สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 6, 2012 11:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ก.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,619 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,608 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.55 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24, 050บาท กับ 24,150 บาท และกลับมาปิดที่ 24,050 บาท กับ 24,150 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2,284คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,060คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 10 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 0.7% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 07% Silver Futures เพิ่มขึ้น 0.4% GFQ12 ปิดที่ 24,200บาท และ GFV12 ปิดที่ 24,320 บาท และ GF10Q12 ปิดที่ 24,220 บาท และ GF10V12 ปิดที่ 24,320 บาท SVQ12 ปิดที่ 894 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 12.4 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,609.4 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 60.8 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 27.67 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,279.51 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 44 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 87.22 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 47.15 จุด ปิดที่ระดับ 12,896.67จุด Ratio Gold / Silver 58 เท่ากับ ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk ราคาทองคำปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ที่ตลาดลอนดอน ปิดตลาดที่ระดับ 1,609 เหรียญ ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,624 เหรียญ ก่อนที่จะลงหลุดระดับ 1,600 เหรียญ และไปทำจุด bottom out ที่ 1,597 เหรียญ เมื่อวานนี้ธนาคารกลางอังกฤษกระตุ้นการเข้าซื้อสินทรัพย์โดยการเพิ่มวงเงิน 5 หมื่นล้านปอนด์ ธนาคารกลางจีนลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 3% ลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.31% สู่ระดับ 6% จากข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในช่วงแรก แต่ก็ดูจะเกิดอุปสรรคขึ้นเมื่อความสนใจมุ่งไปที่การประกาศอัตราดอกเบี้ยของอีซีบี โดยอีซีบีประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 0.75% ในขณะที่มีการลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงมาอยู่ที่ระดับ 0% ซึ่งส่งผลลบต่อค่าเงินยูโร แม้ว่าราคาทองคำจะพยายามที่จะทรงตัวให้ได้ในขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่า แต่ความพยายามเหล่านั้นก็ไม่สามารถต้านทานอยู่ได้ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากสภาพเศรษฐกิจในเชิงลบ และการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ที่กดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง ณ เวลา 19.30 น.ของเมื่อวาน ตลาดได้รับทราบถึงสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกที่ดูจะทรุดโทรมลง โดยเรียนรู้จากการดำเนินการของธนาคารกลางอังกฤษ อีซีบี และธนาคารกลางจีนที่ตัดสินใจผ่อนคลายนโยบายการเงิน และไม่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเพียงพอ ซึ่งสภาพเศรษฐกิจขาลงส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและกลายเป็น Safe haven ในขณะนี้ การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนนี้ส่งผลให้เกิดมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดย ADP Non-farm payrolls ออกมาเพิ่มขึ้น 176,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 103,000 ตำแหน่ง ในขณะที่ตัวเลข Unemployment Claims ลดลง 14,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 374,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม จุดประกายความหวังว่าตลาดแรงงานสหรัฐอาจกำลังฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งหลังจากที่หยุดชะงักในช่วง 2 — 3 เดือนที่ผ่านมา จึงเป็นเหตุให้ลดความหวังในมาตรการ QE3 ลง Reuters ในตลาดนิวยอร์กเอง ราคาทองคำก็ปรับตัวลงเช่นกัน โดยลดลง 0.5% มาอยู่ที่ระดับ 1,607 เหรียญ ณ เวลา 1:27 น. อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 4% จากสัปดาห์ที่ผ่านมา ในเช้านี้ที่ตลาดสิงคโปร์ ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น 0.1% มาอยู่ที่ระดับ 1,606 เหรียณ ณ เวลา 7.37 น. ตามที่นักลงทุนจับตารอการประกาศตัวเลข Non-farm payrolls ของสหรัฐ ที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีการจ้างการนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น 90,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน และการประกาศตัวเลข Unemployment Rate ของสหรัฐที่คาดว่าจะคงเดิมที่ระดับ 8.2%สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ Infoquest นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมที่กรุงแฟรงค์เฟิร์ตเมื่อวานนี้ว่า การที่อีซีบีตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% นั้นเป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานของการวิเคราะห์ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเงิน ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ตามปกติ อย่างไรก็ตามแรงกดดันด้านเงินเฟ้อปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจในยูโรโซนเผชิญกับภาวะขาลงนั้น เริ่มปรากฎชัดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความตึงเครียดในตลาดการเงินหลายแห่งของยูโรโซน และมีความเป็นไปได้ว่าจะลุกลามเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่แท้จริงของภูมิภาค นอกจากนี้ ความเสี่ยงขาลงของยูโรโซนอาจจะเกิดขึ้นจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงานในระยะกลางนี้ด้วย ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - ADP Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 133K คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงอยู่ที่ 103K ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นที่ 176K - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 386K คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงอยู่ที่ 385K ตัวเลขจริงออกมาลดลงที่ 374K - ISM Non-Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 53.7 คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงอยู่ที่ 53.1 ตัวเลขจริงออกมาลดลงที่ 52.1 -Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -0.1M คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงอยู่ที่ -1.6M ตัวเลขจริงออกมาลดลงที่ -4.3M ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม - Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 69K คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 97K - Unemployment Rate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 8.2% คาดการณ์ว่าจะออกมาเท่าเดิมที่ 8.2% วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold —ราคาทองคำในตลาดเอเชียเมื่อวานยังทรงตัวบริเวณ 1,620 เหรียญบวกลบ หลังจากที่มีการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยของอีซีบีลง 0.25% และคงอัตราดอกเบี้ยของ BoE ตัวนี้เป็นตัวผลักดันให้ราคายังคงทรงตัวและปรับตัวสูงขึ้นบ้างเล็กน้อยไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,623 เหรียญ แต่หลังจากนั้นไม่นานพอมีการประกาศตัวเลข ADP Non-farm Employment Change สูงกว่าที่คาดอย่างมากกว่า 176,000 ตำแหน่ง ก็กดดันให้มีแรงเทขายทองคำลงมาอย่างหนาแน่น และเงินค่าเงินยูโรต่อดอลลาร์เองอ่อนค่าลง รวมทั้งการประกาศตัวเลข Jobless Claims ออกมาดีกว่าที่คาดอย่างมาก ส่งผลให้ราคาทองคำหลุดลงอย่างรวดเร็ว และมีบางช่วงลงไปต่ำกว่าระดับ 1,600 เหรียญ ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับโดยประมาณ 1,597 เหรียญ ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นมาปิดที่ปลายตลาด COMEX ที่ระดับ 1,609 เหรียญ ในขณะที่ราคาน้ำมันลดลงบ้างเล็กน้อย ราคาน้ำมัน NYMEX ปิดที่ระดับ 87.22 ดอลลาร์/บาร์เรล และตลาดยังมองการแก้ปัญหาของอีซีบีเพียงการลดดอกเบี้ยนั้นไม่น่าจะเพียงพอ ทำให้เงินยูโรเองหลุดลงมากว่า 100 pips จากระดับ 1.2575 ดอลลาร์/ยูโร ลงมาเหลือที่ระดับประมาณ 1.2387 ดอลลาร์/ยูโร คือยูโรเองอ่อนค่าลง ในทางเทคนิคนั้นราคาทองคำดูจะมีแนวรับที่ดีที่บริเวณ 1,595 เหรียญ และมีแนวต้านด้านบนที่ระดับ 1,610 เหรียญ กราฟในระยะสั้นยังเป็นสัญญาณลักษณะของการปรับตัวลดลง ในกราฟรายวันยังเป็นลักษณะเคลื่อนตัวไปในทิศทาง Sideway ในกรอบ 1,590 — 1,610 เหรียญ จุดสำคัญคือ ถ้าราคาทองคำลงมาหลุดต่ำกว่าระดับ 1,595 เหรียญจะเข้าสู่ขาลงอีกครั้ง ดังนั้นราคาระดับ 1,595 เหรียญถือว่าเป็นแนวรับที่สำคัญ สำหรับเงินบาทนั้นก็มีการแกว่งตัวค่อนข้างมาก โดยเมื่อวานนี้ในช่วงเช้าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.48 บาท/ดอลลาร์โดยประมาณ และเงินบาทกลับมาอ่อนค่าไป 12 สตางค์ มาอยู่ 31.63 บาท/ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ เช้านี้ก็ทรงตัวบริเวณ 31.60 บาท/ดอลลาร์ จะเห็นได้ว่าเงินบาทเองปรับตัวอ่อนค่าสวนทางกับราคาทองคำที่ปรับตัวลดลง จึงทำให้ราคาทองคำในรูปของเงินบาทนั้นปรับตัวลดลงไม่มากนัก Gold Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,130 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,330 บาท Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,220 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,420 บาท Silver Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 870 บาท และแนวต้านที่ระดับ 900 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,595 — 1,610 เหรียญ นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) ยังเป็นการปิด Position ทำกำไร โดย Position เป็น 0% รอความชัดเจนของทิศทางตลาด และทำการขายตามเมื่อราคาหลุดบริเวณ 1,590 เหรียญลงมา นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ยังคงไม่ทำอะไร บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ