กรุงเทพฯ--9 ก.ค.--คอร์แอนด์พีค
โซลูชั่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นบน Microsoft Private Cloud Fast Track ที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถปรับใช้โครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ส่วนตัวได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชัน หรือ เอชดีเอส ธุรกิจในเครือของบริษัท ฮิตาชิ จำกัด เปิดตัวโซลูชั่นใหม่ล่าสุดที่ได้พัฒนาขึ้นบน Microsoft Private Cloud Fast Track โดยโซลูชั่นใหม่นี้ได้ขยายขีดความสามารถในการสนับสนุนคุณสมบัติที่มากยิ่งขึ้นใน Microsoft System Center 2012 ทั้งยังครอบคลุมถึงชุดตรวจสอบ (Monitoring Pack) และ PowerShell cmdlets (อ่านว่า “command-lets”) ช่วยส่งเสริมให้การทำงานผสานได้ดีมากยิ่งขึ้นกับ Virtual Machine Manager ของ Microsoft System Center 2012 รวมถึงการย้ายระบบเครื่องเสมือน (virtual machine) ในขณะที่ทำงานอยู่ให้เป็นไปได้อย่างราบรื่น ทั้งในไซต์เดียวกันและข้ามไซต์ได้ระยะทางไกลถึง 200 กิโลเมตร นอกจากนี้ โซลูชั่้นใหม่ที่ฮิตาชิพัฒนาขึ้นบน Microsoft Private Cloud Fast Track ยังมีคุณสมบัติในการจัดเตรียมทรัพยากรเพื่อใช้ในการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลได้อย่างครอบคลุม ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดเตรียมเครื่องเสมือนได้อย่างรวดเร็ว รองรับ Orchestrator Component ของ Microsoft System Center 2012 ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
โดยโซลูชั่นที่ฮิตาชิพัฒนาขึ้นบน Microsoft Private Cloud Fast Track นี้ ได้รวมระบบประมวลผลและระบบจัดเก็บข้อมูลของฮิตาชิเข้ากับโครงสร้างเครือข่ายมาตรฐาน และซอฟต์แวร์ Windows Server 2008 R2 Hyper-V และ System Center 2012
จากความต้องการขององค์กรธุรกิจปัจจุบันที่มีต่อองค์ประกอบที่สำคัญของโครงสร้างระบบคลาวด์ส่วนตัว คือต้องเชื่อถือได้ พร้อมใช้งาน สามารถปรับขยายได้ รองรับผู้ใช้ได้พร้อมกันหลายคน และมีการจัดเก็บข้อมูลหลายระดับชั้น บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ จึงเดินหน้าเพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าวของลูกค้าโดยมุ่งเน้นไปที่ศูนย์ข้อมูลผ่านมุมมองทางธุรกิจ ตลอดจนปรับโซลูชั่นให้สอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจที่หลากหลาย และขับเคลื่อนนวัตกรรมจากองค์ประกอบทั้งหมด ความสำเร็จครั้งล่าสุดซึ่งเกิดจากความร่วมมือของบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ และบริษัท ไมโครซอฟท์ ทำให้โซลูชั่นใหม่ของฮิตาชิที่ถูกพัฒนาขึ้นบน Microsoft Private Cloud Fast Track ช่วยองค์กรธุรกิจให้สามารถปรับใช้โครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยความสามารถในการคาดการณ์และนำไปสู่ระบบการทำงานแบบอัตโนมัติและการจัดการรวมกลุ่มระบบ
"โซลูชั่นใหม่ของฮิตาชิที่พัฒนาขึ้นบน Microsoft Private Cloud Fast Track นำเสนอโครงสร้างพื้นฐานในรูปแบบบริการ (infrastructure as a service) ที่น่าเชื่อถือและสามารถปรับขยายได้ให้กับลูกค้า โดยสามารถปรับใช้กับแอพพลิเคชั่นของไมโครซอฟท์ที่มีอยู่ได้อย่างรวดเร็ว" ไบรอัน เฮาส์โฮลเดอร์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการตลาดทั่วโลก การพัฒนาธุรกิจและคู่ค้า บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ กล่าว และว่า "สำหรับการปรับใช้ระบบคลาวด์ส่วนตัว เราได้จัดเตรียมระบบพื้นฐานที่ผสานรวมซอฟต์แวร์ คำแนะนำ และการปรับใช้ที่ผ่านการรับรองจากบริษัท ไมโครซอฟท์ ร่วมกับเทคโนโลยีด้านการประมวลผล การจัดเก็บข้อมูล และซอฟต์แวร์ของบริษัท ฮิตาชิ ซึ่งนั่นจะช่วยให้ลูกค้าของเราทั้งสองบริษัทสามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ส่วนตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยมีกระบวนการจัดเตรียมที่ยืดหยุ่น ทันท่วงที และมีทรัพยากรเฉพาะ พร้อมด้วยการทำงานที่มีประสิทธิภาพที่สามารถควบคุมคุณสมบัติต่างๆ ที่ใช้ร่วมกัน ตลอดจนควบคุมข้อมูล และค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด"
"โซลูชั่นใหม่ของฮิตาชิที่ถูกพัฒนาขึ้นบน Microsoft Private Cloud Fast Track นี้ได้ผสานรวมความความสามารถในการจัดการภารกิจสำคัญ จากทั้งฮิตาชิและไมโครซอฟท์ พร้อมด้วยคุณสมบัติที่ผ่านการพิสูจน์แล้วของ System Center 2012, Windows Server และ Windows Server Hyper-V ภายใต้สถาปัตยกรรมแบบคลาวด์ส่วนตัว" แบรด แอนเดอร์สัน รองประธาน ฝ่ายการจัดการและความปลอดภัย บริษัท ไมโครซอฟท์ กล่าว และว่า "เป้าหมายคือการช่วยลูกค้าให้สามารถปรับใช้ระบบคลาวด์ส่วนตัวได้อย่างรวดเร็วและเชื่อถือได้ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์จากทั้งฮิตาชิ และไมโครซอฟท์"
ทั้งนี้ บริษัท ฮิตาชิ จำกัด, บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ และบริษัท ไมโครซอฟท์ มีความสัมพันธ์อย่างยาวนานในการนำเสนอโซลูชั่นที่มีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจให้กับลูกค้าทั่วโลก โดยโซลูชั่นของฮิตาชิที่สนับสนุนแอพพลิเคชั่นของไมโครซอฟท์ ได้แก่ Hitachi Compute Blade และ Hitachi Virtual Storage Platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระบบจัดเก็บข้อมูลเสมือนจริงชั้นนำสำหรับศูนย์ข้อมูลขององค์กร รวมถึง Hitachi Adaptable Modular Storage System และ Hitachi Storage Cluster for Microsoft Hyper-V โซลูชั่นที่รองรับการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์กับระบบจัดเก็บข้อมูลเสมือนจริง (end-to-end server-to-storage virtualization)
แหล่งข้อมูลบนเว็บ
- โซลูชั่นฮิตาชิสำหรับไมโครซอฟท์
- Hitachi Storage Cluster for Hyper-V
- ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Hitachi Compute Blade Family
- ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Hitachi Converged Data Center Solutions
- ติดตามความเคลื่อนไหวของเราทาง Twitter
- ติดต่อกับเราทาง LinkedIn
- เป็นเพื่อนกับเราทาง Facebook
เกี่ยวกับ ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์
ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ให้บริการ โซลูชั่น และเทคโนโลยีสารสนเทศระดับดีเยี่ยมที่ให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่น่าสนใจแก่ลูกค้า อัตราผลต่อแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) ที่โดดเด่น และแสดงให้เห็นประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับอย่างชัดเจน ด้วยมุมมองด้านไอทีเสมือนจริงแบบยั่งยืน อย่างอัตโนมัติ และความพร้อมเพื่อใช้งานระบบคลาวด์ โดย ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ได้นำเสนอโซลูชั่นที่สามารถปรับปรุงต้นทุนด้านไอทีและก่อให้ความคล่องตัวในระดับสูง และด้วยพนักงานกว่า 5,700 คนทั่วโลก ทำให้ ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ สามารถดำเนินธุรกิจได้ในกว่า 100 ประเทศและภูมิภาคต่างๆ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชั่นของ ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรชั้นนำทั่วโลก ซึ่งรวมถึงองค์กรกว่า 70% ของทำเนียบฟอร์จูน 100 และกว่า 80% ของทำเนียบฟอร์จูนโกลบอล 100 ด้วย โดย ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เชื่อว่าข้อมูลจะเป็นตัวขับเคลื่อนโลกของเราและสารสนเทศคือกระแสใหม่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ http://www.hds.com
เกี่ยวกับบริษัท ฮิตาชิ จำกัด
บริษัท ฮิตาชิ จำกัด (ชื่อในตลาดหุ้นโตเกียว: 6501) มีสำนักงานใหญ่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำระดับโลก ด้วยจำนวนพนักงานทั่วโลกประมาณ 320,000 คน โดยในปีงบประมาณ 2554 (จนถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2555) บริษัทฯ มียอดขายรวม 9,665 พันล้านเยน (117.8 พันล้านดอลลาร์) ทั้งนี้ บริษัท ฮิตาชิ จะให้ความสำคัญกับธุรกิจด้านนวัตกรรมทางสังคมมากขึ้น ซึ่งรวมถึงระบบสารสนเทศและโทรคมนาคม ระบบไฟฟ้า สภาพแวดล้อม ระบบอุตสาหกรรมและการขนส่ง ระบบสังคมและเมือง รวมถึงวัตถุดิบและครอบคลุมอุปกรณ์ที่ใช้ในการสนับสนุนธุรกิจดังกล่าว สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ฮิตาชิ สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ http://www.hitachi.com