวข้องานวิจัย มุ่งเน้นแก้ปัญหาชุมชนได้ดีขึ้น เพื่อยกระดับ ม.อ. เป็นมหาวิทยาลัยที่เป็นที่พึ่งของชุมชน รองศาสตราจารย์ ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) กล่าวในงานเสวนา ‘ทิศทางการวิจัยของ ม.อ. ในช่วง 3 ปีต่อจากนี้’ ว่า หลังจากที่ได้เข้ารับตำแหน่งอธิการบดี เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา มีแนวคิดที่ต้องการจะผลักดัน ม.อ.ให้ก้าวไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำติด 1 ใน 10 อันดับแรกของอาเซียนให้ได้ภายใน 3 ปี จากปัจจุบันที่ ม.อ.ได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับที่ 13 จากการประกาศของ SCImago Institutions Rakings ดังนั้น มหาวิทยาลัยจึงได้วางกลยุทธ์เพื่อก้าวสู่เป้าหมาย โดยจะเร่งเพิ่มนักวิจัยใหม่ให้มากขึ้น รวมถึงการจัดหาทรัพยากรมาสนับสนุนที่เพียงพอ โดยเฉพาะนักศึกษาระดับปริญญาเอกที่เป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการทำวิจัย เพื่อผลักดันผลงานทางด้านวิชาการไปสู่การตีพิมพ์ในวารสารที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายที่จะนำมหาวิทยาลัยสู่สังคมแห่งปัญญา เพื่อให้มหาวิทยาลัยเป็นที่พึ่งแก่ชุมชน โดยใช้งานวิจัยมาช่วยสนับสนุนสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชน สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้ไปประมวลผลเพื่อใช้แก้ปัญหาของชุมชน โดยได้มอบหมายให้สำนักวิจัยและพัฒนา ซึ่งประกอบด้วย สำนักงานประสานงานวิจัยอุตสาหกรรมและชุมชน อุทยานวิทยาศาสตร์และหน่วยบริการวิชาการกลาง ที่เป็นหน่วยงานกลางที่จัดตั้งขึ้นใหม่ เป็นตัวขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายที่ต้องการให้งานวิจัยเข้าไปช่วยแก้ปัญหาชุมชนให้ได้ร้อยละ 70 ของงานวิจัยทั้งหมด ด้านรองศาสตราจารย์ ดร.พีระพงศ์ ทีฆสกุล รองอธิการบดีฝ่ายระบบวิจัยและบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า ม.อ.กำลังปรับเปลี่ยนวิธีการเข้าถึงชุมชน โดยให้นักวิชาการสาขาสังคมศาสตร์นำร่องเข้าไปสำรวจความคิดเห็นและความต้องการของชุมชน เพื่อเปิดทางให้นักวิชาการในสาขาที่เกี่ยวข้องใช้งานวิจัยเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาให้ตรงต่อความต้องการของคนในชุมชนได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ