กรุงเทพฯ--8 ก.ค.--ททท.
ททท.เปิดประชุมแผนตลาดประจำปี ใช้ความสำเร็จจากการดำเนินงานที่ผ่านมา ได้นักท่องเที่ยวเกินเป้า เติบโต 25% เตรียมวางแผนข้ามปี เน้นการตลาดตามความต้องการ ปรับตำแหน่งทางยุทธศาสตร์เพื่อนำนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามามากขึ้น นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดการประชุมแผนการตลาดการท่องเที่ยวประจำปี 2548 ในเช้าวันนี้ (8 กรกฎาคม) ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีชรีสอร์ท เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรื ซึ่งในที่ประชุม โดยนางจุฑามาศ ศิริวรรณ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้กล่าวรายงานความสำเร็จจากผลการดำเนินงานในปี 2546 ที่กำหนดให้เป็นปีแห่งการปฏิรูปการท่องเที่ยว ตอบสนองวัตถุประสงค์หลักในการหาเงินตราต่างประเทศ เพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน พร้อมกับกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยเร่งแก้ไขปัญหาทัวร์ด้อยคุณภาพ ส่งเสริมกิจกรรมสำคัญ และมุ่งพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ขณะเดียวกันได้พัฒนาในตัวสินค้าทางการท่องเที่ยว ทั้งในช่วงที่เกิดวิกฤต ททท. ได้ปรับการดำเนินงานโดยเน้นเจาะขายเฉพาะกลุ่ม มีการลงนามความร่วมมือ (MOU) ในตลาดจีน ญี่ปุ่น เกาหลี และออสเตรเลีย สนับสนุนการจัดประชุมเอเปค ในส่วนของสำนักงาน ททท. ในต่างประเทศ ได้ทำงานเชิงรุกมากขึ้น ทางด้านกิจกรรมการโฆษณาประชาสัมพันธ์ การจัดโครงการเมกะ แฟม ทริป การจัดโร้ดโชว์สู่ประเทศลูกค้า ซึ่งนับว่าคอนข้างได้ผล โดยเฉพาะเจาะกลุ่มตลาดกอล ฟ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.3 กลุ่ม Hight End เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 นอกจากนี้ ด้านตลาดในประเทศ จากแคมเปญอันซีน ที่ตอกย้ำความรู้จัก และเช่นเดียวกับความถี่ของงานคอนซูเมอร์ แฟร์ ส่งผลให้มีกระแสการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวมากขึ้น มีการเดินทางและเข้าพักในโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไปสูงขึ้นร้อยละ 12.4 และมีการเดินทางของกลุ่มคอร์ปอเรท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 โดยภาพรวมของความสำเร็จจากการส่งเสริมกิจกรรม ทำให้มีการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวไปยังภูมิภาค เกิดเป็นมูลค่าเพิ่มให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และกระตุ้นค่าใช้จ่าย ในโอกาสนี้ นายสนธยา ได้ให้นโยบายต่อการจัดทำแผนการตลาด นอกจากการพิจารณาเรื่องข้อจำกัดของงบประมาณ ที่มีผลให้การวางแผนการตลาดอยู่ในวงจำกัดแล้ว ยังต้องคำนึงถึง 3 ยุทธศาสตร์ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ยุทธศาสตร์การพัฒนาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว และยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบบริหารจัดการเชิงบูรณาการ ซึ่ง ททท. จะต้องเน้นความสำคัญด้านตลาดเชิงรุกเพื่อให้สามารถแข่งขันได้กับประเทศคู่แข่งที่กำลังมีบทบาท เช่น มาเก๊า จีน สิงคโปร์ และเวียดนาม รวมทั้งยุทธศาสตร์การพัฒนาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นถึงความสำคัญต่อการส่งเสริมโครงการช๊อปปิ้ง พาราไดซ์ ที่จะให้เป็นแม่เหล็กทางการท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดตลาดที่มีการใช้จ่ายสูง ก็จะมีส่วนต่อการสนับสนุนการเติบโตตามเป้าหมายได้ทางหนึ่ง ซึ่งในยุทธศาสตร์ระยะยาว ปี 2549-2551 ได้กำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวเป้าหมายต่างชาติ 20 ล้านคน รายได้ 700,000 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อวัน โดยอยู่บนอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยตามที่องค์การการท่องเที่ยวโลกประมาณการ 7% นอกจากนี้ปัจจัยประกอบอื่นๆ ได้แก่ การติดตามความเคลื่อนไหว สถานการณ์ท่องเที่ยวของประเทศเพื่อนบ้าน การพัฒนาด้านคมนาคมเชื่อมโยงที่ใกล้จะแล้วเสร็จ เช่น สะพานข้ามโขง เส้นทางบกอีสต์เวสต์ คอร์ริดอร์ ล้วนมีส่วนสำคัญต่อการกำหนดแผนตลาด ทั้งนี้การทำงานด้านพัฒนาที่มีการตลาดเป็นตัวนำ จะทำให้ทราบถึงความต้องการและเป็นแนวทางความสำเร็จในเชิงบูรณาการ
แหล่งข่าว กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ ททท.
โทร. 0 2250 5500 ต่อ 1555-1563
โทรสาร 0 2250 5681
Web Site :ข่าวประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย http://www.tat.or.th/pr--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--