กรุงเทพฯ--9 ก.ค.--กรมส่งเสริมการส่งออก
นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการส่งออกรายงานการเจาะตลาดการค้าในภูมิภาคยุโรป ของกลุ่มประเทศนอร์ดิกส์ ซึ่งประกอบด้วยเดนมาร์ก สวีเดน (ไม่ใช่เงินสกุลยูโร) ฟินแลนด์ นอร์เวย์และไอซ์แลนด์ ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่มากนัก อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจยังอยู่ในแดนบวก โดยมีสัญญาณที่ดีว่านักลงทุนของกลุ่มสนใจเข้ามาลงทุนในแถบเอเซียมากขึ้น รวมถึงไทยด้วย ทั้งกลุ่มพลังงาน ยาและเภสัชกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะกลุ่มนอร์ดิกส์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีนวัตกรรมสร้างสรรค์ 1 ใน 5 ของโลก ซึ่งเป็นผลดีต่อการนำนวัตกรรมและเทคโนโยยีมาพัฒนาระบบการผลิตให้ทันสมัย รักษ์สังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างเป็นระบบที่ยั่งยืน
“ไทยสามารถพัฒนาความร่วมมือทางด้านการค้าและการลงทุนกับกลุ่มนอร์ดิกส์ได้อีกหลายสาขา เช่น อุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคม พลังงานสีเขียว (Green Energy & Green Technology) เทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งเป็นจุดเด่นของนอร์ดิกส์ อุตสาหกรรมเหมืองแร่ในกรีนแลนด์ เทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที) และเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมเกษตร ซึ่งสินค้าเกษตรกรรมเป็นสินค้าส่งออกที่สาคัญของเดนมาร์ก รวมถึงการออกแบบดีไซน์ต่างๆ”นายภูมิ กล่าว
นอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มประเทศที่มีเป็นแหล่งลงทุนที่น่าสนใจสำหรับไทย เป็นตลาดรองรับสินค้าระดับไฮเอ็นของไทย ไทยจึงควรให้ความสนใจในตลาดแห่งนี้ให้มากขึ้น เช่น การแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้บริหารระดับสูง เพื่อกระชับความสัมพันธ์และสร้างภาพลักษณ์ของประเทศรวมทั้งบริการสินค้าของไทย รวมทั้งควรสร้างจุดแข็งให้กับสินค้าให้แตกต่างจากคู่แข่ง เช่น สินค้าที่มีเรื่องราวความเป็นมา สินค้าที่มีการค้าซื้อขายที่เป็นธรรม เป็นสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการออกแบบที่ดี ทันสมัย เพื่อสร้างมูลค่าและคุณค่าสินค้า เป็นต้น
สำหรับกรณีเอกชนขอเรียกร้องภาครัฐเร่งพิจารณาผลักดันร่างแก้ไขพระราชกฤษฎีกา ฉบับที่ 442 ที่ว่าด้วยการยกเว้นภาษีให้กับบริษัทไทยที่ออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพราะเป็นกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อการสนับสนุนให้ธุรกิจคนไทยออกไปลงทุนต่างประเทศนั้น ภาครัฐกำลังพิจารณาในทุกมิติ ซึ่งตามนโยบายของรัฐบาลต้องการลดภาระให้ผู้ส่งออกมากที่สุด และยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับภาคธุรกิจไทยในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มนอร์ดิกส์เป็นตลาดศักยภาพ ประชากรมีรายได้สูงเฉลี่ยต่อหัวสูงอันดับต้นของโลก ทำให้มีอำนาจซื้อสูง และนิยมจับจ่ายใช้สอยมากกว่าการออม ให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพ มาตรฐานสินค้า ความปลอดภัยและห่วงใยสุขภาพ การตรวจสอบย้อนกลับ การค้าที่เป็นธรรม การรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มากกว่าเรื่องราคา และนิยมทำการซื้อขายแบบยั่งยืน เมื่อซื้อจากผู้ส่งออกแล้ว จะไม่เปลี่ยนไปหาผู้ผลิตรายอื่นๆง่ายๆ เป็นตลาดที่มีมาร์จินสูง เนื่องจากเป็นตลาดนิยมสินค้าคุณภาพดี อีกทั้งเป็นตลาดที่ยอมรับสินค้าใหม่ๆ ได้ง่าย เหมาะสำหรับการเป็นตลาดทดลองสินค้าที่มีความคิดสร้างสรรค์ หรือมีนวัตกรรมใหม่
“กลุ่มนอร์ดิกส์เป็นกลุ่มประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร สินค้าอุปโภค บริโภคต่างๆ เนื่องจากภูมิอากาศและภูมิประเทศไม่ค่อยอำนวย เป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ เช่น น้ำมันและก๊าซ ปลา ป่าไม้ ตลอดจนมีนวัตกรรม และเทคโนโลยีระดับสูง เช่น ยานยนต์ เคมีภัณฑ์ พลังงานทางเลือก มีชื่อเสียงในด้านการออกแบบเป็นที่ยอมรับของโลก โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ โคมไฟ ฯลฯ สินค้าต่างๆ เน้นการออกแบบลักษณะสแกนดิเนเวีย ดีไซน์ และมินิมาลิส (Minimalist) ซึ่งมีรูปแบบเน้นความเรียบง่าย สะดวกสบาย ดูดีมีสไตล์เฉพาะ โดยเน้นด้านประโยชน์ใช้สอย ซึ่งไทยสามารถนำมาพัฒนาสินค้า”นางนันทวัลย์ กล่าว
ปัจจุบันมีสินค้าไทยที่เข้าตลาดนอร์ดิกส์ได้ด้วยแบรนด์ของตนเองมากมาย เช่น สินค้าอาหารเครือซีพี สินค้าของใช้ในครัวเรือน ข้าวและ Propaganda สินค้าประเภทสปา หาญ และ ธัญ เป็นต้น อีกทั้งกลุ่มนอร์ดิกส์มีแนวโน้มเข้าไปทำการค้าและการลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น นักธุรกิจไทยสามารถเรียนรู้ความชำนาญต่างๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพในการขยายการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศในยุโรป และทั่วโลกได้