กรุงเทพฯ--9 ก.ค.--กทม.
กกต.กทม. ประกาศค่าใช้จ่ายผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ต้องไม่เกินคนละ 37 ล้านบาท คิดรวมทั้งค่าสมัคร ค่าโฆษณาหาเสียง ค่าสมัคร ค่าเตรียมการ ค่าเดินทาง ฯลฯ โดยต้องรายงานการใช้จ่ายภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันประกาศผล หากสอบพบว่าใช้เงินเกิน แม้จะชนะการเลือกตั้งก็มีสิทธิรับใบแดงย้อนหลัง เตือน ส.ก. — ส.ข.ระมัดระวังการใช้งบแปรญัตติซื้อของแจกชาวบ้านเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง
นายสุทธิชัย ทรรศนสฤษดิ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ขณะนี้กระแสการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครของประชาชนในกรุงเทพฯเริ่มมีความตื่นตัว เนื่องจากบรรดาว่าที่ผู้สมัครได้มีการเปิดตัวทางสื่อต่างๆ และเริ่มลงพื้นที่หาเสียงกันมากขึ้น
ดังนั้นเพื่อให้การเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยสุจริตและเที่ยงธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) จึงมีการออกประกาศ เรื่อง กำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
โดยกำหนดให้ผู้สมัครแต่ละคนต้องใช้จ่ายในการเลือกตั้งได้ไม่เกิน 37 ล้านบาท โดยจะนับรวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นภายใน 60 วัน ก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่งของ ผู้ว่าฯกทม.คนปัจจุบัน(ครบวาระ 22 ก.ค.47) ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะคิดรวมตั้งแต่ ค่าใช้จ่ายในการสมัครรับเลือกตั้ง (คนละ 50,000 บาท) ค่าจ้างแรงงานทุกประเภทเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งต้องไม่ขัดกับสภาพความเป็นจริงตามสภาพของแต่ละท้องถิ่น ค่าเช่าและค่าตกแต่งสถานที่ ค่าเช่ายานพาหนะ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าจัดซื้อวัสดุและอุปกรณ์สำหรับใช้ในการ หาเสียงเลือกตั้ง ค่าโฆษณาในสื่อต่างๆ ซึ่งนับรวมการไปร่วมออกรายการทางสถานีวิทยุ/โทรทัศน์และกิจกรรมปราศรัยต่างๆ ที่ภาค เอกชนจัดขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังรวมถึง ค่าจัดทำป้าย เอกสาร สิ่งพิมพ์ต่างๆ ที่ใช้ในการโฆษณาหาเสียง ค่าสาธารณูปโภคและค่า ไปรษณียากร ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้งที่ไม่ขัดต่อกฎหมายหรือเป็นเหตุให้การเลือกตั้งไม่สุจริต
ทั้งนี้ผู้สมัครจะต้องยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายต่อ กกต.กทม.ภายใน 90 วัน นับแต่วันประกาศผลเลือกตั้ง และภายใน 180 วัน หาก กกต.กทม.ได้รับแจ้งเหตุอันควรสงสัยว่าผู้สมัครคนใดใช้จ่ายเกินจำนวนเงินที่กำหนด จะมีการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ถ้าสอบสวนแล้วเห็นว่าใช้เงินเกินวงเงินจริงก็จะแจ้งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี และเมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เห็นด้วยให้เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งของผู้สมัครรายนั้น (ใบแดง) แม้ว่าจะเป็นผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งแล้วก็ตาม จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งขึ้นใหม่แทนตำแหน่ง ที่ว่าง
นอกจากนี้ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ยังขอความร่วมมือจากนักการเมืองท้องถิ่น ได้แก่ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภาเขต ให้ระมัดระวังเรื่องการใช้งบแปรญัตติจัดซื้อวัสดุ ครุภัณฑ์ แจกจ่ายให้กลุ่มมวลชน หรือสถาบันใดๆ ในช่วง 60 วันก่อนผู้ว่าฯกทม.คนปัจจุบันครบวาระ เพราะจะเข้าลักษณะข้อห้ามตามมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 และประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง วิธีการเลือกตั้งหรือลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง พ.ศ. 2546 ซึ่งกำหนดห้ามผู้สมัครฯหรือผู้ใด ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม อันอาจคำนวณเป็นเงินได้--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นห)--