แสนสิริเผยแผนครึ่งปีหลัง 55 เตรียมเปิดอีก 21 โครงการใหม่ มูลค่า 26,600 ล้านบาท

ข่าวอสังหา Wednesday July 4, 2012 16:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--แสนสิริ แสนสิริเผยแผนครึ่งปีหลัง 55 เตรียมเปิดอีก 21 โครงการใหม่ มูลค่า 26,600 ล้านบาทส่งทาวน์เฮาส์ลุยตลาดไตรมาส 3 พร้อมดันแบรนด์ เดอะ เบส — ดีคอนโด รุกขยายฐานต่างจังหวัด -โชว์ผลงานยอดขายครึ่งปีแรกกว่า 20,600 ล้าน เกินกว่า 50% จากเป้ายอดขายทั้งปี- แสนสิริสรุปผลงาน 6 เดือนแรกปี 2555 โกยยอดขายแล้วกว่า 20,600 ล้านบาท เกินกว่า 50% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ 36,000 ล้านบาท มั่นใจยอดขายได้ตามเป้า พร้อมเผยแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง เตรียมเปิดอีก 21 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 26,600 ล้านบาท ดันแบรนด์เดอะ เบส — ดีคอนโดรุกขยายฐานตลาดต่างจังหวัด พร้อมรุกหนักตลาดทาวน์เฮาส์ในไตรมาส 3 ลุยเปิดตัวพร้อมกัน 7 โครงการ คาดผลการดำเนินงานเติบโตโดดเด่น ทั้งในด้านยอดขายรายได้และกำไร นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยถึงสรุปผลการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 ว่าบริษัทสามารถสร้างยอดขาย(พรีเซล)จากโครงการที่อยู่อาศัยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 ได้สูงถึง 20,600 ล้านบาท หรือคิดเป็น 57% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ 36,000 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขายในช่วงครึ่งปีแรกที่ 12,000 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ บริษัทสามารถขยายฐานรายได้จากตลาดต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น คิดเป็นประมาณ 22% จากยอดขาย 20,600 ล้านบาทที่สามารถทำได้ในครึ่งปีแรก ทำให้เชื่อมั่นว่าในปีนี้กลุ่มบริษัทแสนสิริจะสามารถสร้างยอดขายจากโครงการที่อยู่อาศัยได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน “ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 20,600 ล้านบาท ซึ่งนับว่าสูงที่สุดตั้งแต่บริษัทเริ่มดำเนินธุรกิจ โดยแบ่งเป็นยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยในช่วงไตรมาสแรก มูลค่ารวมกว่า 12,000 ล้านบาท รวมทั้งยอดขายในช่วงไตรมาส 2 ที่สามารถปิดการขายได้ถึงประมาณ 8,600 ล้าน จากการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ต่างๆ อย่างต่อเนื่องถึง 23 โครงการ รวมทั้งความสำเร็จจากการรุกตลาดต่างจังหวัดโดยเฉพาะที่จ.ภูเก็ต อาทิ ล่าสุดกับโครงการคอนโดมิเนียม เดอะ เบส ดาวน์ทาวน์ ภูเก็ต ที่สามารถปิดการขายได้ถึงกว่า 90% ภายในระยะเวลา 3 วันที่เริ่มเปิดการขายในช่วงวันศุกร์ — เสาร์ และอาทิตย์ที่ผ่านมา รวมทั้งผลงานในช่วงต้นปีกับการเปิดการขายคอนโดมิเนียม ดีคอนโด กะทู้ — ป่าตอง ซึ่งเป็นโครงการที่ 2 ในจ.ภูเก็ตที่สามารถปิดการขายได้รวดเร็วต่อเนื่อง เช่นเดียวกับดีคอนโดโครงการแรก, โครงการคอนโดมิเนียม HQ ทองหล่อ ซึ่งปิดการขายโครงการมูลค่าถึง 1,600 ล้านบาทได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 วัน ,โครงการซาริ บาย แสนสิริ ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 60% รวมทั้ง เดอะ เบส พระราม 9 — รามคำแหง ซึ่งปิดการขายโครงการมูลค่า 1,700 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว และเดอะ เบส แจ้งวัฒนะ ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 65% นอกจากนี้ในช่วงไตรมาสแรกบริษัทยังประสบความสำเร็จจากการจัดงาน Sansiri Life Comes Home ที่สามารถสร้างยอดขายในช่วงระยะเวลาการจัดงานเพียง 3 วัน เป็นมูลค่าถึง 3,700 ล้านบาท ต่างๆ ดังกล่าวทำให้บริษัทเล็งเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจที่ชัดเจนรวมทั้งมีความมั่นใจกับเป้าหมายยอดขายที่ได้ตั้งไว้ จากแผนการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่รวมทั้งสิ้น 44 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 46,000 ล้านบาท” นายเศรษฐา กล่าว สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2555 บริษัทจะมีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ อีกประมาณ 21 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 26,600 ล้านบาท โดยบริษัทได้วางแผนรุกธุรกิจในตลาดต่างจังหวัดต่อยอดความสำเร็จจากในช่วงที่ผ่านมา โดยได้เตรียมนำเสนอที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์ เดอะ เบส และ ดีคอนโด เพื่อรุกขยายฐานในตลาดต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ในช่วงไตรมาสที่ 3 บริษัทฯ ยังมีแผนรุกตลาดทาวน์เฮาส์อย่างต่อเนื่อง โดยจะเปิดตัวโครงการทาวน์เฮาส์ใหม่พร้อมกันถึง 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 3,900 ล้านบาท สำหรับแผนการพัฒนาทาวน์เฮาส์ของแสนสิริในปีนี้จะใช้ แบรนด์ “ทาวน์ อเวนิว” เป็นหัวหอกหลักที่จะเปิดตัวในทำเลต่างๆ รอบกรุงเทพฯ นอกจากนี้เพื่อสร้าง Awareness แก่โครงการทาวน์เฮาส์ของแสนสิริให้โดดเด่นและมีจุดขายที่แตกต่างจากคู่แข่งในตลาดอื่นๆ อย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา รวมทั้งเพื่อต้องการให้ผู้บริโภคตระหนักว่า แสนสิริออกแบบทาวน์เฮาส์ด้วยความใส่ใจในรายละเอียดของการใช้ชีวิต จึงทำให้ทาวน์เฮาส์ของแสนสิริ มีพื้นที่ใช้สอยที่ไม่แตกต่างจากบ้านเดี่ยวรวมทั้งเป็นได้มากกว่าดีไซน์ที่สวยงามเพียงภายนอก บริษัทยังได้วางแผนต่อยอดแคมเปญทาวน์เฮาส์ “My World” ต่อเนื่อง โดยแคมเปญใหม่นี้ จะมีการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 3 นี้ เช่นเดียวกัน “แสนสิริ จะเป็นบริษัทฯ ที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาวต่อจากนี้ ทั้งในด้านยอดขาย รายได้และกำไร โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้แล้วถึง 20,600 ล้านบาท นอกจากนี้ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทยังมีแผนเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ อีกถึง 21 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 26,600 ล้านบาท ซึ่งทำให้มั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายยอดขายทั้งปี ที่ตั้งไว้ 36,000 ล้านบาท ที่ได้มีการปรับเพิ่มจากเป้าหมายเดิมที่เคยตั้งไว้ 32,000 ล้านบาทในช่วงต้นปีได้อย่างแน่นอน” นายเศรษฐากล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ