กรุงเทพฯ--7 ก.ค.--กลุ่มบริษัทซีดีจี
อีเอสอาร์ไอ ประกาศบุกตลาดระบบนำทางรถยนต์ (Car Navigator) ด้วย GPS เผยมียุทธศาสตร์ที่แข็งแกร่งเพราะกุมหัวใจหลัก ‘ข้อมูลแผนที่ประเทศไทยที่ละเอียดและถูกต้องที่สุด’ ไว้ในมือ ระบุมีผลิตภัณฑ์เตรียมพร้อมสนองความต้องการตลาดทั้ง Street Pilot 2610 , iQue 3600 และ cfQue 1620 หลังล่าสุดติดตั้งระบบนำทางรถยนต์ให้รถยนต์ซีดานสุดหรู TOYOTA CAMRY ไปเรียบร้อยแล้ว
นายวิชัย แสงหิรัญวัฒนา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงนโยบายการทำตลาดเครื่องนำทางโดยอาศัยสัญญาณดาวเทียม (GPS : Global Position System) ในปีนี้ว่า ทางบริษัทอีเอสอาร์ไอ ได้เริ่มทำตลาด GPS มาเป็นระยะเวลาพอสมควร จึงทำให้เกิดแนวคิดที่จะเพิ่มมูลค่า (Value Add) ให้กับผู้ใช้งาน GPS ประกอบกับขณะนี้ทิศทางในตลาดโลกไม่ว่าจะเป็นยุโรป อเมริกา เอเชีย โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นจะเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดมีความนิยมใช้ GPS เพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกันอีเอสอาร์ไอนั้นเป็นผู้นำทางด้านระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ซึ่งมีข้อมูลแผนที่เป็นปัจจัยสำคัญ โดยบริษัทฯได้สะสมและจัดทำข้อมูลแผนที่ประเทศไทยเสร็จเรียบร้อยแล้ว เรียกว่าชุด ArcData ซึ่งเป็นแผนที่ที่มีความละเอียดและถูกต้องเหมาะสมที่สุดในปัจจุบัน ดังนั้น เราจึงได้ดัดแปลงแผนที่ชุด ArcData ให้อยู่ใน Format ของ GPS ที่ใช้เป็นระบบนำทางรถยนต์ (Car Navigator) เพื่อใช้สำหรับบุคคลทั่วไป หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการนำเอา ArcData ไปใช้ประยุกต์ในงาน GIS ของหน่วยงานต่างๆ มากมายในระดับองค์กร
“ข้อมูลแผนที่ที่อยู่ในระบบนำทางรถยนต์ จะมีลักษณะเฉพาะของตัวมันเอง นั่นคือ นอกจากความละเอียดแล้ว ยังต้องมีความถูกต้องที่ระดับหนึ่ง และมีข้อมูลที่สำคัญคือ ข้อมูลทางด้านจราจร ซึ่งการจราจรก็หมายถึง เส้นทางการเดินรถ ตรงไหน One Way ตรงไหนเลี้ยวได้ เลี้ยวไม่ได้ ฯลฯ ซึ่งข้อมูลแผนที่เหล่านี้เราก็ได้จัดใส่ลงไปใน GPS ซึ่งเป็นระบบนำทางรถยนต์ โดยล่าสุดเราได้ติดตั้งระบบ GPS ที่เป็นระบบนำทางรถยนต์ให้กับรถยนต์ TOYATA CAMRY รุ่นล่าสุดไปเรียบร้อยแล้ว”
นายวิชัยกล่าวต่อว่า ขณะนี้เรามีผลิตภัณฑ์ GPS หลายรุ่นที่สามารถใช้เป็นระบบนำทางรถยนต์ อาทิ Street Pilot 2610 ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้เป็น Navigator ติดรถโดยเฉพาะ มีจอใหญ่เห็นได้ชัดทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน และกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับผู้ใช้ PDA คือ iQue3600 ซึ่งเป็น GPS ที่สามารถทำงานได้ทั้ง PDA ในระบบปฏิบัติการ Palm OS 5 และนำทางแบบ Navigator พร้อมเสียง (Voice Guidance) สามารถนำติดตัวไป หรือใช้ในรถยนต์เพื่อใช้นำทาง และเป็น Organizer ในตัว และสำหรับผู้ที่นิยมใช้ Pocket PC ในเดือนกรกฎาคมนี้ อีเอสอาร์ไอจะออก GPS รุ่น cfQue 1620 ยี่ห้อ GARMIN เช่นเดียวกันที่สามารถใช้กับ Pocket PC ของค่ายไมโครซอฟท์ได้ ทั้งนี้ GPS ทุกรุ่นจะบรรจุข้อมูลแผนที่ของกรุงเทพฯ มาตรส่วน 1:4,000 และแผนที่ทั่วประเทศไทยมาตรส่วน 1:20,000 ไว้เสร็จ และจะมีการอัพเดทข้อมูลแผนที่ปีละครั้ง
“เรามีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมตลาด ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีกลุ่มเป้าหมายอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น GPS พื้นฐานสำหรับผู้ที่ชอบท่องเที่ยวเดินป่า ขี่จักรยาน ไปจนถึง GPS ที่ใช้ติดรถยนต์ Street Pilot ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถซื้อแล้วนำไปในติดไว้ในรถเพื่อใช้ในการนำทาง หรือว่าบริษัทรถเช่าก็สามารถนำไปใช้ในการให้บริการลูกค้าได้ ส่วน iQue3600 หรือ cfQue ก็สามารถใช้ทำงานแบบ PDA และเวลาเดินทางก็นำมาติดรถ เพราะรุ่นนี้เรามีชุด Kit สำหรับการวางไว้ในรถ พร้อมที่ชาร์ดแบตเตอรี่ตรงที่จุดบุหรี่ของรถ โดยจุดเด่นของ Navigator ทุกตัวก็คือ เสียงพูดในการนำทาง ถ้าถึงจุดที่จะต้องเลี้ยวก็จะมีเสียงเตือนว่า ระยะห่างอีก 100 เมตร 200 เมตรจะต้องเลี้ยว ซึ่งมีประโยชน์ในด้านการนำมาใช้วางแผนการเดินทาง หรือ จุดที่เราไม่ทราบว่าอยู่ตรงไหน ก็สามารถค้นหาได้ โดยตัวข้อมูลจะมีจุดที่น่าสนใจกว่า 200,000 จุดครอบคลุมทั่วประเทศ มีความละเอียดอยู่ในเมืองหลัก 100 กว่าเมือง รวมทั้งแผนที่เส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงทั่วประเทศ”
นายวิชัยกล่าวถึงตลาด GPS ในเมืองไทยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2547 อีเอสอาร์ไอได้เริ่มวางตลาด Navigator ในรูปแบบของ PDA และรุ่นสำหรับติดรถยนต์ ซึ่งสามารถเคลื่อนย้ายไปวางไว้ที่รถคันไหนก็ได้ โดยมีการตอบรับจากตลาดที่ดีมาก ดังนั้น อีเอสอาร์ไอจึงมีความมั่นใจว่า ตลาดนี้น่าจะไปได้ดี ซึ่งปีนี้อีเอสอาร์ไอได้เริ่มต้นทำตลาด Car Navigator อย่างจริงจัง เพราะมีความพร้อมในตัวข้อมูลแผนที่ หลังจากในปีที่ผ่านมา บริษัทฯแทบจะไม่ได้ทำตลาดเลย เนื่องจากบริษัทฯ เพิ่งจะจัดการกับตัวข้อมูลเสร็จเรียบร้อย พร้อมๆกับทดสอบข้อมูล และดูทิศทางตลาดด้วย
สำหรับการทำตลาดนั้น อีเอสอาร์ไอจะจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) หรือหากมีผู้ที่สนใจก็สามารถสั่งซื้อโดยตรงได้ที่บริษัทอีเอสอาร์ไอ “ปัจจัยสำคัญของการทำตลาดระบบนำทางรถยนต์ก็คือ ตัวข้อมูลแผนที่ จะสังเกตุได้ว่า ก่อนหน้านี้มีรถยนต์หลายรุ่นที่ตัวฮาร์ดแวร์มีระบบ Navigator อยู่ในรถอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถใช้งานในประเทศไทยได้ สาเหตุไม่ใช่มาจากตัว GPS เพราะ GPS สามารถใช้งานได้ทั่วโลก แต่ประเด็นก็คือ ไม่มีตัวแผนที่”นายวิชัยกล่าวในตอนท้าย
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ :
คุณชุติมา สีดา
คุณนุสรินทร์ เพ็ชร์หลำ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กลุ่มบริษัทซีดีจี
โทร. 678-0200 ต่อ 2997-8
e-mail : cdgpr@cdg.co.th--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นห)--